“สวิตเซอร์แลนด์” ดินแดนยุโรป ที่เงินเฟ้อ ทำอะไรไม่ได้ - BillionMoney

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เงินเฟ้อของสหภาพยุโรป ได้พุ่งขึ้นสูงถึง 10.7% ซึ่งเป็นระดับที่สูงมากที่สุด ตั้งแต่มีการก่อตั้งสหภาพยุโรปมา
แถมมีทีท่าว่าจะพุ่งสูงต่อไปอีก จากราคาพลังงานที่จะสูงขึ้นอย่างมาก ในหน้าหนาวที่กำลังจะมาถึง
ในขณะที่หลายประเทศในยุโรป กำลังประสบกับปัญหาเงินเฟ้อสูงมากในรอบหลายปี
แต่ “สวิตเซอร์แลนด์” กลับสามารถกดเงินเฟ้อให้อยู่เพียงแค่ 3% เท่านั้น ซึ่งเป็นตัวเลขเงินเฟ้อ ที่ต่ำที่สุดในยุโรป
แล้วทำไมเงินเฟ้อของสวิตเซอร์แลนด์ ถึงยังคงต่ำมาก ท่ามกลางปัญหาเงินเฟ้อ ที่ส่งผล
กระทบไปทั่วโลกเช่นนี้ ? BillionMoney จะย่อยให้เข้าใจ
สิ่งที่ทำให้สวิตเซอร์แลนด์ สามารถกดให้เงินเฟ้อต่ำได้ ทั้งที่หลาย ๆ ประเทศในยุโรป กำลังประสบกับปัญหาเงินเฟ้อสูง ก็มีด้วยกันอยู่ 3 เหตุผล
1. ค่าเงินฟรังก์สวิสแข็งค่ามาก เทียบกับคู่ค้าหลัก
เมื่อดูค่าเงินฟรังก์สวิส เทียบกับสกุลเงินของคู่ค้าหลัก ของสวิตเซอร์แลนด์ อย่างสหภาพยุโรป และสหราชอาณาจักรแล้ว ก็พบว่า แข็งค่าขึ้นถึง 5% และ 8% ตามลำดับ
นอกจากนั้น ถึงแม้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของสวิตเซอร์แลนด์ ยังคงต่ำเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก อยู่ที่ 0.5%
แต่ค่าเงินฟรังก์สวิสของสวิตเซอร์แลนด์ตั้งแต่ต้นปี ยังอ่อนค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เพียงแค่ 9.5% เท่านั้น
สาเหตุก็เนื่องมาจากเงินทุนที่ไหลเข้าสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนมองว่า เงินฟรังก์สวิสเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย จากการที่สวิตเซอร์แลนด์ ไม่ได้เป็นคู่กรณีในความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนโดยตรง และระดับหนี้สาธารณะต่อ GDP ยังคงต่ำอยู่
ด้วยค่าเงินที่แข็ง เมื่อเทียบกับคู่ค้าหลักเช่นนี้เอง จึงทำให้ราคาสินค้านำเข้าไม่สูงขึ้นมาก
2. สวิตเซอร์แลนด์ ไม่ได้พึ่งพาการนำเข้าพลังงานและอาหาร จากทั้งรัสเซียและยูเครน
พลังงานของประเทศสวิตเซอร์แลนด์กว่า 61.5% คือ ไฟฟ้าพลังน้ำ ส่วนอีก 28.5% คือ ไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์
สรุปง่าย ๆ ก็คือ 90% ของไฟฟ้าในสวิตเซอร์แลนด์ มาจากพลังงานหมุนเวียน
นอกจากนี้ สวิตเซอร์แลนด์ ยังไม่ได้นำเข้าอาหารจากรัสเซียและยูเครน แบบสหภาพยุโรปอีกด้วย เนื่องจากผลผลิตทางการเกษตรของสวิตเซอร์แลนด์นั้น ครอบคลุมถึง 60% ของความต้องการในประเทศ
และอาหารส่วนที่เหลือ ที่ต้องนำเข้านั้น ก็ล้วนนำเข้ามาจากประเทศในสหภาพยุโรป ไม่ใช่จากรัสเซียและยูเครน
ซึ่งสวิตเซอร์แลนด์ก็สามารถซื้อได้ในราคาถูกลง จากค่าเงินที่แข็งขึ้นมาก อย่างที่กล่าวไปข้างต้น
ส่งผลให้ราคาพลังงาน และราคาอาหาร ที่กำลังพุ่งสูงขึ้นเป็นอย่างมาก ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสวิตเซอร์แลนด์มาก เหมือนกับประเทศอื่น
3. วิธีการคำนวณเงินเฟ้อของสวิตเซอร์แลนด์ ไม่เหมือนกับประเทศอื่น ๆ ในยุโรป
การคำนวณเงินเฟ้อของสหภาพยุโรป จะให้น้ำหนักส่วนใหญ่ไปที่ราคาอาหาร, พลังงาน และค่าเดินทาง
ในขณะที่การคำนวณเงินเฟ้อของสวิตเซอร์แลนด์ จะให้น้ำหนักส่วนใหญ่ไปที่ ราคาที่อยู่อาศัย, ค่ารักษาพยาบาล และอาหาร
นั่นจึงทำให้สหภาพยุโรปที่นำเข้าพลังงานและอาหารจำนวนมาก มาจากรัสเซียและยูเครน มีตัวเลขเงินเฟ้อสูงมาก จากราคาพลังงานและอาหารที่เพิ่มมากขึ้น
ในขณะที่สวิตเซอร์แลนด์ ที่ไม่ได้ให้น้ำหนักราคาพลังงานมาก จึงทำให้ถึงแม้ว่าราคาพลังงานจะพุ่งสูงขึ้นมาก แต่ตัวเลขเงินเฟ้อของสวิตเซอร์แลนด์ ก็จะไม่ได้พุ่งสูงขึ้นเท่ากับประเทศในสหภาพยุโรป
โดยสรุปแล้ว การที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ไม่ได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อสูง อย่างเช่นหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก
ก็เนื่องมาจากค่าเงินฟรังก์สวิสที่แข็ง ทำให้สามารถนำเข้าสินค้าจำเป็นได้ในราคาถูกลง
แถมยังไม่ได้พึ่งพาพลังงานและอาหาร จากรัสเซียและยูเครน พร้อมกับการให้น้ำหนักในการคำนวณเงินเฟ้อ ที่แตกต่างจากประเทศในสหภาพยุโรปอีกด้วย
จึงทำให้ตอนนี้ สวิตเซอร์แลนด์ กลายเป็นเพียงไม่กี่ประเทศในโลก ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อสูงในขณะนี้เลย แม้แต่นิดเดียว..
References
-https://tradingeconomics.com/country-list/inflation-rate...
-https://www.marketwatch.com/investing/currency/
-https://www.b-sharpe.com/.../why-swiss-franc-strong.../
-https://globaleurope.eu/.../the-strong-swiss-franc-and-5.../