การอ่อนค่าของเงินบาท อาจเป็นปัจจัยหนุนกำไร
กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
ยอดส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เดือน พ.ค. อยู่ที่ 3.75 พันล้านดอลลาร์ฯ เพิ่มขึ้น 5.5% YoY, 20.8% QoQ ยอดส่งออก PCBA และ IC เติบโต ขณะที่ PCB หดตัวลง
คาดกำไรปกติไตรมาส 2/66 ของกลุ่มธุรกิจจะอยู่ที่ 4.91 พันลบ. ลดลง 9.2% YoY แต่เพิ่มขึ้น 15.1% QoQ คาดว่าผู้เล่นทุกรายจะเติบโต QoQ จาก FX ที่อ่อนตัวลง
คงมุมมองที่เป็นกลางต่อกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อุปสงค์ยังคงอ่อนแอจากสต็อกสินค้าที่ยังคงสูง แต่คาดสถานการณ์จะดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2566
กลยุทธ์การลงทุน
ยอดส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เดือน พ.ค. เติบโตต่อเนื่อง กระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขการส่งออกเดือน พ.ค. โดยยอดส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ขยายตัว 5.5% YoY หลังจากขยายตัว 5.7% YoY ในเดือน เม.ย. หากแบ่งตามกลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก ยอดส่งออกแผ่นวงจรพิมพ์ (PCB) ลดลง 4% YoY แต่เพิ่มขึ้น 14% MoM ซึ่งเป็นการหดตัวต่ำที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 4/2565 ขณะที่ยอดส่งออก PCBA เติบโต 5% YoY และ 13% MoM ส่วนยอดส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ เติบโต 88% YoY และ 7% MoM โดยรวมแล้วเรามองว่าเป็นบวกเล็กน้อยสำหรับการฟื้นตัวของการส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในครึ่งหลังของปี 2566
ยอดจัดส่งสมาร์ทโฟนของจีนกลับมาเติบโตอีกครั้ง สำนักข่าว Bloomberg รายงานยอดจัดส่งสมาร์ทโฟนของจีนเดือน พ.ค. พุ่งขึ้น 22.6% YoY หลังจากหดตัวลงหลายเดือนในช่วงปีนี้ เพื่อรอให้ถึงช่วงมหกรรมช้อปปิ้งครั้งใหญ่กลางปี 6.18 (วันที่ 18 มิย.) อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์เชิงบวกดังกล่าวหนุนความหวังที่ว่าตลาดสมาร์ทโฟนน่าจะฟื้นตัวเร็วขึ้น
ราคาหุ้นปรับฐานตามตลาด กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ยังคงเป็นกลุ่มที่ทำผลงานได้ดีที่สุดเมื่อเทียบกับ SET Index แต่ส่วนใหญ่มาจาก DELTA เพียงบริษัทเดียว ขณะที่บริษัทอื่นๆ อย่าง HANA KCE และ SVI ลดลงประมาณ 20% YTD ยิ่งไปกว่านั้น ราคาหุ้นดิ่งลงต่อเนื่องกว่า 1 สัปดาห์ หลังตลาดเทคโนโลยีของสหรัฐฯ มีการปรับฐาน ขณะที่ SET Index ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากเงินทุนต่างชาติไหลออกและสถานการณ์การเมืองในประเทศ
คาดกำไรไตรมาส 2/2566 จะปรับดีขึ้น QoQ เราคาดว่ากำไรปกติรวมของกลุ่มอยู่ที่ 4.91 พันลบ. ลดลง 9.2% YoY แต่เพิ่มขึ้น 15.1% QoQ เราคาดการณ์ว่ากำไรปกติของ DELTA จะอยู่ที่ 3.89 พันลบ. (ทรงตัว YoY และ +12.4% QoQ) HANA ที่ 367 ลบ. (-39% YoY และ +24.6% QoQ) KCE ที่ 325 ลบ. (-46% YoY และ +3.4% QoQ) และ SVI ที่ 333 ลบ. (+14.8% YoY และ +68.3% QoQ) เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ของกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จะสูงขึ้น QoQ ทั้งกระดานตามค่าของเงินบาทที่อ่อนตัว ต้นทุนวัตถุดิบในราคาสูงที่หมดไป และต้นทุนการผลิตที่ลดลงจากค่าไฟฟ้าที่ลดลงในไตรมาส 2/2566
การอ่อนค่าของเงินบาทอาจเป็นปัจจัยหนุนกำไรไตรมาส 3/2566 เราเชื่อว่าเงินบาทอาจอ่อนค่าลงต่อเนื่องเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ไปจนถึงปลายไตรมาส 3/2566 จากความไม่แน่นอนทางการเมืองและคาดการณ์ของตลาดที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 1 ครั้งในเดือน ก.ค. ซึ่งอาจทำให้เงินทุนต่างชาติไหลออกจากไทย ซึ่งเราคาดจะส่งผลดีต่อกลุ่มส่วนชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในแง่ของ GPM ที่สูงขึ้นและการเติบโตของกำไรสุทธิเชิง QoQ
KS มุมมองการลงทุน
คงมุมมองที่เป็นกลางต่อกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เราคงมุมมองที่เป็นกลางต่อกลุ่มธุรกิจนี้ แนวโน้มอุปสงค์ยังมีข้อสงสัย แต่เราเชื่อว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 1/2566 เราคาดว่ากำไรในครึ่งหลังของปี 2566 จะปรับดีขึ้น HoH จากความต้องการเติมสต็อกที่คาดการณ์ไว้ และต้นทุนการผลิตที่ลดลง เช่น ค่าวัตถุดิบและค่าไฟฟ้า เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” HANA และ SVI และ “ถือ” KCE ขณะที่ “ขาย” DELTA
