ห้องเม่าปีกเหล็ก

[มือใหม่] กลต. ตลท. คืออะไร เหมือนหรือต่างตรงไหน

โดย Pnatv
เผยแพร่ :
97 views

หน่วยงานในตลาดหลักทรัพย์ทั้งกลต. และ ตลท. มันคืออะไร บางคนงงหนักคิดว่ามันคือหน่วยงานเดียวกัน ซึ่งนักลงทุนมือใหม่อาจจะจำสับสนและงุนงงได้ วันนี้เราจะมาอธิบายกัน

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ กลตผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ตลท

กลต. หรือ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) 

เชื่อว่าหลายคนต้องสับสนกับองค์กรหรือหน่วยงานที่มีชื่อย่อมากมาย หน่วยงานต่างๆเหล่านี้ใช้ชื่อย่อเพื่อความกระชับในการเรียกนั่นเอง เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ มีชื่อย่อว่า ก.ล.ต. ระวังสับสนกับคณะกรรมการการเลือกตั้งนะครับ อันนั้นเรียกว่า กกต. มีความคล้ายคลึงกัน ต้องระวังให้ดีนะครับ เรียกผิดชีวิตเปลี่ยน  ส่วนตลท.คือตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั่นเอง แล้วหน้าที่ของทั้งสององค์กรคืออะไรบ้าง

บทบาท หน้าที่ ของ ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งต้องยอมรับว่า ยังมีผู้ลงทุนและประชาชนทั่วไปอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่ทราบว่า จริง ๆ แล้ว ก.ล.ต. และ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำหน้าที่แตกต่างกันอย่างไร ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะชื่อองค์กรที่มีคำว่า ตลาดหลักทรัพย์” อยู่ในชื่อเหมือนกัน 

เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายและเห็นภาพชัดเจน ผมขอยกตัวอย่างเปรียบเทียบ ตลาดหลักทรัพย์ฯ และ ก.ล.ต. กับตลาด และผู้ดูแลตลาด ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็เหมือนตลาดทั่วไปที่ให้ผู้ซื้อและผู้ขายมาพบเจอกัน อำนวยความสะดวกต่าง ๆ ในการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า ส่วนผู้ดูแลตลาดก็มีหน้าที่ดูแลสอดส่องให้การค้าขายในตลาดเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เช่นเดียวกับหน้าที่ของ ก.ล.ต. นอกจากนี้ หุ้นก็เหมือนกับรถยนต์ที่วิ่งบนท้องถนนนั่นแหละครับ จะต้องผ่านการตรวจสอบจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกก่อน หุ้นก็ต้องจดทะเบียนกับกลต.ก่อน ถ้าไม่จดทะเบียนก็จะถูกจับ ในกรณีนี้กรมการขนส่งฯเป็นผู้ดูแลรถยนต์ก่อนวิ่งบนถนน เหมือนกับตลท.ที่เข้ามาดูแลหุ้นในตลาด อนุญาตหุ้นในตลาดให้ซื้อขายได้ ซึ่งเทียบได้กับหน้าที่ของ ก.ล.ต. ในขั้นตอนของ IPO นั่นเองครับ

ทีนี้ IPO คืออะไร? IPO คือ การเสนอขายหลักทรัพย์ในตลาดแรกซึ่งเราอาจจะคุ้นเคยกับคำว่า IPO (เสนอขายต่อประชาชนครั้งแรก) หรือ PO (เสนอขายต่อประชาชนครั้งต่อ ๆ ไป) เป็นเรื่องที่ ก.ล.ต.ดูแลและรับผิดชอบตั้งแต่พิจารณาคุณสมบัติของบริษัทที่จะเสนอขายหลักทรัพย์ ผู้บริหารของบริษัท ลักษณะ หรือ feature ของหลักทรัพย์ รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทซึ่งต้องเปิดเผยอย่างถูกต้องและครบถ้วน ซึ่งโดยทั่วไป ก.ล.ต. จะใช้เวลาพิจารณาคำขอของบริษัทไม่เกิน 45 วันนับจากวันที่ได้รับข้อมูลที่ครบถ้วน และเปิดเผยข้อมูลของบริษัทดังกล่าวไว้บนเวบไซต์ของ ก.ล.ต. (www.sec.or.th) ด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่า หุ้น IPO ที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. จะไม่มีความเสี่ยงในการลงทุนนะครับ เปรียบกับรถยนต์ที่กรมการขนส่งฯอนุญาต ไม่ได้หมายความว่ากรมการขนส่งจะรับประกันว่ารถหรือยานพาหนะที่อนุญาตให้วิ่งแม้จะมีการตรวจสภาพครบถ้วนแล้ว  ผู้ลงทุนจะตัดสินใจจองซื้อหลักทรัพย์นั้นหรือไม่ เห็นว่าแพงไปหรือถูกดี ต้องศึกษาข้อมูลและพิจารณาดูครับ

รู้อย่างนี้แล้ว หากในครั้งต่อไป ท่านผู้อ่านต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวกับหุ้นที่กำลังทำ IPO ก็สามารถดูข้อมูลบนเวบไซต์ ก.ล.ต. หรือโทรมาสอบถามที่ ก.ล.ต. (Help center : 0-2263-6000 กด 2) และหากจะสอบถามข่าวสารความเคลื่อนไหวของบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ล่ะก็ ต้องตลาดหลักทรัพย์ฯ เพราะบริษัทจดทะเบียนมีหน้าที่ต้องเปิดเผยข้อมูลสารสนเทศของบริษัทผ่านระบบ (ELCID) ของตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่แล้วครับ

เรื่องต่อไป คือ การจับ 'ปั่นหุ้น' เรื่องนี้สำคัญเพราะเป็นการคุ้มครองผู้ลงทุนรายย่อยและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ลงทุน ทั้ง ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้แบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ใกล้ชิดข้อมูลการซื้อขาย จะทำหน้าที่เป็นด่านหน้าในการตรวจสอบราคาและปริมาณการซื้อขายหุ้นว่ามีความผิดปกติหรือไม่หากเห็นว่าอาจเข้าข่ายการกระทำความผิดก็จะรวบรวมข้อมูลส่งให้ ก.ล.ต. เพื่อตรวจสอบในเชิงลึกและดำเนินการกับผู้กระทำผิดตามกฎหมายต่อไป พูดง่าย ๆ คือตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทำหน้าที่เป็นผู้เฝ้าสังเกตการณ์ หากพบสิ่งผิดปกติหรือไม่ชอบมาพากล ก็จะแจ้งให้ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ในที่นี้ คือ ก.ล.ต. ทราบเพื่อจับคนผิดมาลงโทษต่อไป แต่ถ้าหาก ก.ล.ต. เป็นผู้พบพฤติกรรมที่อาจเข้าข่ายการกระทำความผิดฐานปั่นหุ้นเอง ก็สามารถดำเนินการได้ทันทีเช่นกันครับ

เรื่องสุดท้ายที่น่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ลงทุน คือ เรื่องการตรวจสอบข่าวลือ ซึ่งเรื่องนี้เป็นความร่วมมือกันของ องค์กร ตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา คือ กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์ฯ และ ก.ล.ต. โดยแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจนว่า หากเป็นข่าวลือเกี่ยวกับบริษัทจดทะเบียน ให้สอบถามข้อเท็จจริงไปยังตลาดหลักทรัพย์ฯซึ่งจะประสานงานให้บริษัทจดทะเบียนที่ตกเป็นข่าวออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงต่อผู้ลงทุนโดยเร็วที่สุด แต่หากเป็นข่าวลือที่เกี่ยวกับหน่วยงานทางการที่อยู่ในแวดวงตลาดการเงิน คือ กระทรวงการคลัง (รวมหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงการคลัง) และธนาคารแห่งประเทศไทย ผู้ลงทุนสามารถสอบถามมาที่ ก.ล.ต. ได้เลยครับ โดย ก.ล.ต. จะเป็นผู้ประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ขององค์กรเหล่านั้นเพื่อขอให้เปิดเผยหรือชี้แจงข้อเท็จจริงให้ผู้ลงทุนทราบโดยเร็วครับ

ส่วนหน้าที่ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. (SET)

ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ตลาดหลักทรัพย์มีบทบาทสำคัญ ดังนี้

  1. ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการซื้อขายหลักทรัพย์จดทะเบียน และพัฒนาระบบต่างๆ ที่จำเป็นเพื่ออำนวยความสะดวกในการซื้อขายหลักทรัพย์
  2. ดำเนินธุรกิจใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหลักทรัพย์ เช่น การทำหน้าที่เป็นสำนักหักบัญชี (Clearing House) ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ นายทะเบียนหลักทรัพย์ หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
  3. การดำเนินธุรกิจอื่น ๆ ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

ลักษณะการดำเนินงาน 

  • เป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2517
  • ทำหน้าที่ส่งเสริมการออมและการระดมเงินทุนระยะยาวเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ และเป็นศูนย์กลางในการซื้อขายหลักทรัพย์และให้บริการที่เกี่ยวข้อง โดยไม่นำผลกำไรมาแบ่งปันกัน
  • สนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของกิจการธุรกิจและอุตสาหกรรมภายในประเทศ
  • เริ่มเปิดทำการซื้อขายหลักทรัพย์เป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2518
  • ปัจจุบันดำเนินงานภายใต้พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535
  • การดำเนินงานหลัก ได้แก่ การรับหลักทรัพย์จดทะเบียนและดูแลการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทจดทะเบียน การซื้อขายหลักทรัพย์และการกำกับดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์ การกำกับดูแลบริษัทสมาชิกส่วนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหลักทรัพย์ ตลอดจนถึงการเผยแพร่ข้อมูลและการส่งเสริมความรู้ให้แก่ผู้ลงทุน

สังเกตว่าตลาดหลักทรัพย์เป็นผู้ดูแลการซื้อขายของหลักทรัพย์ต่างๆ และจัดหาความรู้แก่นักลงทุน มีห้องสมุดมารวยที่บริการความรู้แก่นักลงทุน มีกิจกรรมต่างๆ เช่น click2win เพื่อจำลองการเล่นหุ้น เป้าหมายจริงๆของเขาคือส่งเสริมความรู้ และทำให้เกิดการลงทุนมากขึ้นนั่นเอง

ส่วนกลต.ทำหน้าที่คอย monitor พฤติกรรมในตลาดตามชื่อขององค์กรเลยครับ "สำนักงานคณะกรรมการ" เป็นกรรมการที่ใช้อำนาจเพื่อลงโทษผู้กระทำผิด หากเราพบเห็นสิ่งผิดปกติ ไม่ชอบมาพากลในตลาดหลักทรัพย์ ให้รีบแจ้งกลต.เลยนะครับ ทุกท่านจะได้ไม่เสียผลประโยชน์กัน

ตอนนี้ท่านได้ทราบหน้าที่ของกลต.และตลท.กันแล้ว หวังว่าทุกท่านจะหายงงและเข้าใจการทำงานเบื้องต้นมากขึ้นนะครับ

 

ที่มา: ปริย เตชะมวลไววิทย์, สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย


Pnatv