ห้องเม่าปีกเหล็ก

ชี้ 2 ธีม “หุ้นกลาง-เล็กจีน” & “หุ้นเทคฯ สหรัฐ”...

โดย DAVINCI
เผยแพร่ :
231 views

ชี้ 2 ธีม “หุ้นกลาง-เล็กจีน” & “หุ้นเทคฯ สหรัฐ”... “กำไรโตโดดเด่น” ท่ามกลางศก.ชะลอตัว-แนะจังหวะน่าลงทุน !!!

 

Fund Manager View: เศรษฐกิจหลักของโลกไม่ว่าจะ “สหรัฐ” หรือ “จีน” มีแนวโน้มชะลอตัวลงชัดเจน ซึ่งย่อมจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกโดยรวมไม่มากก็น้อย


“เงินเฟ้อ” ที่ตลาดเป็นกังวล แม้จะมองว่าอาจจะผ่าน ‘จุดสูงสุด’ ไปแล้วนั้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะปรับตัวลงสู่ระดับปกติแต่ประการใด แต่น่าจะยังทรงตัวใน ‘ระดับสูง’ ที่พร้อมจะกดดันตลาดการลงทุนต่อไป


แต่ในภาวะเช่นนี้ ก็มาพร้อมกับโอกาสการลงทุน ไม่ว่าจะเป็น “หุ้นกลาง-เล็กจีน” และ “หุ้นเทคฯ สหรัฐ” ซึ่งถือเป็น 2 ดาวเด่นในมรสุมเศรษฐกิจถดถอยเลยทีเดียว


วันนี้ ทีมงาน ‘โต๊ะกองทุน Wealthythai’ มีมุมมองการลงทุนที่น่าสนใจมาอัพเดทกันเช่นเคย



“หุ้นจีนขนาดกลาง-เล็ก” โอกาสที่เหนือกว่า ‘หุ้นขนาดใหญ่’...ดาวเด่นที่พร้อมโตตามศก.

แม้เศรษฐกิจจีนในปีนี้ โอกาสจะโตได้ตามเป้า 5.5% ตามที่รัฐบาลวางไว้นั้น ดูเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก แต่ใช่ว่า “หุ้นจีน” จะดูแย่ไปด้วย โดยเฉพาะใน ‘หุ้นขนาดกลางและเล็ก’ ที่มีคุณภาพและมีโอกาสการเติบโตสูงไปพร้อมกับเศรษฐกิจจีนในระยะยาว ซึ่งกระจายการลงทุนครอบคลุมในกลุ่มเมกะเทรนด์ในหลากหลายตลาดที่มีโอกาสเติบโตของจีน


โดย “โรเบิร์ต เพนนาโลซา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.อเบอร์ดีน (ประเทศไทย) มองว่า โอกาสการลงทุนตลาด “หุ้นจีน” ยังคงมีเสน่ห์และน่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘หุ้นขนาดกลางและเล็ก’ ซึ่งถือเป็นดาวเด่นของตลาดหุ้นจีน เนื่องจากบริษัทขนาดกลางและเล็กมีความหลากหลาย กระจายอยู่ในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม  เช่น กลุ่ม New Economy, Growth และ Innovation มีโมเดลธุรกิจที่ชัดเจน ตอบโจทย์มิติใหม่ของความต้องการในโลกอนาคต มีพื้นฐานที่ดีและแข็งแกร่ง ตลอดจนได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ ค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับหุ้นขนาดใหญ่ที่ราคาหุ้นมีความผันผวน รวมถึงนโยบายของภาครัฐที่ให้การสนับสนุนหุ้นขนาดกลางและเล็กอย่างมีนัยสำคัญ เพราะมองถึงโอกาสการเติบโตอย่างก้าวกระโดดและยั่งยืน พร้อมทั้งจะเป็นแกนหลักสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจีน


“แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดหุ้นจีน ได้รับผลกระทบค่อนข้างมากจากปัจจัยทั้งภายในและนอกประเทศโดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ จนทำให้ภาพรวมของการลงทุนของจีนค่อนข้างซบเซา อย่างไรก็ตามรัฐบาลเตรียมออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้จีนกลับมามีความน่าสนใจและมีทิศทางที่ดีขึ้น หลังจากมีแนวโน้มว่าจะ ‘ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว’ ทั้งนี้ ‘หุ้นขนาดกลางและเล็ก’ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่จะช่วยกระจายความเสี่ยงในช่วงที่ตลาดหุ้นถูกกดดันจากปัจจัยแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อหุ้นขนาดใหญ่ ทำให้เราเล็งเห็นโอกาสการลงทุนหุ้นขนาดกลางและเล็กที่มีแนวโน้มเติบโตมากกว่าและถือเป็นหุ้นดาวเด่นของโลกอนาคต”



“หุ้นเทคฯ” มีโอกาสกลับมาฟื้นแรงท่ามกลางศก.ถดถอย...เหตุ ‘กำไรยังโตดี’

“ดอกเบี้ยขาขึ้น” ของสหรัฐ ที่เขย่าขวัญ “หุ้นเทคฯ” ในช่วงที่ผ่านมา ยังคงเป็นปัจจัยที่กดดันหุ้นกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่อง แต่พลันที่ “เงินเฟ้อ” ส่งสัญญาณผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ทิศทางดอกเบี้ยก็พร้อมจะเปลี่ยนทิศและนั่นอาจเป็นสัญญาณบวกของการกลับเข้าลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคฯ อีกครั้ง


โดย “สาห์รัช ชัฏสุวรรณ” ผู้อำนวยการสายการตลาด และที่ปรึกษาการลงทุน บลจ.ทิสโก้ มองว่า “หุ้นเทคโนโลยี” เป็นหนึ่งในหุ้นเมกะเทรนด์ของโลก มีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินชีวิตในปัจจุบันอย่างขาดไม่ได้ และเป็นหนึ่งในกลุ่มหุ้นที่รายได้เติบโตได้ดีในทุกสภาวะเศรษฐกิจ ขณะที่ปัจจัยลบทั้งอัตราเงินเฟ้อ และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เคยกดดันราคาหุ้นเทคโนโลยีจนราคาปรับลงแรงที่สุดในรอบ 15 ปี กำลังหมดไป เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวอายุ 10 ปีของสหรัฐ ได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และค่อยๆ ปรับตัวลดลงจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย ด้านการปรับเพิ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ “ธนาคารกลางสหรัฐ” (Fed) นั้น ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ลงทุนทิสโก้ (TISCO ESU) คาดว่าตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังของปี23 เป็นต้นไปเศรษฐกิจสหรัฐจะเริ่มชะลอตัวทำให้ Fed อาจกลับมา “หยุดการขึ้นดอกเบี้ย” หรืออาจ “ลดอัตราดอกเบี้ย” เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้ง  

“ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอนสูงเป็นจังหวะที่ดีในการลงทุนหุ้นผู้นำเทคโนโลยีที่ราคาหุ้นผันผวนต่ำ ฐานการเงินแข็งแกร่ง ผลการดำเนินงานมีโอกาสเติบโตได้ในทุกสภาวะเศรษฐกิจ ‘หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี’ มีโอกาสสูงที่ราคาจะกลับมาฟื้นตัวแรงโดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ที่เป็นผู้นำอุตสาหกรรม เพราะกำไรเติบโตได้ดีแม้จะมีวิกฤติเศรษฐกิจถดถอย โดยข้อมูลจาก Bloomberg วันที่ 26 ก.ค. 22 พบว่าอัตราการเติบโตของกำไรในระยะยาว (CAGR) ของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในช่วง 30 ปีที่ผ่านมาเติบโตในระดับ 10% สูงกว่าตลาดหุ้นรวม (S&P500) มีระดับ CAGR ที่ 6.9% ต่อปี”


และยิ่งหากเจาะลึกลงไปที่อัตราการเติบโตของกำไรหุ้นกลุ่ม Information Technology พบว่ามีอัตราการเติบโตของกำไรในระดับสูงอย่างโดดเด่น ข้อมูลจาก Bloomberg วันที่ 19 ส.ค. 22 ระบุว่าตั้งแต่ปี 2009-2021 หุ้นกลุ่ม Information Technology มีกำไรต่อหุ้น (EPS) เติบโตเฉลี่ยต่อปี อยู่ที่ 22% และมีรายได้เติบโตเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 8% ต่อปี ขณะที่ในระหว่างปี 2021-2024 คาดว่าหุ้นกลุ่มนี้จะมีรายได้เติบโต 8% ต่อปี และมีกำไรเติบโต 13.3% ต่อปี จึงถือเป็นอีกกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในช่วงนี้เพื่อหวังผลในระยะยาว


ทั้ง “หุ้นจีนขนาดกลาง-เล็ก” และ “หุ้นเทคฯ” จึงเป็น 2 หุ้นดาวเด่นในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัวอย่างแท้จริง สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ ก็สามารถเลือกมาเติมเต็มพอร์ตการลงทุนเพื่อช่วยกระจายความเสี่ยงและเพิ่มอกาสในการสร้างผลตอบแทนในระยะยาวได้ไม่มากก็น้อย

 

 


DAVINCI