ห้องเม่าปีกเหล็ก

การขึ้นดอกเบี้ยของไทย

โดย คนเล่นหุ้น
เผยแพร่ :
112 views

Cr. Dr.KOB

การขึ้นดอกเบี้ยของไทย
ช่วงนี้มีคนถามเรื่องนี้มาก
เพราะคงใกล้ถึงเวลาแล้ว
วันนี้ จึงขอนำบทความที่เพิ่งสัมภาษณ์กับพี่เจี๊ยบและทีมเศรษฐกิจ นสพ. ไทยรัฐ เมื่อต้นสัปดาห์ มาฝากทุกคน
ขอขอบคุณไทยรัฐ สำหรับภาพและบทความครับ สำหรับ link ของบทความตัวเต็ม อยู่ที่คอมเมนท์ ครับ

..........................................

โดยรวม ประเมินว่า ธปท.จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ ครั้งละ 0.25% รวม 0.75% ทำให้คาดว่าปลายปีนี้ดอกเบี้ยจะขึ้นไปสูงสุดที่ 1.25% จากปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยอยู่ที่ 0.50% ซึ่งต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ (เป็นผลจาก ธปท.ใช้นโยบายแบบเหยียบคันเร่งกดดอกเบี้ยต่ำเพื่อดูแลเศรษฐกิจช่วงวิกฤติโควิด-19)

แต่สถานการณ์ปัจจุบันที่เงินเฟ้อทั่วโลกและไทยสูงกว่าที่คาดคิด ขณะที่การท่องเที่ยวไทยเริ่มดีขึ้น ทำให้ความจำเป็นที่ต้องใช้นโยบายดอกเบี้ยต่ำหมดไป การขึ้นอัตราดอกเบี้ยจึงเป็นสิ่งจำเป็น

อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยไม่น่ามีมากนัก แม้การปรับขึ้นจะมีผลให้ต้นทุนการเงินธุรกิจกลุ่มต่างๆ ปรับขึ้นบ้าง และไม่ห่วงบริษัทต่างๆ โดยเฉพาะในตลาดหุ้น เพราะมีฐานะเข้มแข็ง และยังรับได้

แต่กลุ่มที่น่าเป็นห่วงและได้รับผลกระทบคือ หนี้ภาคประชาชน ที่ขณะนี้เรามีหนี้ครัวเรือนสูง โดยเฉพาะกลุ่มมนุษย์เงินเดือน ที่มีหนี้สินเชื่อบ้าน แม้บัตรเครดิตดอกเบี้ยไม่ขึ้น แต่ดอกเบี้ยผ่อนบ้านจะค่อยๆ ขยับขึ้น คนที่เคยได้ดอกเบี้ยคงที่ต่ำๆ ก็จะเริ่มลอยตัวสูงขึ้น ทำให้มีภาระเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังมีค่าน้ำมัน ค่าอาหารที่แพงขึ้น แต่รายได้หรือเงินเดือนไม่ขึ้น คนกลุ่มนี้จะลำบาก

“ดังนั้น ต้องเตรียมรับมือ ต้องประหยัด อะไรที่ไม่จำเป็นต้องซื้อ ต้องกู้ ชะลอไปก่อน รักษาสภาพคล่องการเงินให้ดี อย่าสร้างหนี้เพิ่ม คนที่ยังไม่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ ก็ต้องคิดให้รอบคอบ คิดเผื่ออนาคต ที่ดอกเบี้ยจะปรับขึ้นด้วย”

ส่วนผลกระทบที่จะเกิดกับเศรษฐกิจไทย มองว่าเป็นความโชคดีของไทย ภายใต้เศรษฐกิจทั่วโลกกำลังเสี่ยงถดถอย แต่เศรษฐกิจไทยไม่ได้แย่ทุกกลุ่ม เพราะวิกฤติอาหารโลกขาดแคลน ทำให้ราคาอาหารและสินค้าเกษตร ยางพารา ปาล์มน้ำมันสูงขึ้น รวมทั้งค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงแตะ 36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้การส่งออกไทยมากขึ้น ในราคาที่ดีขึ้น เกษตรกรและแรงงานในภาคส่งออกมีรายได้มากขึ้น

 

นอกจากนี้ การท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัวเร็ว โดยเดือน มิ.ย.มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา 700,000 คน คาดว่าปลายปีจะเพิ่มขึ้นเป็นเดือนละมากกว่า 1 ล้านคน ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว มีการจ้างงานราว 10 ล้านคน คนเหล่านี้กลับมามีงานทำ มีเงินจับจ่ายใช้สอย

“ท่ามกลางเงินเฟ้อสูง ดอกเบี้ยสูง ต้องหาทางให้คนยังมีงานทำ เพื่อให้อยู่รอดได้อีกระยะ หัวใจคือ ต้องทำให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนไปข้างหน้าให้ได้ จากคนที่ยังดีอยู่ เอาเศรษฐกิจส่วนที่พอไปได้ มาช่วยฉุดเศรษฐกิจส่วนที่เหลือให้ไปต่อ เมื่อมีการจ้างงาน คนมีรายได้ มีการจับจ่าย คนกลุ่มนี้จะช่วยดึงเศรษฐกิจ หรือ Sector ที่เหลือให้ไปต่อได้”

ขณะเดียวกัน นโยบายภาครัฐต้องซัพพอร์ต 2 กลุ่มนี้ให้เข้มแข็ง และภาครัฐต้องเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง รองรับการเข้ามาลงทุนของต่างชาติ ทำให้ภาคธุรกิจยังบริหารจัดการต้นทุนได้ แม้เงินเฟ้อสูงถึง 6-7%

ส่วนผลกระทบต่อตลาดหุ้น ที่อัตราดอกเบี้ยขึ้นมักทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวลงนั้น “กอบศักดิ์” กล่าวว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยของไทย ตลาดหุ้นซึมซับรับข่าวนี้ไปหมดแล้ว และบริษัทในตลาดรับมือกับดอกเบี้ยขึ้นได้พอสมควร

 

“ทุกครั้งที่วิกฤติผ่านไป ตลาดหุ้นไทยมักจะปรับตัวขึ้นเร็วกว่าปกติ การเลือกลงทุนในหุ้นพื้นฐานดีในช่วงวิกฤติ มักเป็นโอกาสที่ดีเสมอเมื่อวิกฤติผ่านพ้น ผมยังมั่นใจว่าประเทศไทยจะผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปได้”


คนเล่นหุ้น