“ฉาย บุนนาค”ผลัดใบครั้งใหญ่ บิ๊กมูฟ AQUA สู่ธุรกิจใหม่
ดีลรวมกิจการ “สื่อนอกบ้าน” ระหว่าง แพลนบี มีเดีย( PLANB) และ อควา คอร์เปอเรชั่น ( AQUA ) มูลค่ารวม 2,882 ล้านบาท นอกจากจะทำให้เป็นการรวมธุรกิจไปสู่ความแข็งแกร่งในอนาคต หากแต่มีคำถามตามมาเสมอว่า AQUA ที่ขายกิจการหลักออกไปจะปรับธุรกิจไปทิศทางใดต่อจากนี้
PLANB ที่ซื้อ 2 บริษัทย่อย AQUA คือ บมจ.อควา แอด (AA)และ บริษัท บอร์ดเวย์ มีเดีย จำกัด (BWM)
ด้วย 2 บริษัทย่อยดังกล่าวดำเนินธุรกิจหลักของบริษัทคือ สื่อโฆษณานอกบ้าน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาเป็นหนึ่งในอีกหลายธุรกิจได้รับผลกระทบจากโควิด
ผลดำเนินงาน AQUA ไตรมาส 3 ปี 2564 มีรายได้รวมจากการประกอบธุรกิจและการลงทุนจำนวน 210.21 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 359.79 ล้านบาท หรือลดลง 63% ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 28.28 ล้านบาท ลดลงถึง 92% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่กำไรสุทธิ 362.94 ล้านบาท
ขณะที่ PLANB เป็นคู่แข่งกันมาตลอดในช่วง 10 ปี ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสื่อนอกบ้าน สัดส่วนมาร์เก็ตแชร์มากถึง 23% มีการบริหารสื่อระบบรถไฟฟ้ามหานคร (MRT) รวมไปถึงการรุกสื่อสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งตั้งแต่ปี 2559 ที่สำคัญยังมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ผ่าน บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO และ บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI ซึ่งถือว่าเป็นยักษ์ใหญ่ในกลุ่มสื่อนอกบ้านก็ว่าได้
ดีลนี้ได้เปลี่ยนจากคู่แข่งกลายเป็นพันธมิตร เพราะทาง PLANB จะมีการเพิ่มทุน เฉพาะเจาะจง (PP) ให้ AQUA จำนวน 84 ล้านหุ้นที่ราคาหุ้นละ 7.22 บาท ภายใต้เงื่อนไขล็อกขายหุ้น 2 ปี
การตัดสินใจเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ “ฉาย บุนนาค” รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ AQUA เปิดใจถึงดีลที่สามารถบรรลุข้อตกลงได้อย่างราบรื่น เพื่อส่งต่อ Aqua Ad รวมถึง Boardway ที่ผูกพันให้กับ PLANB เนื่องจากเชื่อมั่นว่าคือองค์กรที่ใช่ ซึ่งสามารถพัฒนาบริษัทที่เสมือนลูกให้มีความเจริญก้าวหน้าและมั่นคง
“แม้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้ทำให้ใจหาย อย่างไรก็ตามสัจธรรมคือทุกสิ่งเกิดขึ้นและต้องเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แต่คือการมองทั้งอุตสาห กรรมสื่อนอกบ้าน ที่จะมีความสร้างสรรค์มากขึ้น ซึ่งประชาชนจะได้พบกับนวัตกรรมใหม่จาก Plan B โดยมี Aqua เป็นพันธมิตรรและหุ้นส่วนแห่งความสำเร็จ เป็นประโยชน์สูงสุดต่อทุกภาคไม่ใช่เฉพาะตัวเงินมูลค่า 2.9 พันล้านบาทเท่านั้น”
ส่วนของพนักงานก็จะมีอาชีพการงานที่มั่นคงต่อไป ซึ่งขอฝากถึงพนักงานทุกคนขอให้โชคดี ตั้งใจทุ่มเทมุ่งมั่นในอาชีพการงานต่อไปและบนเส้นทางแห่งความสำเร็จที่กำลังจะมาถึง ซึ่งบางครั้งอาจต้องเริ่มต้นด้วยการบอกลา และขอให้กรณีนี้เป็นกรณีศึกษาตัวอย่างว่าบางครั้งการทำลายคู่แข่งทางธุรกิจที่ดีที่สุด คือ การทำให้กลายเป็นมหามิตร
“ขอให้กรณีนี้เป็นกรณีศึกษาตัวอย่างว่า บางครั้งการทำลายคู่แข็งทางธุรกิจที่ดีที่สุด คือการทำให้เค้ากลายเป็นมหามิตร หากเพียงคุณเปิดใจให้กว้าง… มองให้ครบทุกมิติและตัดสินใจด้วยเหตุผล #นวัตกรรม… นวัตกรรม… นวัตกรรม… ป้ายต่อไปของ Aqua…”
ฉาย ระบุว่า AQUA ภายใต้บริบทใหม่แม้จะไม่มีธุรกิจสื่อนอกบ้านอยู่ในมือยังประกอบธุรกิจหลักในบริษัทที่ทำรายได้อย่างสม่ำเสมอ ได้แก่ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าและบริการ ผ่านบริษัท ไทยคอนซูมเมอร์ ดิสทริบิวชั่น เซ็นเตอร์ จำกัด (TCDC) ซึ่งประกอบธุรกิจให้เช่าคลังสินค้า
ปัจจุบันมีพื้นที่เช่ารวม 130,000 ตารางเมตร อัตราการเช่า 98% และอยู่ระหว่างการเจรจากับยูนิลิเวอร์ ซึ่งเป็นผู้เช่าเดิมที่สนใจเช่าพื้นที่เพิ่มเติม โดยที่ธุรกิจคลังสินค้าให้เช่ายังคงเป็นธุรกิจหลักที่สร้างกำไรเข้ามาให้กับบริษัทราว 200 ล้านบาทต่อปี และธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค บริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด มหาชน หรือ EP มีส่วนแบ่งกำไรโดยเฉลี่ยปีละ 100-150 ล้านบาท ซึ่งเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
โดยมีกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ราว 160 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างการพิจารณาเข้าลงทุนเพิ่มในโครงการพลังงานลมในเวียดนามกับพันธมิตรอีก 1 โครงการ แต่ขึ้นกับการตัดสินใจลงทุนของพันธมิตร
ธุรกิจใหม่เปิดเผยมาแล้วว่าเกี่ยวข้องกับนวัตกรรม ซึ่งรูปแบบการลงทุนอยู่ระหว่างการศึกษาเป็นไปได้ทั้งการเข้าลงทุนถือหุ้นทั้งหมดหรือการเข้าถือหุ้นบางส่วน เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ต้องขอใบอนุญาตจากภาครัฐ แต่จะเข้ามาสนับสนุนการเติบโตของบริษัทในระยะต่อไป และจะมีการเปิดตัวเดือนก.พ.นี้
อดใจรอ ...บิ๊กมูฟของ AQUA สู่ธุรกิจใหม่ครั้งนี้