ห้องเม่าปีกเหล็ก

Brexit กลายเป็นประเด็นร้อนแรงอีกครั้ง

โดย Ozone Pinyo
เผยแพร่ :
67 views

Brexit กลายเป็นประเด็นร้อนแรงอีกครั้ง
3 กันยายน 2562 / 18.33 น.

ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลงหลังจากที่จีนตัดสินใจร้องต่อ WTO (องค์การการค้าโลก) ในประเด็นการปรับขึ้นภาษีของสหรัฐ อันที่จริงข่าวมีมาก่อนหน้านี้แล้วว่าจีนอาจตัดสินใจเช่นนี้ แต่เพิ่งยื่นเรื่องต่อ WTO อย่างเป็นทางการในวันนี้

การปรับขึ้นภาษีรอบล่าสุดไม่สามารถชะลอออกไปได้ โดยมีข่าวว่าทางจีนกับสหรัฐไม่สามารถตกลงกันเรื่องวันที่จะมีการเจรจากันได้ (ตามที่ได้ระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่าเป็นเดือนนี้)

นอกจากเรื่องนี้แล้ว ประเด็นที่น่าติดตามอย่างมากก็คือเรื่องความวุ่นวายทางการเมืองในอังกฤษจากปัญหา Brexit

ค่าเงินปอนด์ปรับตัวลงหลุดระดับ 1.20 ดอลลาร์ต่อปอนด์ (เทียบกับเงินบาทเงินปอนด์อ่อนค่าเหลือแค่ 37 บาทต่อปอนด์เท่านั้น นับว่าอ่อนค่าลงอย่างมาก) จากความกังวลที่อังกฤษจะออกจาก EU แบบ no deal หรือไร้ข้อตกลง

โดยเมื่อคืนนี้มีข่าวว่า ฝ่ายค้านเตรียมทำทุกทางเพื่อคัดค้านการออกจาก EU แบบ no deal แต่ว่านายกรัฐมนตรี Boris Johnson ขู่ว่า การทำเช่นนั้นก็เหมือนการไม่ไว้วางใจต่อตัวเขา และเขาจะตัดสินใจประกาศให้มีการเลือกตั้งใหม่ (คาดกันว่าจะมีขึ้นในวันที่ 14 ตุลาคม 2562 หรือ 2 สัปดาห์ก่อนเส้นตายที่อังกฤษจะออกจาก EU)

หากเขา (ซึ่งเป็นเสียงข้างมาก) ยังคงชนะการเลือกตั้ง ก็จะมีความชอบธรรมในการนำอังกฤษออกจาก EU โดยไร้ข้อตกลง

นาย Johnson กล่าวว่า นี่เป็นกลยุทธของเขาในการที่จะให้ทาง EU ยอมประณีประนอมในข้อตกลงมากกว่าปัจจุบันนี้ เพราะเขารู้ว่าประเทศสมาชิกใน EU ไม่มีใครอยากให้อังกฤษออกจาก EU แบบไร้ข้อตกลง

แต่ทาง EU ก็ออกมาบอกว่ายอมให้สุดๆแล้วนะ ไม่มีทางที่จะยอมอ่อนให้กับทางอังกฤษมากกว่านี้ได้

หากอังกฤษออกจาก EU แบบ no deal นั่นหมายความว่า จะไม่มีข้อตกลงใดๆกับทาง EU เลย ซึ่งอาจนำมาซึ่งความวุ่นวายในหลายๆด้าน รวมถึงภาคธุรกิจที่มีการติดต่อกันก่อนหน้านี้ เพราะไม่รู้ว่าจะปฏิบัติเช่นไร ทั้งในเรื่องภาษี เรื่องการขนส่งต่างๆ

จะว่าไปแล้ว อังกฤษก็มีความสำคัญอย่างมากต่อ EU เพราะเป็นประเทศแกนหลักที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ หากความสัมพันธ์ระหว่าง EU กับอังกฤษสิ้นสุดลง ทั้ง EU และอังกฤษเองต่างก็จะได้รับผลกระทบ ซึ่้งอาจส่งผลต่อเนื่องถึงภาวะเศรษฐกิจโลก ซึ่งขณะนี้ก็ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ - จีนอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงระหว่างอังกฤษกับ EU ในสมัยที่นางเทเรซ่า เมย์เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ถูกสมาชิกสภาผู้แทนของอังกฤษโหวตคัดค้านไปถึง 3 ครั้ง 3 ครา และกำหนดเส้นตายในการออกจาก EU ก็ได้ถูกเลื่อนมาแล้ว

แต่ประเด็นที่เป็นปัญหากลับไม่ใช่เรื่องของข้อตกลงทางเศรษฐกิจ แต่กลับเป็นข้อตกลงที่เรียกกันว่า Irish Backstop ซึ่งมีความอ่อนไหวมาก

โดยในข้อตกลงที่นำเสนอโดยเทเรซ่า เมย์นั้น ทุกฉบับได้มีการระบุถึงเรื่อง Irish Backstop นี้เอาไว้ทั้งหมด

ข้อตกลงดังกล่าวเป็นการระบุไว้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า จะไม่เกิดปัญหาในดินแดน Ireland ขึ้นมาอีก และเป็นการปฏิบัติตามข้อตกลงดับบลิน หรือ Good Friday Agreement ที่ทำขึ้นในปี 1998 เพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งใน Ireland ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายพันราย

ซึ่งหากไปดูในเงื่อนไขดังกล่าว เพื่อเป็นการป้องกันเรื่อง hard border หรือการตรวจตราที่เข้มงวดบริเวณชายแดนของ สาธารณรัฐไอร์แลนด์ และดินแดนไอร์แลนด์เหนือที่เป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร อังกฤษแม้จะได้ชื่อว่าออกจาก EU แล้ว แต่ก็ต้องยังคงปฏิบัติตามเงื่อนไขเดิมเหมือนกับยังคงอยู่ใน EU ต่อไปจนถึง 1 กรกฏาคม 2020

จนกว่าจะมี่การทำข้อตกลงที่เป็นที่ยอมรับกันทั้งสองฝ่ายว่าจะไม่ทำให้เกิดปัญหาขึ้นในดินแดนไอร์แลนด์อีกครั้ง

ซึ่งข้อตกลงดังกล่าว ต้องยินยอมร่วมกันทั้งสองฝ่าย อังกฤษไม่สามารถตัดสินใจฝ่ายเดียวได้ โดยประเด็นนี้ฝ่ายสนับสนุนการออกจาก EU มองว่า อาจทำให้ EU เล่นเกมถ่วงเพื่อให้อังกฤษยังคงต้องปฏิบัติตนเหมือนเป็นสมาชิก EU อยู่ทั้งๆที่ออกจาก EU มาแล้วก็ตาม

ไม่ต้องรอนาน เดี๋ยวเราก็จะรู้ผลกันแล้วว่า ผลจะออกมาอย่างไร หากฝ่ายค้านขวางนายกไม่ได้ ก็แน่นอนว่า อังกฤษจะออก EU แบบไร้ข้อตกลงในวันที่ 31 ตุลาคมนี้อย่างแน่นอน Cr wattana stock page


Ozone Pinyo