เป็นมากกว่า"นักลงทุน" ซื้อหุ้นแบบ "เจ้าของ"
ด้วยหลักของ demand & supply มันฟันธงได้เลยว่า อะไรที่คนส่วนใหญ่มองว่าดีไม่เสี่ยง ย่อมหมายความว่า โอกาสที่จะทำกำไรจากสิ่งนั้นแล้วจะรวยมหาศาลแทบจะเป็นไปไม่ได้
ถ้าคนส่วนใหญ่มองถูกทุกคนคงจะรวยกันไปหมดแล้ว แต่ระบบเศรษฐกิจที่ทุกคนเชื่อว่า ตั้งอยู่บนหลักของเหตุผล แท้จริงแล้วมันอยู่บนหลักของ demand & supply ต่างหาก ซึ่งก็คือความจริงที่ว่า คนส่วนใหญ่ต้องจนและคนส่วนน้อยที่รวย
ประเด็น คือ เราจะทำอย่างไร ให้เราคิดเหมือนคนส่วนน้อยให้ได้ เราถึงจะประสบความสำเร็จและร่ำรวย
อย่างเรื่องการออมเวลานี้ คนส่วนใหญ่คิดว่า ออมในเงินฝากดี ออมในพันธบัตรรัฐบาลดี ออมในที่ดินดี แปลว่าที่พูดมามันดีอยู่แล้ว คุณจะหาโอกาสหรือของถูกผลตอบแทนดีจากการออมในเรื่องดังกล่าวได้ยาก
หุ้น ในยุคนี้ใครๆก็มองว่าเสี่ยง แต่จริงๆแล้วการออมในหุ้น เป็นการขจัดความเสี่ยงโดยใช้การลงทุนให้ยาวผ่านความผันผวน และสิ่งที่ได้เข้ากระเป๋าแบบชัวร์ๆระหว่างถือหุ้นก็คือ ปันผล ทุกปี สรุปแล้ว การออมในหุ้นมันมีโอกาสอยู่เยอะ มันคือการซื้อหุ้นปันผลดี ถือผ่านวิกฤต ราคาแกว่งก็ไม่ได้สำคัญอะไร คนที่ออมในหุ้นจะได้ผลตอบแทนจากมูลค่า Value ซึ่งคือปันผลที่ได้ทุกปี และเขามักซื้อหุ้นในช่วงมีข่าวร้ายหรือวิกฤตที่ทำให้คนที่ออมในหุ้นซื้อได้ในราคาที่ถูกเสมอ
หุ้นพื้นฐานดีๆในตลาดสามารถขึ้นได้หลายร้อยเท่า ในเวลาไม่กี่สิบปี เช่น scc 400 เท่าใน 30 ปี , ปตท 10 เท่าใน 10 ปี
ไม่ต้องสงสัยหรอกว่าโอกาสมันยังอยู่ในหุ้นหรือเปล่า เพราะคนส่วนใหญ่ยังมองว่าหุ้นเสี่ยง ก็ทำให้เข้าหลัก demand & supply ยุคนี้ คนที่จะรวยต้องกล้าออมในหุ้นนั่นเอง