น้ำมันขยับขึ้น”ชั่วคราว” แนวโน้มร่วงยาว จากสงครามการค้า
ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นจากก่อนหน้าที่ปรับลดลงต่อเนื่อง หลังจากมีการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมัน 2 ลำในช่องแคบฮอร์มุซ แต่นักวิเคราะห์ประเมินว่าแนวโน้มราคาน้ำมันยังขาลงจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอจากสงครามการค้า แม้กลุ่มโอเปกยังคงปรับลดการผลิต
ราคาน้ำมัน WTI ปิดเพิ่มขึ้น 2.23% อยู่ที่ 52.28 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ Brent เพิ่มขึ้น 1.14 ดอลลาร์/บาร์เรล จากรายงานเรือบรรทุกน้ำมัน 2 ลำที่ถูกโจมตีในช่องแคบฮอร์มุซ โดยลำหนึ่งเป็นเรือสัญชาติญี่ปุ่น ส่วนอีกลำหนึ่งเป็นเรือสัญชาติไต้หวัน
นักวิเคราะห์กล่าวว่าราคาน้ำมันโลกจะดิ่งลงแตะระดับ 45 ดอลลาร์ หากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนเลวร้ายลง ทำให้อุปสงค์น้ำมันมีความเสี่ยงที่จะทรุดตัวลง หากสหรัฐและจีนไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้า ซึ่งจะส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจโลกอ่อนแอมากขึ้น
นักลงทุนทั้งตลาดหุ้นและตลาดโภคภัณฑ์กำลังจับตาการประชุมสุดยอด G20 ปลายเดือนนี้ ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะมีการประชุมนอกรอบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำของจีน หรือไม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีทรัมป์ขู่ว่าหากประธานาธิบดีสี จิ้นผิงไม่เข้าร่วมการประชุมสุดยอด G20 ในเดือนนี้ สหรัฐก็จะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมต่อสินค้านำเข้าจากจีน
สหรัฐขู่ว่าจะเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนอีก 3 แสนล้านดอลลาร์ หากสหรัฐไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับจีน
ทั้งนี้ การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนประสบความล้มเหลวในเดือนที่แล้ว โดยที่ประชุมไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้า ขณะที่สหรัฐได้เพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10% ส่งผลให้จีนทำการตอบโต้ ด้วยการเพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10% โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิ.ย.
ราคาน้ำมันโลกได้รับผลกระทบจากการคาดการณ์ว่าอุปสงค์ที่ลดลงทั่วโลกจากสงครามการค้ารุนแรงขึ้น หลังจากยังไม่มีรายงานที่ชัดเจนว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะเข้าร่วมประชุมครั้งนี้หรือไม่ นั่นหมายความว่าสงครามการค้าจะทวีความรุนแรงขึ้นหากไม่มีการเจรจาเกิดขึ้น
ราคาน้ำมันร่วงลง สวนทางกับรายงานจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่ออกรายงานภาวะตลาดน้ำมันประจำเดือนมิ.ย.ว่าโอเปกลดการผลิตน้ำมันในเดือนพ.ค. สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี ขณะที่โอเปกกังวลว่า การทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และความต้องการใช้น้ำมัน
ทั้งนี้ การผลิตน้ำมันจากกลุ่มประเทศโอเปกทั้ง 14 ชาติลดลง 236,000 บาร์เรล/วันในเดือนพ.ค. สู่ระดับ 29.88 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่โอเปกผลิตน้ำมันต่ำกว่า 30 ล้านบาร์เรล/วัน นับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2557
การผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบียลดลง 76,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 9.69 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนพ.ค. ต่ำกว่าโควต้าที่ระดับ 10.31 ล้านบาร์เรล/วัน
ขณะเดียวกัน โอเปกคาดว่าอุปสงค์น้ำมันโลกจะมีการขยายตัว 1.14 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขประมาณการก่อนหน้านี้ โอเปกยังคาดว่า ผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 2.14 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก