ห้องเม่าปีกเหล็ก

ไทยยูเนี่ยนกู้เงิน 12,000 ล้าน หนุนความยั่นยืน

โดย Durant
เผยแพร่ :
60 views

ไทยยูเนี่ยนกู้เงิน 12,000 ล้าน หนุนความยั่นยืน

ไทยยูเนี่ยน ยื่นกู้ วงเงิน 12,000 ล้านบาท หนุนความยั่งยืน ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ใช้ระบบอิเล็คทรอนิคตรวจสอบตลอดห่วงโซ่ ทำได้มีลดดอกเบี้ย เชื่อจะส่งผลให้เปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมในอนาคต

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า  บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฯ ประสบความสำเร็จในการออกสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืนเป็นครั้งแรก ทั้งในประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น  รวม 12,000 ล้านบาท ระยะเวลา 5 ปี แยกเป็น สินเชื่อที่ออกในประเทศไทยเป็นสกุลเงินไทยบาทและดอลลาร์ วงเงิน 6,500 ล้านบาท   และสินเชื่อนินจา/ซามูไรเป็นสกุลเงินดอลลาร์และเยน  วงเงิน 183 ล้านดอลลาร์  โดยสินเชื่อทั้งสองจำนวนนี้รวมกันเป็นจำนวน 12,000 ล้านบาท ระยะเวลา 5 ปี

                การขอสินเชื่อในครั้งนี้ของไทยยูเนี่ยนได้รับการตอบรับมากกว่าสินเชื่อที่ต้องการมากกว่าสองเท่า  ความสำเร็จในการรับสินเชื่อในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงก้าวสำคัญของบริษัทในการเป็นสู่ Blue Finance หรือการบริหารจัดการการเงินเพื่อโครงการและการทำงานในการอนุรักษ์มหาสมุทร ที่ยังประโยชน์ให้แก่ทั้งบริษัทและอุตสาหกรรมในภาพรวม

โดยธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคาร มิซูโฮ จำกัด และธนาคาร เอ็มยูเอฟจี จำกัด ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการเงินกู้ร่วม (Mandated Lead Arrangers and Bookrunners) รวมถึงเป็นผู้ประสานงานด้านดัชนีความยั่งยืน (Sustainability Coordinators) ของเงินกู้ร่วมในครั้งนี้

“ สินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืนครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวของไทยยูเนี่ยนที่ได้รับสินเชื่อในการดำเนินธุรกิจ โดยสินเชื่อที่ออกในประเทศไทย นอกจากผู้จัดการเงินกู้ร่วมแล้ว ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น จำกัด และธนาคารบีเอ็นพี พารีบาร์  ได้เข้าร่วมในฐานะ Lead Arranger และธนาคารโอเวอร์ซี-ไชนีสแบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น จำกัด สาขากรุงเทพฯ  และธนาคาร ซูมิโตโม มิตซุย ทรัสต์ (ไทย) จำกัด (มหาชน) ได้เข้าร่วมในฐานะ Arranger เพื่อสนับสนุนสินเชื่อในครั้งนี้ให้แก่ไทยยูเนี่ยน “

                นอกจากนี้ ไทยยูเนี่ยนยังได้ใช้เครือข่ายนักลงทุนของผู้จัดการเงินกู้ร่วม ในประเทศญี่ปุ่นในการเข้าถึงตลาดสินเชื่อญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก จนได้รับผลตอบรับเป็นสินเชื่อจากต่างประเทศเป็นจำนวนถึง 183 ล้านดอลลาร์  และมีทั้งหมด 19 สถาบันการเงินของญี่ปุ่นรวมถึงธนาคารจากประเทศต่างๆ ที่ตั้งสาขาในประเทศญี่ปุ่นร่วมอนุมัติสินเชื่อในครั้งนี้ร่วมกับผู้จัดการเงินกู้ร่วม

สำหรับอัตราดอกเบี้ยจะอิงกับเกณฑ์ด้านความยั่งยืน  หากบริษัทสามารถดำเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนตามที่ระบุไว้ ก็จะได้รับส่วนลดอัตราดอกเบี้ย  ซึ่งตัวบ่งชี้ผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนสำหรับไทยยูเนี่ยนที่กำหนดไว้คือ การรักษาอันดับในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ หรือ DJSI  สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ตามเป้าหมาย และเพิ่มการกำกับดูแลในห่วงโซ่อุปทานด้วยการใช้การตรวจสอบด้วยวิธีอิเล็คทรอนิคให้มากขึ้น หรือ มีการตรวจสอบบนเรือประมงปลาทูน่าให้มากยิ่งขึ้น 

โดย Sustainalytics ได้รับการมอบหมายให้เป็นผู้ตรวจสอบให้ความคิดเห็นต่อตัวบ่งชี้ผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนว่าสอดคล้องไปกับหลักการของสินเชื่อที่มีความเชื่อมโยงกับการทำงานด้านความยั่งยืนหรือไม่  โดยตัวบ่งชี้ในแต่ละข้อนั้นจะได้รับการยืนยันจากองค์กรอิสระเพื่อให้การประเมินเป็นไปอย่างยุติธรรม

 

 “ไทยยูเนี่ยนให้ความสำคัญกับความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจมาโดยตลอด ซึ่งสินเชื่อในครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญของกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนของเราหรือ SeaChange® ตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราที่เชื่อว่าการทำงานด้านความยั่งยืนจะต้องนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงให้กับอุตสาหกรรม  “

การที่สถาบันการเงินต่างๆ ให้การตอบรับเป็นอย่างดีต่อสินเชื่อที่มีความเชื่อมโยงกับการทำงานด้านความยั่งยืน หมายความว่าความพยายามและการทำงานด้านความยั่งยืนที่ผ่านมาของไทยยูเนี่ยนเป็นที่ประจักษ์และประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งแล้ว นอกจากนี้ยังสะท้อนว่าทั่วโลกให้ความสำคัญกับจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจและนักลงทุนต้องการสนับสนุนบริษัทที่ตั้งใจจริงในการทำงานเพื่อให้เกิดผลลัพธ์และความเปลี่ยนแปลง

 

นายเซอิจิโระ อาคิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของธนาคารในการจัดหาสินเชื่อที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) อีกครั้ง โดยเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนบริษัทชั้นนำระดับโลกอย่างไทยยูเนี่ยนให้บรรลุสู่เป้าหมายด้านความยั่งยืน ด้วยการผสานความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทุกภาคส่วนเพื่อให้สินเชื่อที่มีความเชื่อมโยงกับการทำงานด้านความยั่งยืนที่สำคัญนี้ประสบความสำเร็จลุล่วงตามเป้าหมายที่วางไว้

ท่ามกลางความท้าทายในหลากหลายด้าน ซึ่งร่วมทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก การกำหนดตัวบ่งชี้ผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนที่ต้องมีความเหมาะสมและเข้มงวด และสถานการณ์ตลาดสินเชื่อในญี่ปุ่นและไทย”

"สินเชื่อนี้ยังแสดงให้เห็นถึงการผสานพลังความร่วมมืออันแข็งแกร่งของกรุงศรีและ MUFG โดยใช้ศักยภาพความพร้อมของทั้งสองสถาบันในการสนับสนุนและเชื่อมโยงทุกความต้องการของลูกค้าให้บรรลุเป้าหมายทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ในโอกาสนี้เราขอร่วมแสดงความยินดีกับไทยยูเนี่ยนกับความสำเร็จครั้งใหญ่นี้ ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของงานด้าน ESG บนเส้นทางสู่ความยั่งยืนของไทยยูเนี่ยน”

นายยาซูฮิโร่ คูโบตะ เจ้าหน้าที่บริหารและผู้จัดการทั่วไป ธนาคาร มิซูโฮ จำกัด สาขากรุงเทพฯ กล่าวว่า “มิซูโฮขอแสดงความยินดีกับไทยยูเนี่ยนในความสำเร็จในครั้งนี้  ธนาคารภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จในการพัฒนาด้านความยั่งยืนของไทยยูเนี่ยน ซึ่งได้รับการยอมรับในระดับสากลว่าเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในอุตสาหกรรมอาหารทะเล  มิซูโฮเชื่อว่าสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติในครั้งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการทำงานของไทยยูเนี่ยนในการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม หรือไอยูยู  ให้หมดไป ด้วยการตรวจสอบย้อนกลับของวัตถุดิบต่างๆ ในห่วงโซ่อุปทานได้  และนี่คือเหตุผลสำคัญทีมิซูโฮได้ให้การสนับสนุนร่วมกับธนาคารต่างๆ ในครั้งนี้”

 

นายริชาร์ด ยอร์ค กรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าฝ่ายลูกค้าบรรษัทและวาณิชธนกิจ เอเชียแปซิฟิก ธนาคาร เอ็มยูเอฟจี จำกัด (MUFG Bank) กล่าวว่า “MUFG ยินดีที่ได้สนับสนุนไทยยูเนี่ยนในการขับเคลื่อนธุรกิจระดับโลกสู่ความยั่งยืน ในฐานะที่เป็นผู้จัดการเงินกู้ร่วมซึ่งมีบทบาทสำคัญในสินเชื่อครั้งนี้ MUFG ไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการเป็นพันธมิตรที่ดีให้กับลูกค้า เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีร่วมกัน แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพ ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญอย่างลึกซึ้งในการสนับสนุนทางการเงินที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน ทำให้เราสามารถตอบโจทย์ความต้องการที่เฉพาะเจาะจงให้กับไทยยูเนี่ยนได้เป็นอย่างดี”

 

“ยิ่งไปกว่านั้น เรายังสามารถผสานพลังเครือข่ายซึ่งครอบคลุมอยู่ทั่วเอเชีย รวมทั้งกรุงศรี เพื่อร่วมกันสนับสนุนความต้องการลูกค้าทั้งในประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นให้บรรลุผลสำเร็จ และยังสามารถขยายฐานนักลงทุนให้กับลูกค้า สะท้อนศักยภาพที่เข้มแข็งของเราในด้านตลาดทุน ทั้งนี้ เราขอร่วมแสดงความยินดีกับไทยยูเนี่ยนอีกครั้งสำหรับความสำเร็จที่สำคัญในครั้งนี้”

 

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก


Durant