วิกฤติรอบนี้..นักลงทุน“วีไอ”ว่าไง..!!
ที่มา : Seminar knowledge by Amorn
'โจ-อนุรักษ์ บุญแสวง' อดีตนายกสมาคม นักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) หรือ วีไอ ให้มุมมองตลาดหุ้นไทย ว่า ตลาดหุ้นไทยน่าจะตอบสนองข่าวร้ายต่อไปอีกราว 1 เดือน หรือ คาดการณ์ว่า 'ตลาดหุ้นน่าจะปรับตัวลงอีกเลวร้ายสุดประมาณ 10-20% คาดว่าดัชนี SET INDEX น่าจะไปอยู่ที่ระดับ 800 จุด !' เนื่องจากที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงมามากแล้ว ดังนั้น หลังจากนี้แรงขายหุ้นในตลาดน่าจะเริ่มน้อยลง สะท้อนผ่านปัจจุบันเริ่มเห็นสัญญาณนักลงทุนสถาบันเข้ามาทยอยเก็บหุ้นที่ราคาปรับตัวลดลงไปมากแล้ว
'ในฐานะนักลงทุนเราต้องเตรียมความพร้อมในทุกสถานการณ์ ส่วนตัวมองว่านักลงทุนจะต้องเจอวิกฤติตลอดอยู่แล้ว เพียงแต่ครั้งนี้ไม่ใช่วิกฤติเศรษฐกิจแต่เป็นวิกฤติโรคระบาดที่ไม่รู้ว่าจะจบลงเมื่อใดเท่านั้น แต่เชื่อว่าหลังจากโรคมีการแพร่ระบาดอย่างมากแล้วก็จะค่อยๆ ลดน้อยลง หลังจากประชาชนมีภูมิต้านทานโรคแล้ว'
อย่างไรก็ตาม มองว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 น่าจะจบภายในครึ่งปีแรก 2563 และในครึ่งปีหลังจะค่อยๆ ทยอยฟื้นตัวทั้งเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตามสถิติที่ผ่านมาหลังจากทุกอย่างคลี่คลายภาพรวมจะค่อยๆ ดีขึ้น และหลังจากนั้นจะฟื้นตัวอย่างรุนแรง
อย่างไรก็ตาม ปรับกลยุทธ์ เน้นหุ้นขนาดกลาง-ใหญ่ ที่มีสภาพคล่องและอัตราจ่ายเงินปันผลมากกว่า 3-4% ต่อปี เพราะแม้ราคาจะปรับตัวลดลง แต่ยังมีผลตอบแทนจากเงินปันผล และจะลดการลงทุนในหุ้นขนาดเล็ก เนื่องจากในภาวะตลาดหมีจะมีสภาพคล่องต่ำ
'ตอนนี้ของถูกเต็มตลาดเลย โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ ถือเป็นโอกาสเข้าลงทุน ซึ่งจะเน้นเลือกหุ้นที่มีปันผลดีลำดับแรก ขณะเดียวกันจะพยายามเลี่ยงหุ้นขนาดเล็ก เพราะสภาพคล่องต่ำ จะทำให้ขายลำบากหากต้องการตัดหุ้นออก'
'นิเวศน์ เหมวชิรวรากร' นักลงทุนหุ้นคุณค่า (VI) เล่าให้ฟังว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยได้ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง สะท้อนผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต้องใช้ 'มาตรการหยุดทำการซื้อขายอัตโนมัติชั่วคราว' (Circuit Breaker) โดยสาเหตุหลักเกิดจากนักลงทุนตื่นกลัวกับการแพร่ระบาดโควิด-19 ส่งผลกระทบเศรษฐกิจทั่วโลกและเศรษฐกิจไทย พร้อมกับผสมผสานกับแรงขาย 'Panic Sell' ของนักลงทุน
สำหรับมุมมองที่มีต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทยช่วงนี้เชื่อว่าในระยะถัดไปเศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย เนื่องจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและส่งออกที่เป็นรายได้หลักของประเทศหดตัวอย่างมีนัยสำคัญหลังนักท่องเที่ยวชะลอการเดินทางและเศรษฐกิจโลกอยู่ในทิศทางเชิงลบ เป็นปัจจัยสำคัญกระทบภาพรวมกำไรบริษัทจดทะเบียนเข้าสู่ทิศทางชะลอตัวเช่นกัน
สถานการณ์ตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ แม้จะมองว่าผันผวนหนักท่ามกลางปัจจัยแวดล้อมที่ยังไม่มีความแน่นอน แต่พบว่ามีหุ้นหลายบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯเริ่มมีมูลค่าเชิงพื้นฐาน (Valuation) ที่น่าสนใจซื้อสะสมลงทุนระยะยาวแล้ว อยากเน้นหุ้นที่มีคุณสมบัติเข้าข่ายหุ้นปลอดภัย (Defensive Stocks) , มีการจ่ายปันผลสม่ำเสมอในอัตราที่ดี , สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้แม้เผชิญกับภาวะเศรษฐกิจชะลอ ,และแนวโน้มธุรกิจในอนาคตต้องไม่ได้รับผลกระทบจากการถูกดิสรัปชั่นโดยเทคโนโลยี เป็นต้น
'ตอนนี้คนส่วนใหญ่กำลังกลัว แต่เราต้องกล้า กล้าที่จะเข้าไปซื้อหุ้นที่ดี ความกล้าต้องมาพร้อมกับการวิเคราะห์อย่างดีรอบคอบและต้องมีข้อมูลที่ถูกต้อง คุณสมบัติหุ้นที่กล้าซื้อต้องเข้าข่ายอย่างที่ผมกล่าวไว้ ในจังหวะแบบนี้ก็เหมาะสมอย่างยิ่งกับคนที่มีเงินสด ต้องกล้าเข้ามาลงทุน ซึ่งผมมองหุ้นเป็นรายตัวมากกว่า เพราะตลาดปรับตัวลงรอบนี้ ไม่ใช่หุ้นถูกทั้งตลาดฯ การปรับขึ้นก็ยังไม่มีสัญญาณอะไรที่บ่งชี้ว่าเป็นจุดกลับตัวชัดเจนเพราะขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจที่เสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย'