ห้องเม่าปีกเหล็ก

ตลาดหมีกลับมาเยือน “ตลาดน้ำมัน” อีกครั้ง ?

โดย คนเล่นหุ้น
เผยแพร่ :
75 views

หลังจากที่ราคาน้ำมันเคยพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2017 แต่ช่วงเวลานี้อาจจะไม่เป็นอย่างนั้นแล้ว หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบ (Crude Oil) ล่วงลงดิ่งกว่า 7% !!! ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนนักลงทุนที่ลงทุนหุ้นในกลุ่มโรงกลั่นที่ผลประกอบการจะอ้างอิงราคาน้ำมันดิบ ในทางตรงกันข้าม ภาคอุตสาหกรรมมีความสุขกันถ้วนหน้าหลังจากการลดลงของราคาน้ำมันดิบ เป็นผลให้ต้นทุนการผลิตลดลง

ปัจจุบันราคาน้ำมันดิบลดลงต่ำกว่า $51 ต่อบาเรลล์ เป็นครั้งแรก ในช่วงเวลาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2017 โดยความกังวลเกี่ยวกับ Supply ที่มากเกินไป สวนทางกับ Demand ที่ลดลงได้กลับมาอีกครั้ง ส่งผลให้ราคาน้ำมันลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ราคาเคยขึ้นสูงไปถึง $76 ต่อบาเรลล์ ในช่วงเดือนตุลาคมของปีที่ผ่านมา และเป็นที่น่าสงสัยกันว่าเหตุใดราคาน้ำมันถึงร่วงลงอย่างรวดเร็ว

การพลิกฟื้นราคาน้ำมันให้กลับมาสู่ภาวะปกติ คงต้องพึ่งการประชุมที่จะมีขึ้นเดือนที่จะถึงนี้ที่กรุงเวียนนา โดยหวังให้กลุ่มประเทศผลิตน้ำมันยักษ์ใหญ่อย่าง OPEC และรัสเซียลดกำลังการผลิตลง อย่างไรก็ตาม ปธน.ทรัมป์ กลับมีความเห็นว่า อยากให้ซาอุดิอาระเบียและ OPEC คงกำลังการผลิตไว้ แม้ว่าราคาน้ำมันจะลดลงแล้วอย่างมากก็ตาม เพื่อให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจให้มากยิ่งขึ้น

สำหรับสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมัน US ลดลงเกือบ 10% โดย Luckman Otunuga ซึ่งเป็นนักวิเคราะห์ของ FXTM ได้กล่าวว่า การที่เพิ่มขึ้นของ Supply ซึ่งสวนทางกับการลดลงของ Demand ถือเป็นหายนะของตลาดน้ำมันเลยก็ว่าได้ โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาเรียกว่าเป็น “ตลาดหมี” ของตลาดน้ำมันเลยทีเดียว

ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ซึ่งถือเป็นน้ำมันดิบที่ใช้อ้างอิงทั่วโลก ลดลง 5.5% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และถือว่าลดลงต่ำสุดในปีนี้ โดยปิดที่ราคาต่ำกว่า $59 ต่อบาเรลล์ การลดลงของราคาน้ำมันดิบดังกล่าว ส่งผลให้ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานลดลงด้วยเช่นกัน นำโดย Chevron และ ConocoPhillips ลดลง 3% ขณะที่ EOG ลดลงกว่า 5% มีผลให้ดัชนีในตลาด Wall Street ลดลงถึง 178 จุด

ราคาน้ำมัน

ราคาน้ำมันCr. Investing

การลดลงขอราคาน้ำมันที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากที่ ปธน.ทรัมป์ ได้เคยประกาศที่จะไม่นำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน (Zero oil’s import) เพื่อเป็นการคว่ำบาตรในประเด็นเกี่ยวกับการผลิตพลังงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน ทำให้ประเทศอื่นๆ อย่าง ซาอุดิอาระเบีย รัสเซีย และรวมถึงประเทศตนเอง (US) ต้องเพิ่มการผลิตน้ำมันอย่างต่อเนื่อง เพื่อทดแทนกำลังการผลิตที่หายไป

พร้อมกันนั้น ความกังวลการเติบโตของเศรษฐกิจโลก โดยนักเศรษฐศาสตร์ได้ปรับประมาณการการเติบโตของ GDP ปี 2018 ลดลง โดยเยอรมันและญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 และ 4 ของโลก ถูกคาดการณ์ว่าจะมีการเติบโตลดลง ขณะที่จีนจะมีการเติบโตไปอย่างช้าๆ

อย่างไรก็ตาม Society Generate ได้กล่าวว่า การลดลงของราคาน้ำมันส่งผลดีต่อกองทุนในกลุ่ม Hedge fund ที่ได้คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันจะปรับตัวลดลงในปีนี้ โดยกองทุนขนาดใหญ่ ในกลุ่ม Commodity สามารถสร้างกำไรได้มากถึง $7.7 พันล้าน ในไตรมาสนี้


คนเล่นหุ้น