4 โบรกฯ ประเมินเฟดขึ้นดอกเบี้ยรอบนี้ กระทบตลาดหุ้นแค่ไหน?

ประเด็นสำคัญของการลงทุนช่วงนี้คงหนีไม่พ้นการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 15-16 มิ.ย. (ทราบผลเช้าตรู่วันที่ 16 มิ.ย.ตามเวลาไทย) เพราะนักลงทุนทั่วโลกต่างจับจ้องว่าผลประชุมเฟดจะออกมาเป็นอย่างไร หลังนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ต่างให้น้ำหนักไปที่ระดับ 0.75% เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาด 0.50% เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐยังส่งสัญญาณพุ่งแรง

.

โดย "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" จึงรวบรวมมุมมองของนักวิเคราะห์ในไทยว่าประเมินกรณีเฟดขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้ จะกระทบตลาดหุ้นแค่ไหนบ้าง

.

***บล.ทิสโก้ คาดโอกาสขึ้น 0.75% สูงถึง 90%

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยกับ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" ว่าสำหรับผลการประชุม FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในรอบนี้ ประเมินว่าตอนนี้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่น้ำหนักมากกว่า 90% คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.75% ซึ่งถือว่าตลาดตอบรับประเด็นดังกล่าวไปล่วงหน้าในช่วง 2 ที่ผ่านมาแล้ว โดยหากเฟดมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยระดับดังกล่าวจริงคาดว่าตลาดจะไซด์เวย์บริเวณ 1,580-1,600 จุดน่าจะเอาอยู่

.

ขณะที่กรณีมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยแค่ 0.50% คาดว่าตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวรีบาวน์ขึ้นไปแถวระดับ 1,620-1,630 จุดได้ เพราะถือว่าดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ อย่างไรก็ตามกรณีเลวร้ายเฟดขึ้นดอกเบี้ยระดับ 1% คาดตลาดจะช็อครุนแรงและทดสอบแนวรับที่บริเวณ 1,550 จุด แต่คาดว่าโอกาสที่เกิดขึ้นน่าจะค่อนข้างยาก

.

***บล.เอเซีย พลัส คาดถ้าขึ้น 0.75% SET จะลงแตะ 1,580 จุด

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล. เอเซีย พลัส กล่าวว่าคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระดับ 0.75% ไม่รอบนี้ก็รอบถัดไป โดยกรณีเฟดขึ้นดอกเบี้ยรอบนี้ระดับ 0.50% คาดว่าตลาดหุ้นไทยจะเด้งขึ้นระยะสั้นไปบริเวณว 1,615-1,616 จุด เพราะคนจะกลับไปกังวลว่าเฟดอาจปรับขึ้น 0.75% ในรอบหน้า แต่หากขึ้นดอกเบี้ย 0.75% คาดตลาดจะปรับตัวลงแถว 1,580-1,590 จุด เพราะตลาดได้สะท้อนไปแล้วส่วนใหญ่ ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้ราว 90% อย่างไรก็ตามเชื่อว่าโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 1% เกิดขึ้นได้น้อยมาก เพราะให้น้ำหนักไปที่เป้าหมายในช่วงที่เหลือของปี ซึ่งเสียงส่วนใหญ่คาดว่าดอกเบี้ยสหรัฐฯสิ้นปีนี้จะแตะระดับ 3.25-3.50% มากกว่า

.

***บล.ยูโอบีฯ ชี้ขึ้นมากน้อย กดดันตลาดทุกทาง

นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่าหากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระดับ 0.50% หรือ 0.75% ตลาดหุ้นไทยก็จะตอบรับเชิงลบเช่นกัน

.

โดยให้น้ำหนักขึ้นดอกเบี้ย 0.75% รอบนี้กว่า 80% และให้น้ำหนักขึ้นดอกเบี้ย 0.50% รอบนี้เพียง 20% เพราะคนจะกังวลว่าเฟดจะต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ยในรอบที่เหลือ อย่างไรก็ตามกรณีเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าคาดหรือเลวร้ายสุด เชื่อว่าสุดท้ายแล้ว SET INDEX จะไม่ต่ำกว่าระดับ 1,540 จุด ในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า

.

***กสิกรฯ ชี้เลวร้ายสุด อาจเห็น 0.75% ถึง 5 ครั้งติด

บทวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย ระบุว่าการประชุมเฟดวันนี้ฝ่ายวิจัยประเมินเป็น 3 กรณีที่จะออกมาคือ

.

1.กรณีฐาน (Base case) ถ้าออกมาตามที่คาด ประเมินว่าค่าเงิน Dollar, Bond Yields จะเริ่มพักฐาน ในส่วนของตลาดหุ้นจะเริ่มรีบาวน์ในช่วงสั้นๆราว 1-2% สำหรับ SET Index ประเมินแนวรับจะไม่หลุด1,585 จุด ส่วนแนวต้านคาดอาจจะเห็นการรีบาวน์ขึ้นไปทดสอบ 1,630 จุด โดยหุ้นแนะนำคือกลุ่มโรงกลั่น (TOP, BCP, ESSO), กลุ่มส่งออกอาหาร (ASIAN, TFG)

.

2.กรณีที่ดีคือ ธนาคารกลางสหรัฐปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.50% ประเมินตลาดหุ้นโลกและหุ้นไทยมีโอกาสเด้งกลับ โดยคาดแนวต้านของ SET จะอยู่ที่ 1,666 จุด ซึ่งหุ้นแนะนำลงทุนคือ กลุ่มการเงิน, กลุ่มโรงไฟฟ้า, หุ้นเติบโต (Growth Stock) อาทิ MTC, CKP, BE8, JMT

.

3.กรณีเลวร้ายสุดคือ ประธานเฟดส่งสัญญาณเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยด้วยตัวเอง โดยส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยระดับ 0.75% ติดต่อกัน 5 ครั้งในการประชุมเฟดในช่วงที่เหลือของปี พร้อมเร่งเพิ่มวงเงินในการทำ QT ขึ้นมาแตะระดับ 100bn ประเมินตลาดหุ้นโลกจะปรับลง พร้อมคาด SET Index ระดับอยู่ที่ 1,530 จุด