ห้องเม่าปีกเหล็ก

ตี๋โบ๊โผล่หัวคุย

โดย Turbo
เผยแพร่ :
65 views

 

 

Morning Routine 02.08.2019

????Twitter ลุกเป็นไฟ นกมันไม่ได้ร้อง จิ๊บ จิ๊บ

????ไม่ได้นัดแต่ดันมา ปธน.ทรัมป์ ได้ออกมาโพสข้อความในทวิตเตอร์ หลังจากที่ผู้แทนทางการค้าของอเมริกาเพิ่งกลับจากประเทศจีนไปได้ไม่นาน ดอกเบี้ยก็เพิ่งจะลด สภาพคล่องก็เพิ่งจะหยุดดูดออก ในทวีตมีการบ่นถึงเรื่องที่จีนไม่ยอมซื้อสินค้าเกษตรจากทางอเมริกาสักที การไม่ยอมหยุดขายยา Fentanyl มาที่อเมริกา และทำให้คนอเมริกันทยอยกันเสียชีวิต การเจรจาทางการค้าครั้งต่อไปจะมีขึ้นในเดือนกันยายน แต่ก่อนที่การเจรจาจะเริ่ม อเมริกาขอขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 10% บนสินค้าที่เหลือมูลค่า 300,000 ล้านเหรียญ เป็นส่วนที่ไม่เกี่ยวกับ 250,000 ล้านเหรียญที่โดนขึ้นภาษีไปก่อนหน้านี้แล้ว 25% และหวังที่จะได้เห็นพัฒนาการเชิงบวกจากการเจรจาทางการค้ากับจีนต่อไป

????ทวีตของทรัมป์ออกมาตอนประมาณเที่ยงคืนครึ่ง ตลาดหุ้นอเมริกาจากที่บวกกันค่อนข้างเขียวเข้มก็จางลงจนกลายเป็นสีแดงเข้มไปแทน Dow Jones จากบวกกว่า 300 จุดกลายเป็นติดลบไป 280 จุด ราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวลงตั้งแต่ช่วงหัวค่ำของไทยแล้ว พอมาเจอทวีตเข้าไปก็ลงอย่างแรง ปรับตัวลดลงไป 8% เป็นการปรับตัวลดลงแรงที่สุดใน 1 วันในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา สินทรัพย์ที่ได้ผลกระทบในเชิงบวกคือทองคำ ทองคำ จากที่ปรับตัวลดลงในช่วงครึ่งวันแรกของวันที่ 1 พอเข้าช่วงบ่ายเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งจนถึงช่วงหัวค่ำ (สวนทางกันน้ำมัน) จากแถว 1420 เหรียญ ขึ้นมาที่ 1430 เหรียญ พอเจอทวีตของคุณทรัมป์เข้าไปก็พุ่งขึ้นไปทำจุดสูงสุดบริเวณ 1460 เหรียญ และย่อลงมาเล็กน้อยแถว 1450 เหรียญ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากวันก่อน 1.4%

????ทางด้านประเทศจีนเองก็คงจะตระหนักดีแล้วว่า การเจรจากับอเมริกาคงไม่ได้ข้อสรุปในเร็ววัน ทางจีนเองก็คงจะมาเน้นนโยบายในประเทศมากขึ้น ทั้งในเรื่องการบริโภคและการลงทุน

????1 ทวีต มูลค่าตลาดหายไปหลายมหาศาล หุ้นตก น้ำมันตก แต่ทองคำขึ้น ทองคำเป็นอะไรที่ควรมีไว้ในพอร์ตเพื่อกระจายความเสี่ยงและเพิ่มผลตอบแทนจริง ๆ เราไม่สามารถคาดการณ์อะไรได้เลยว่าผู้กำหนดนโยบายอย่างคุณทรัมป์จะทำอะไร สำหรับนักลงทุน สิ่งที่พอจะทำได้คือจัดพอร์ตให้เหมาะสมกับสถานการณ์ อย่างทองคำ ช่วงที่ผ่านมาก็ไม่ได้ให้ผลตอบแทนที่ดีอะไร แต่ปัจจัยแวดล้อมช่วงก่อนหน้ากับตอนนี้มันก็เปลี่ยนแปลงไปหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสงครามการค้า รวมไปถึงปริมาณอันมหาศาลของพันธบัตรที่ให้ดอกเบี้ยติดลบ

????ตลาดเพิ่งจะได้รับของขวัญจากคุณเจย์ พาวเวลล์ ไปเมื่อวาน วันนี้คุณทรัมป์มาเอากลับไปซะแล้ว ลดดอกเบี้ยให้ หยุดการดูดสภาพคล่องให้ แต่คุณทรัมป์ก็มาขึ้นกำแพงภาษีในวันถัดมาเลย นี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำไมถึงชอบไปกดดัน FED ให้ลดดอกเบี้ย

????การขึ้นกำแพงภาษีเริ่มวันที่ 1 กันยายน การเจรจาทางการค้ารอบต่อไปจะมีขึ้นในเดือนกันยายน (ยังไม่ได้กำหนดวันแต่น่าจะก่อนการประชุม FOMC) การประชุม FOMC ครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 17 – 18 กันยายน ในกรณีที่การเจรจาทางการค้าไม่คืบหน้าไปไหน อาจจะมีสัญญาณอะไรบางอย่างที่สำคัญออกมาจากประธาน FED และ ปธน.ทรัมป์ เช่นการลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง หรือการยกระดับกำแพงภาษี

????ทาง SCBS ได้เผยแพร่ภาพรวมของสถานการณ์ต่าง ๆ ของสงครามการค้า ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในไตรมาส 3 และจะส่งผลอย่างไรจนถึงสิ้นปี 2019 ในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ในตอนนี้ เราคงต้องมาโฟกัสกันในการคาดการณ์ของผลลัพธ์ที่แย่กว่าปกติกันแล้ว เพราะการขึ้นกำแพงภาษีในครั้งนี้จัดเป็นสถานการณ์ที่เป็นลบมาก และเป็นสิ่งที่ช็อคตลาด รายละเอียดมีดังนี้

1.World GDP เติบโต 3%
2.US GDP เติบโต 2%
3.China GDP เติบโต 5.9% (จีนต้องกระตุ้นสุดตัวแน่)
4.Thai GDP เติบโต 3% (รอดูท่าทีของ ธปท.ในเรื่องดอกเบี้ย)
5.Downside ของดัชนี S&P 500 บริเวณ 2400 จุด
6.Downside ของ CSI 300 บริเวณ 2,970 จุด
7.Downside ของ SET Index บริเวณ 1,550 จุด
8.Brent 55 เหรียญต่อบาร์เรล

????ตัวเลขเหล่านี้คือขอบล่างที่อยากแสดงให้นักลงทุนได้เห็นและตระหนักถึง อย่ามองแต่เพียงขอบบนเพียงอย่างเดียว เศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงของ Late Cycle ตลาดค่อนข้างอ่อนไหวกว่าปกติ เวลามีเหตุการณ์ไม่ดีเข้ามากระทบ ตลาดสามารถลดลงได้มากอย่างคาดไม่ถึงเช่นตลาดหุ้นทั่วโลกเมื่อไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา
การขึ้นกำแพงภาษี ดูจะทำให้อะไรๆ แย่ไปซะหมด แล้วสิ่งที่ Donald Trump จะได้คืออะไร เรามองว่าจุดประสงค์หลักก็คือ

1.กดดัน FED เพื่อหวังผลในการลดดอกเบี้ย
2.กดดันจีนมากขึ้น
3.คะแนนเสียง เพื่อจะส่งตัวเองกลับมาเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2

ทวีตครั้งเดียว เสียวไปทั้งโลกจริง ๆ


Turbo