ห้องเม่าปีกเหล็ก

โบรกฯมอง..แบงก์ใหญ่ข้ามชาติฟอกเงิน

โดย Sunnyday
เผยแพร่ :
67 views

แบงก์ใหญ่ข้ามชาติฟอกเงิน โบรกฯ มองไม่กระทบหุ้นไทย

ประเด็นเอกสารการฟอกเงินรั่วไหลไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรก ซึ่งล่าสุดประเด็นนี้กลับมาเป็นที่สนใจของนักลงทุนอีกครั้ง ภายหลังทาง International Consortium of Investigative Journalists รายงานต่อรัฐบาลสหรัฐว่า ธนาคารขนาดใหญ่ระดับโลกหลายแห่ง มีส่วนพัวพันกับการฟอกเงิน โดยมีการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านขั้นตอนประมาณ 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงปี 2542-2560 ส่งผลให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์เมื่อคืนนี้ (21 ก.ย.63) ปรับลดลงถึง 800 จุด ก่อนจะเด้งกลับขึ้นมา แต่สุดท้ายดัชนีฯ ก็ปรับลดลงถึง 509.72 จุด หรือ -1.8%


แน่นอนว่าแรงกระแทกข่าวฟอกเงินดังกล่าว ทำให้หุ้นธนาคารขนาดใหญ่ในสหรัฐและยุโรปปรับลดลงทันที ซึ่งล่าสุดหุ้น Deutsche Bank ปิดตลาดที่ราคา 7 ยูโร ราคาหุ้นปรับลดลง 0.67 ยูโร หรือลดลง 8.76% JPMorgan ซึ่งเทรดอยู่ในตลาดหุ้นนิวยอร์ค ปิดตลาดที่ราคา 95.31 ดอลลาร์สหรัฐ ปรับลดลง 3.04 ดอลลาร์สหรัฐ หรือลดลง 3.09% Goldman Sachs ปิดตลาดที่ราคา 194 ดอลลาร์สหรัฐ ปรับลดลง 0.70 ดอลลาร์สหรัฐ หรือลดลง 0.36% Citigroup ปิดตลาดที่ราคา 43.93 ดอลลาร์สหรัฐ ปรับลดลง 0.92 ดอลลาร์สหรัฐ หรือลดลง 2.05% Bank of New York Mellon หรือ BNY Mellon ปิดตลาดที่ราคา 33.97 ดอลลาร์สหรัฐ ปรับลดลง 1.44 ดอลลาร์สหรัฐ หรือลดลง 4.08% HSBC ปิดตลาดที่ราคา 18.64 ดอลลาร์สหรัฐ ปรับลดลง 1.10 ดอลลาร์สหรัฐ หรือลดลง 5.55% Bank of America ปิดตลาดที่ราคา 24.47 ดอลลาร์สหรัฐ ปรับลดลง 0.73 ดอลลาร์สหรัฐ หรือปรับลดลง 2.90%


สำหรับประเด็นดังกล่าวจะส่งผลต่อหุ้นไทย โดยเฉพาะ “หุ้นแบงก์” อย่างไรบ้าง? บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด รายงานว่า ข่าวสถาบันการเงินใหญ่ระดับโลกถูกตรวจพบว่ามีการโอนเงินที่อาจขัดต่อกฎหมาย เหตุดังกล่าวทำให้ Fund Flow ไหลเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตามประเมินว่าผลกระทบจากเงินที่ผิดกฎหมายของธนาคารขนาดใหญ่ ไม่ค่อยกระทบตลาดหุ้นไทย


นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด มองว่า รายงานดังกล่าวถูกรายงานจากสมาคมผู้สื่อข่าว ดังนั้นอิทธิพลที่มีต่อตลาด ยังไม่สามารถสรุปได้ ทั้งนี้รายงานดังกล่าวเป็นรายงานเก่ามากๆ และมีสถาบันการเงินที่ระบุว่ามีส่วนเกี่ยวข้องประมาณ 90 กว่าแห่ง ในธนาคาร 2,000 กว่าจุด เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกที่จะมีธนาคารหลายแห่งหลักๆ ของโลก มีส่วนเกี่ยวข้องว่ามีเงินไหลเข้าสู่ขั้นตอนการกระทำผิดกฎหมาย

 

 

หุ้นกลุ่มอื่นปรับลงแรงกว่าหุ้นแบงก์

นายประกิตกล่าวว่า จริงๆ ตลาดหุ้นเมื่อคืนที่ผ่านมาไม่ได้ดูน่าตกใจเท่าไร ดัชนีดาวโจนส์ปรับลดลง 1.8% ก็จริง สวนทางกับตลาดหุ้น NASDAQ ที่ปรับขึ้น (ในช่วงที่ดาวโจนส์ปรับลดลง) ซึ่งพอดูรายละเอียดตัวหุ้นในตัชนีดาวโจนส์พบว่า หุ้นกลุ่มอื่นๆ เช่น กลุ่ม Material หุ้นอสังหา หุ้นพลังงาน ลงแรงกว่าหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ได้รับกระทบจากข่าวฟอกเงิน ซึ่งธนาคารส่วนใหญ่ที่ถูกเอ่ยชื่อถึง ราคาหุ้นปรับลดลง 2-3% มีเพียง HSBC ที่น่าจะปรับลงแรงมากที่สุด ส่วนตลาดหุ้นในยุโรปมองว่า เป็นความเสี่ยงเรื่องการระบาดของ Covid-19 รอบ 2 และการล็อคดาวน์มากกว่าความกังวลเรื่องนี้

 

 

ประเด็นเศรษฐกิจมีน้ำหนักต่อตลาดมากกว่า

“ส่วนตลาดหุ้นไทยมองว่าดัชนีไม่ได้ปรับลดลงจากเรื่องนี้ แต่เป็นเพราะบรรยากาศเศรษฐกิจไม่เอื้อมากกว่า ทั้งนี้มองว่าประเด็นดังกล่าวไม่น่าจะมีผลต่อการลงทุนในหุ้นแบงก์ เพราะก่อนหน้านี้หุ้นแบงก์แย่อยู่แล้ว สถานการณ์โดยรวมในตอนนี้ก็แย่ต่อแค่นั้นเอง แต่ประเด็นเศรษฐกิจมีน้ำหนักต่อตลาดมากกว่า” นายประกิตกล่าว


นายประกิตกล่าวว่า ส่วนการทำ Option ก่อนหน้านี้ทาง SoftBank เข้าไปทำ Option ในหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในสหรัฐ ทำให้หุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา ส่วนตอนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กำลังปรับฐาน ทำให้ได้รับผลกระทบ แต่ก็ไม่ได้เกี่ยวกับตลาดหุ้นไทย

 

 

ที่มา 
www.thestreet.com
www.marketwatch.com
www.marketwatch.com
www.cnbc.com

 

ขอบคุณเนื้อหาข้อมูลจาก


Sunnyday