หุ้นสื่อนอกบ้านเริ่มเห็นแววฟื้นตัว
กูรูชี้มีโอกาสเติบโตอีกมาก
PLANB เด่นสุด รับผลงานดีดตัวขึ้นแข็งแกร่ง

.
ผลประกอบการของสื่อ OOH ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นแล้วว่าธุรกิจนี้ได้อานิสงส์จากการที่เศรษฐกิจฟื้นตัวหลัง Covid-19 ซึ่งฝ่ายวิเคราะห์ประเมินว่าผลบวกดังกล่าวยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของวัฏจักรการเติบโตของกำไรเท่านั้น เพราะส่วนแบ่งตลาดของรายได้จากกลุ่มสื่อ OOH ยังมีแนวโน้มเติบโตได้อีกมากในอนาคตเมื่อเทียบกับกลุ่ม TV
.
บล.กรุงศรี ระบุว่า ยังคงมุมมองที่ระมัดระวังกับหุ้นกลุ่มสื่อ โดยเฉพาะในระยะสั้น เนื่องจากเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นจะฉุดกำลังซื้อของผู้บริโภค ดังนั้นจึงยังคงชอบสื่อ OOH มากกว่าสื่อ TV เนื่องจากเหตุผลสามประการ ได้แก่
.
1. มีการตัดงบโฆษณาบนสื่อ OOH ลงอย่างมาก ในช่วงที่ Covid-19 ระบาดในปี 2563-2564 ดังนั้นการที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจดีขึ้น และผู้คนกลับเข้าทำงานที่ออฟฟิศ รวมถึงการกลับเข้าเรียนที่สถานศึกษาจึงน่าจะมีบทบาทสำคัญที่ช่วยหนุนให้รายได้จากสื่อ OOH เพิ่มขึ้นได้ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป
.
2. มองว่ายอดโฆษณาผ่านสื่อ OOH ของไทยยังมีช่องให้เติบโตได้อีกอย่างน้อยสามปี เพราะวิถีชีวิตของ คนไทยมีแนวโน้มจะอยู่นอกบ้านมากกว่าอยู่บ้าน ดังนั้นสัดส่วนของรายได้จากสื่อ OOH ในประเทศไทยที่ 15% จึงน่าจะยังขยายตัวได้อีกโดยเทียบจากของประเทศที่พัฒนาแล้วในเอเชียอย่างเช่น ฮ่องกง 20% และสิงคโปร์ 17% และ 3. มองว่าการที่ธุรกิจในกลุ่มสื่อ OOH รวมตัวกันในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งนำโดย PLANB จะทำให้เกิดกลยุทธ์ที่มี ประสิทธิภาพ เช่น BKK takeover ที่ออกมาในปี 2561 ซึ่งจะทำให้สามารถชิงงบโฆษณามาจากสื่อ TV ได้มากขึ้น
.
ซึ่งบล.กรุงศรี เลือก PLANB เป็นหุ้นเด่นเพียงตัวเดียวในกลุ่มสื่อ โดยยังคงราคาเป้าหมายเอาไว้ที่ 8.50 บาท ด้วยผลประกอบการในไตรมาส 3/65 อาจจะชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้าเล็กน้อย เนื่องจากผลกระทบจากกำลังซื้อที่ลดลงเพราะเงินเฟ้อที่สูง อย่างไรก็ตาม บล.กรุงศรีคาดว่าผลประกอบการจะดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 4/65 และในปีหน้าจากปัจจัยฤดูกาลและเงินเฟ้อผ่านช่วงสูงสุดไปแล้ว
.
ส่วน VGI คาดว่าใกล้จะพลิกฟื้นแล้ว เพราะในที่สุดบริษัทจะได้อานิสงส์จากการที่ผู้โดยสารรถไฟฟ้า BTS เพิ่มขึ้น แต่ยังไม่อาจจะพลิกฟื้นได้อย่างแข็งแกร่ง เพราะจะมีการรวมบริษัทใหม่ (NINE) ที่ยังขาดทุนอยู่เข้ามาในงบรวมของบริษัทด้วย ซึ่งจะเป็นตัวฉุดผลประกอบการไปอีกอย่างน้อยสองปี ลดทอนความแข็งแกร่งของการฟื้นตัวของกำไรจากธุรกิจสื่อ OOH ลง อีกทั้งยังไม่มีสัญญาณว่า KEX จะพลิกฟื้น ถึงแม้ว่าบล.กรุงศรี จะยังคงคำแนะนำซื้อ VGI ราคาเป้าหมาย 5.50 บาท แต่มองบวกน้อยลง
.
ขณะที่ MAJOR บล.กรุงศรี ยังคงคำแนะนำ ซื้อ จากธีมการฟื้นตัวหลังโรคระบาดผ่านไป ขณะเดียวกันได้ปรับลดประมาณการกำไรปี 2565 ลง 35% เพื่อสะท้อนถึงรายได้ที่ลดลงในไตรมาส 2/65 และแนวโน้มกำไรที่จะแผ่วลงในไตรมาส 3/65 เมื่ออิงตามประมาณการใหม่ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงคาดว่าผลการดำเนินงานจะพลิกฟื้นได้ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป โดยยังคงคำแนะนำ ซื้อ แต่ปรับลดราคาเป้าหมายจาก 24 บาทเหลือ 23 บาท