World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้

World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้

—สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปรับตัวลงเล็กน้อยในวันนี้ (17 ธ.ค.) ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดลบเมื่อวานนี้ (16 ธ.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดลดลงเช่นกัน โดยตลาดถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเฮลท์แคร์ ขณะที่นักลงทุนประเมินข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยล่าสุด ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรและยอดค้าปลีก เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในปีหน้า

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ลงนามในคำประกาศเมื่อวันอังคาร เพื่อขยายรายชื่อประเทศที่อยู่ภายใต้มาตรการจำกัดการเดินทางเข้าประเทศแบบทั้งหมดหรือบางส่วน ครอบคลุมราว 40 ประเทศ โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2569

ทำเนียบขาวระบุว่า ทรัมป์ได้ลงนามในคำประกาศเพื่อขยายและเสริมความเข้มงวดของมาตรการจำกัดการเดินทางต่อพลเมืองจากประเทศที่มีข้อบกพร่องรุนแรง ต่อเนื่อง และชัดเจนในด้านการคัดกรอง การตรวจสอบประวัติ และการแบ่งปันข้อมูล เพื่อปกป้องประเทศจากภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติและความปลอดภัยสาธารณะ

-- รัฐบาลทหารของเมียนมาเปิดเผยว่า ออง ซาน ซูจี อดีตผู้นำเมียนมา ยังคงมีสุขภาพที่แข็งแรง หลังจากที่ คิม อาริส บุตรชายของซูจีให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า เขาแทบไม่ได้รับข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับอาการของมารดาวัย 80 ปี และกังวลว่าเธออาจเสียชีวิตโดยที่เขาไม่รู้ข่าว

- ดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า ข้อเสนอจากฝ่ายยูเครนที่ต้องการให้มีการพักรบในช่วงคริสต์มาสนั้น จะขึ้นอยู่กับว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถบรรลุข้อตกลงสันติภาพได้หรือไม่

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวว่า ยูเครนสนับสนุนแนวคิดหยุดยิง โดยเฉพาะการยุติการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส

-- นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนม.ค. 2569 หลังการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานเมื่อวานนี้

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 75.6% ต่อคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 3.50-3.75% ในการประชุมเดือน ม.ค.2569 และให้น้ำหนัก 24.4% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.25-3.50%

-- กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 64,000 ตำแหน่งในเดือน พ.ย. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 50,000 ตำแหน่ง

ส่วนอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.6% และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.5%

-- ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 16,250 ตำแหน่งต่อสัปดาห์ในช่วง 4 สัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 22 พ.ย.

ตัวเลขการจ้างงานดังกล่าวบ่งชี้การขยายตัวของตลาดแรงงานสหรัฐฯ หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ADP รายงานตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 4,750 ตำแหน่งต่อสัปดาห์ในช่วง 4 สัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 15 พ.ย.

-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกทรงตัวในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.1% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนก.ย.

เมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 3.5% ในเดือนต.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 4.2% ในเดือนก.ย.

หากไม่รวมยอดขายน้ำมันและรถยนต์ ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือน ต.ค. หลังจากทรงตัวในเดือนก.ย.

-- เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับ 53.0 ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน จากระดับ 54.2 ในเดือนพ.ย.

ดัชนี PMI ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของการจ้างงานและคำสั่งซื้อใหม่ ขณะที่ภาคธุรกิจมีความเชื่อมั่นมากขึ้นจากคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) รวมทั้งการใช้มาตรการกระตุ้นทางด้านการคลังของรัฐบาล

ดัชนี PMI ยังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้การขยายตัวของภาคธุรกิจสหรัฐฯ

-- ข้อมูลและเหตุการณ์เศรษฐกิจสำคัญในวันนี้ (17 ธ.ค.) มีดังนี้:-

ญี่ปุ่นเปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนพ.ย. รวมถึงยอดสั่งซื้อเครื่องจักรเดือนต.ค.

อังกฤษเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ย.

ธนาคารกลางอินโดนีเซียประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย

เยอรมนีเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนธ.ค.จากสถาบัน Ifo

อียูเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ย.

สหรัฐฯ เปิดเผยสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA), ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนต.ค.