TTB : ช้าๆได้พร้าเล่มงาม
เราปรับประมาณการกำไรปี 2566-2567 ขึ้น 18-20% จาก NIM ที่ดีขึ้นและต้นทุน/รายได้ที่ลดลง
เราชอบกลยุทธ์ช่วง 3 ปี เราคาดว่าผลผนึกฝั่งรายได้จากลูกค้าของ TBANK จะยังคงทำได้ง่าย และ ROE จะอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นจากประสิทธิภาพที่ปรับตัวดีขึ้น
เรายังชอบ TTB จากมาตรการสำรองบนดอกเบี้ยค้างรับอย่างรอบคอบ TTB ยังคงเป็นหุ้นเด่นของเราโดยให้ราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นเป็น 1.73 บาท จาก 1.59 บาท
กลยุทธ์ 3 ปีชี้ ROE ดีขึ้น
เราชอบกลยุทธ์ในระยะกลางของ TTB เนื่องจากดูน่าจะเป็นไปได้และจะเพิ่มอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) ให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างแน่นอน ในอีก 3 ปีข้างหน้า ผู้บริหารมีแผนที่จะ
1) เพิ่มรายได้จากการผนึกกำลังกับฐานลูกค้าของธนาคารธนชาตจากโอกาสในการขายพ่วงต่อเนื่อง เช่น สินเชื่อรถแลกเงิน, สินเชื่อ Top up บนสินเชื่อบ้าน, การขายประกันภัยรถยนต์
2) ปรับปรุงแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อลดต้นทุนในการให้บริการลูกค้า
3) การสร้างระบบนิเวศทางการเงินผ่านการเป็นพันธมิตรภายใต้ลูกค้าของธนาคาร เช่น ระบบนิเวศสำหรับสินเชื่อรถยนต์ใช้แล้ว เริ่มต้นจากบริษัทให้เช่ารถในฐานะลูกค้าสินเชื่อองค์กรไปจนถึงผลิตภัณฑ์สินเชื่อรถยนต์ใช้แล้วสำหรับลูกค้ารายย่อย
4) การปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของระบบหลังบ้านโดยการเปลี่ยนไปสู่ระบบดิจิทัล
5) ปรับเปลี่ยนองค์กรสู่ความเป็นดิจิทัลมากขึ้น
ส่งผลให้ผู้บริหารคาดว่าจะเห็น
1) ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน/ลูกค้าเพิ่มขึ้น
2) กว่า 80% ของบริการที่ไม่ใช่ทางการเงินจะถูกใช้ผ่านช่องทางดิจิทัล
3) ลดอัตราส่วนต้นทุน/รายได้ให้อยู่ในระดับ 40% ต้นๆ
4) เพิ่ม ROE ให้ใกล้เคียง 10%
มุมมอง KS
คงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ TTB และปรับราคาเป้าหมายเป็น 1.73 บาท จากการปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2566-2567 TTB ยังคงเป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มเนื่องจากแนวโน้มการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่ง PBV ที่ต่ำเมื่อเทียบกับ ROE และคุณภาพสินทรัพย์ที่ดี
