ทิสทางตลาดหุ้น ตลาดเงิน คริปโต ทองคำ ในช่วงสัปดาห์หน้าที่จะมาถึง

By ดร.ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ เลขที่ใบอนุญาต12888

บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษการลงทุนต้นธารคอร์ปอเรชั่น

(ก่อตั้งพศ.2540อยู่ใต้การกำกับกลต.)

21 พฤษภาคม 2565

 

 

 

 

1.ดัชนีดาวโจนส์ ได้ตกลงมาอย่างยาวนาน8สัปดาห์ ถึงแนวรับสำคัญเขต 1ใน3Fibonacci(เพื่อความเข้าใจ ท่านควรเสียเวลาดูคลิปนี้30นาที https://www.youtube.com/watch?v=Nrb9wKtDT9k)

ดังนั้นควรสันนิษฐานว่ากำลังควานหาจุดต่ำสุดเจอบริเวณแถวนี้ แล้วกลับฟื้นตัวขึ้น

ส่วนดัชนีตลาดหุ้นฮ่องกงนั้นตกมารอบนี้6สัปดาห์ ได้ทำฐานยกสูงขึ้นกว่าครั้งก่อน และเกิดรูปแบบการกลับตัวขึ้น ควรสันนิษฐานว่ารอบนี้จะขึ้นไปทำนิวไฮเกินเขตไฮเก่า22000จุด อาจจะมีเป้าหมายขึ้นไปราวๆ25,000จุด(ดูภาพประกอบ)

ตลาดฮ่องกงอาจได้ผลบวกจากการที่จีนลดดอกเบี้ยกระตุ้นเศรษฐกิจ และลดการควบคุมหุ้นเทคโนโลยีลง และผ่อนคลายมาตรการCOVID

ส่วนดัชนีตลาดหุ้นไทยนั้น ยังแกว่งตัวในกรอบแนวโน้มเดิมที่ดำเนินมาต่อเนื่องราวปีครึ่ง และเคลื่อนไหวSidewayแบบนี้มา 5 เที่ยวแล้ว นี่คงจะเป็นเที่ยวที่6 กล่าวคือเมื่อลงมาเขตกรอบล่างราวๆ1580จุดแล้ว ก็จะฟื้นกลับไปกรอบบนราวๆ1700จุด+/- และคงใช้เวลาราวๆ1เดือนจากนี้

 

2.เป็นไปได้ว่าหลังจากวิตกข่าวร้ายสงคราม กับFEDขึ้นดอกเบี้ย ได้ทำให้เฮดจ์ฟันด์พากันเคลื่อนย้ายเงินทุนออกจากสินทรัพย์เสี่ยง(หุ้น) และสินทรัพย์คู่เทียบของสกุลเงินดอลลาร์(เงินสกุลอื่นๆ,คริปโต และทองคำ) มาพักหรือลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่ำคือเงินดอลลาร์ และพันธบัตร ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งมากที่สุดในรอบ20ปี และบอนด์ยีลด์ก็ทะยานขึ้นมามาก

อย่างไรก็ตามตอนนี้ตลาดเริ่มชินชาข่าวร้ายสงคราม และเริ่มปรับตัวได้กับการขึ้นดอกเบี้ยและการทำQT ซึ่งตามสถิติแล้วตลาดหุ้นจะตกราวๆ3เดือนแรกหลังการขึ้นดอกเบี้ยเที่ยวแรก จากนั้น6-9เดือนหลังมักฟื้นขึ้นไปราวๆ20-25%

สำหรับเที่ยวนี้หากนับจากFEDขึ้นดอกเบี้ยเที่ยวแรกในกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จนถึงเวลานี้ราว2เดือนเศษ ก็เป็นช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นรับอิมแพ็กต์ดังกล่าวอยู่ แต่ระยะต่อไปเมื่อตลาดปรับตัวได้ เราน่าจะได้เห็นการเคลื่อนย้ายเงินทุนอี่กรอบ แต่เป็นไปในทางตรงกันข้าม ซึ่งนตอนนี้ก็เริ่มเห็นสัญญาณนี้แล้วคือ

*บอนด์ยีลด์(ผลตอบแทนพันธบัตร)อาจจะพีคและเริ่มตก ส่วนค่าเงินดอลลาร์อาจจะพีคแบบtriple topแล้วเริ่มตก

*อาจจะมีการย้ายเงินจากดอลลาร์และบอนด์ยีลด์กลับมาหาสินทรัพย์เสี่ยงคือหุ้น(ตามที่กล่าวไปในข้อ1ว่า ดาวโจนส์อาจลงจบเขตนี้แล้วฟื้น ฮ่องกงกำบลังจะขึ้นรอบใหม่ ตลาดหุ้นไทยBottom &reversalกลับไปกรอบบนราวๆ1700+/-) รวมทั้งสินทรัพย์คู่ตรงกันข้ามกับดอลลาร์ คือคริปโต และทองคำ

 

3.แล้วถ้าตอนนี้ผ่านช่วงSell in Mayมาได้แล้ว เจ้ามือกำลังโยกเงินกลับมาช้อนหุ้น เราควรจะตามกลุ่มไหนดี ผมชี้เป้าให้4ทีเด็ดคือ

*หุ้นใหญ่อิงตลาด

*หุ้นกลุ่มที่เก่งกว่าตลาด

*หุ้นที่จะฟื้นตัวหลังพ้นมรสุมข่าวร้าย และกลุ่มเปิดเมือง

*ปิดท้ายด้วยหุ้นเด่นสตอรี่เด็ด

โชคดีมีกำไรปลอดภัยในการลงทุนทุกท่านครับ

....

 

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก...

อ่านใจหุ้นเด่นbyณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์-All About Investing