ห้องเม่าปีกเหล็ก

จับตา!ธปท.ผ่อนเกณฑ์LTVบ้านหลังที่2

โดย light
เผยแพร่ :
69 views

จับตา!ธปท.ผ่อนเกณฑ์LTVบ้านหลังที่2 ยอดคงค้างสินเชื่อบ้านต่ำสุดรอบ 23 ปี

 

จับตา!ธปท.ผ่อนเกณฑ์LTVบ้านหลังที่2 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยยอดคงค้างสินเชื่อบ้านต่ำสุดรอบ 23 ปี สะท้อนถึงภาพรวมที่ยังไม่ฟื้นตัวยังคงมีความท้าทายจากหลายปัจจัย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือมาตรการ LTV

ปี 2567 มาถึงจุดที่ยอดคงค้างสินเชื่อบ้านของระบบแบงก์ไทยเติบโตเพียง 2.6% นับเป็นการเติบโตที่ต่ำที่สุดในรอบ 23 ปี สะท้อนถึงภาพรวมที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แม้ว่าการปล่อยสินเชื่อจะมีการปรับตัวดีขึ้นในบางกลุ่ม แต่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงมีความท้าทายจากหลายปัจจัย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือมาตรการ LTV (Loan to Value) ที่ยังคงเข้มงวดกับการซื้อบ้านหลังที่สองและสามที่มีมูลค่าสูงกว่า 10 ล้านบาท

สิ่งที่ทำให้ความเคลื่อนไหวนี้น่าสนใจยิ่งขึ้นคือ การที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำลังพิจารณาผ่อนปรนมาตรการ LTV สำหรับบ้านหลังที่ 2 และ 3 โดยเฉพาะในกลุ่มบ้านที่มีมูลค่าสูง ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้ฟื้นตัว หลังจากที่ในปี 2564 การผ่อนคลายมาตรการ LTV ได้ช่วยให้สินเชื่อใหม่ค่อย ๆ ฟื้นกลับมา แม้ยอดคงค้างสินเชื่อบ้านโดยรวมยังคงชะลอตัว

ผ่อนคลายมาตรการ LTV กระทบสินเชื่อบ้าน

ย้อนกลับไปในปี 2552 และ 2564 การผ่อนคลายมาตรการ LTV ส่งผลให้การขยายตัวของสินเชื่อบ้านในระบบแบงก์กลับมาคึกคัก แต่ผลกระทบในแต่ละช่วงเวลากลับแตกต่างกันอย่างชัดเจน ในปี 2552 สินเชื่อบ้านขยายตัวอย่างรวดเร็ว หลังการผ่อนคลายเกณฑ์ LTV แต่ในปี 2564 แม้การผ่อนคลายมาตรการจะช่วยฟื้นตัวของสินเชื่อใหม่ แต่ยอดคงค้างสินเชื่อบ้านยังชะลอตัวอยู่ เนื่องจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ เช่น การฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ช้า การเพิ่มขึ้นของหนี้ครัวเรือน และกำลังซื้อที่ยังไม่ฟื้นเต็มที่

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า การผ่อนปรน LTV สำหรับบ้านหลังที่ 2 และ 3 ที่มีมูลค่าสูงสามารถช่วยกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้ระดับกลางถึงบนที่สามารถจัดการกับความเสี่ยงด้านเครดิตได้ แต่ทว่า แม้มาตรการดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อใหม่ได้บางส่วน ผลกระทบต่อยอดคงค้างสินเชื่อบ้านโดยรวมยังคงอยู่ในกรอบจำกัด โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.1-0.2% เท่านั้น

ทิศทางสินเชื่อบ้านในปี 2568

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า สินเชื่อบ้านในระบบแบงก์ไทยจะขยายตัวที่ 0.5% ในปี 2568 ซึ่งเป็นการเติบโตที่ต่ำกว่าปกติ แม้ในปีนี้จะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำลงและเศรษฐกิจสามารถเติบโตได้บ้าง แต่ผลกระทบจากภาระหนี้ครัวเรือนและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ยังไม่มั่นคงก็ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ

ทว่า ความเป็นไปได้ที่ ธปท. จะผ่อนคลายมาตรการ LTV สำหรับบ้านหลังที่ 2 และ 3 นั้นก็ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องจับตา หากการปรับมาตรการเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 อาจจะช่วยให้ยอดสินเชื่อบ้านมีการเติบโตเพิ่มขึ้นได้บ้างในกลุ่มบ้านที่มีมูลค่าสูง ซึ่งอาจส่งผลดีต่อการฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในระดับหนึ่ง

ถึงแม้การผ่อนปรนมาตรการ LTV จะเป็นหนึ่งในกลไกที่จะช่วยกระตุ้นการขยายตัวของสินเชื่อบ้าน แต่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจและกำลังซื้อยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตา ขณะที่ภาระหนี้ครัวเรือนและการฟื้นตัวที่ช้าก็เป็นปัจจัยที่กดดันการเติบโตของสินเชื่อบ้านโดยรวมในปี 2568
 

 

ที่มา…  https://www.bangkokbiznews.com/property/1167937

 


light