ทางเลือกที่เจ็บปวดของ “เมียนมา” เพื่อพยุงค่าเงิน
เมียนมาออกมาตรการควบคุมเงินทุนต่อเนื่องเพื่อรักษาเสถียรภาพของสกุลเงินจ๊าดเพื่อคุมเงินเฟ้อและป้องกันไม่ให้เกิดสถานการณ์ความไม่สงบทางสังคม
เมียนมาออกมาตรการควบคุมเงินทุนอย่างต่อเนื่อง
เราเชิญคุณกริช อึ๊งวิฑูรย์สถิตย์ ประธานสภาธุรกิจไทย-เมียนมา มาพูดคุยเพื่อมาแบ่งปันมุมมองต่อมาตรการควบคุมเงินทุนล่าสุดของรัฐบาลเมียนมาและธนาคารกลางเมียนมา (CBM) คุณกริชบอกกับเราว่ามาตรการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาเสถียรภาพของสกุลเงินจ๊าดที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ส่งผลให้ทั้งประเทศประสบกับวิกฤติเงินเฟ้อแล้วในขณะนี้และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสถานการณ์ความไม่สงบทางสังคมเหมือนที่เกิดขึ้นในประเทศศรีลังกา มาตรการควบคุมเงินทุนเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ปลายเดือนพ.ย.2564 ช่วงที่ CBM มีคำสั่งให้ธนาคารและร้านแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ได้รับอนุญาตให้ซื้อขายสกุลเงินต่างประเทศภายใน ± 0.5% ของอัตราอ้างอิงของ CBM เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในตลาดมืดแตะระดับสูงสุดที่ 2,300 จ๊าด/ดอลลาร์ฯ เมื่อเดือนต.ค.2564 แม้ CBM กำหนดอัตราอ้างอิงไว้ที่ 1,850 จ๊าด/ดอลลาร์ฯ ทั้งนี้ ค่าเงินจ๊าดลดลง 70% ตั้งแต่เกิดรัฐประหารเมื่อเดือนก.พ.2564 จากสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองและวิกฤติโควิด-19 ต่อมาในเดือนเม.ย.2565 CBM ออกคำสั่งให้ผู้ถือสกุลเงินต่างประเทศในประเทศทั้งหมดแลกเปลี่ยนเงินเป็นสกุลเงินจ๊าดภายใน 1 วันทำการหลังได้รับก่อนที่จะขยายไปคุมบริษัททีมีผู้ถือหุ้นต่างชาติในสัดส่วนสูงสุด 35% ในเดือนก.ค.2565 นอกจากนี้ CBM ยังออกคำสั่งให้บริษัทและธนาคารในประเทศชะลอและทบทวนกำหนดการชำระคืนเงินกู้ในสกุลเงินต่างชาติภายในเดือนนี้ซึ่งหมายความว่าการชำระเงินหนี้สินในสกุลเงินต่างชาติทั้งหมดต้องทำในสกุลเงินจ๊าด อย่างไรก็ดี CBM ยังอนุญาตให้มีการชำระเงินโดยตรงในสกุลเงินบาทและหยวนเพื่อดำเนินการซื้อขายระหว่างประเทศได้ตามปกติ นอกจากออกมาตรการควบคุมเงินทุนแล้ว รัฐบาลยังออกคำสั่งห้ามนำเข้ารถยนต์และสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตเพื่อลดอุปสงค์ในสกุลเงินดอลลาร์ฯ เราคาดว่ามาตรการเงินทุนที่เข้มงวดมากขึ้น เพราะอุปทานเงินดอลลาร์ฯ ของเมียนมาลดลงจากกระแสเงินไหลออกผลจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนและนโยบายการเงินของ Fedผลกระทบจากมาตรการควบคุมเงินทุนล่าสุด
คุณกริชคาดว่ามาตรการชะลอการชำระคืนเงินกู้ในสกุลเงินต่างประเทศของเมียนมาอาจส่งผลกระทบต่อเจ้าหนี้ต่างชาติซึ่งมีหลักประกันอยู่ในเมียนมาและไม่สามารถบังคับกับหลักประกันดังกล่าวได้ เจ้าหนี้ที่มีหลักประกันอยู่นอกประเทศเมียนมาคาดจะได้รับผลกระทบจำกัด บริษัทในประเทศคาดจะยังดำเนินธุรกิจได้ตามปกติแต่ไม่อนุญาตให้แลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างชาติเพื่อชำระหนี้สินใด ๆ ผู้ส่งออกชาวเมียนมาคาดจะไม่ได้รับผลกระทบเพราะรับรู้รายได้ในสกุลเงินต่างชาติ ขณะที่ผู้นำเข้าชาวเมียนมาได้รับผลกระทบเชิงลบเพราะอนุญาตให้ชำระเงินโดยตรงในสกุลเงินบาทหรือหยวนเท่านั้นสำหรับการค้าระหว่างประเทศ ขณะที่การซื้อขายทางอื่น ๆ (เช่น ทางทะเลและอากาศ) ต้องอยู่ในสกุลเงินจ๊าดเท่านั้น ดังนั้น จึงอาจนำเข้าสินค้าเพื่อนำมาขายได้น้อยลงหากไม่สามารถดำเนินการด้วยสกุลเงินต่างชาติได้
คาด ณ ตอนนี้ บริษัทไทยได้รับผลกระทบจำกัด
หลังพูดคุยกับนักวิเคราะห์ของเรา เราคาดว่า ...PTTEP : จะไม่ได้รับผลกระทบเพราะ PTT จ่ายค่าก๊าซผ่าน onshore account ของ PTTEP
MEGA : คาดว่าจะขายสินค้าผ่านการค้าระหว่างประเทศโดยใช้สกุลเงินบาทหรือจ๊าด
CBG : จะไม่ได้รับผลกระทบเพราะผู้จัดจำหน่ายสามารถบริหารการซื้อขายในสกุลเงินบาทได้ แม้เครื่องดื่มที่ให้ความหวานทั้งหมด (เช่น เครื่องดื่มชูกำลัง ชา กาแฟและน้ำอัดลม) ถูกห้ามซื้อขายตรงชายแดน และอนุญาตให้นำเข้าพม่าผ่านทางเรือ และชำระเงินในสกุลเงินจ๊าดเท่านั้น
OSP : โรงงานของ OSP ตั้งอยู่ในเมียนมาและบริษัทฯ สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ
BH และ BDMS : วัตถุประสงค์ทางการแพทย์ (BH และ BDMS) และดำเนินธุรกรรมผ่านบัตรเครดิต หรือเดบิตได้ตามปกติ ชาวเมียนมายังได้รับอนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศสำหรับ