หุ้นไทยปิดบวก 7.20 จุด วอลุ่มทะลักกว่า 2 แสนล้าน

ตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายวันที่ 28 พฤษภาคม 2562 บวก 7.20 จุด หรือ +0.44% ดัชนีปิดที่ 1,632.04 จุด   โดยปรับขึ้นสูงสุดระหว่างวัน 1,632.47 จุด ต่ำสุด 1,618.33 จุด มูลค่าซื้อขาย 204,855.67 ล้านบาท  สูงสุดเป็นประวัติการณ์ 

แยกตามกลุ่มนักลงทุน เป็นการซื้อนักลงทุนต่างประเทศสุทธิ  12,534.95 ล้านบาท  ขณะที่นักลงทุนสถาบันในประเทศ ขายหุ้นสุทธิ 7,557.45 ล้านบาท  ,บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 1,103.55 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปในประเทศ ขายสุทธิ 3,873.96 ล้านบาท

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)  ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย)  กล่าวกับ”ฐานเศรษฐกิจ” ว่ามูลค่าตลาดหุ้นไทยปิดตลาดวันนี้ ( 28 พ.ค. ) ทะลักกว่า 2 แสนล้านบาท  โดยการซื้อขายหนาแน่นเข้ามาในช่วงท้ายตลาด  ซึ่งเป็นผลจากการที่ดัชนีMSCI ได้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นใหม่ที่เข้า 9 ตัว ( รวมหุ้นใน SMALL CAP  6 ตัว ) และยังเป็นการเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทย

สำหรับหุ้นไทยที่ถูกคำนวณในดัชนี MSCI  Global Standard Index  รอบนี้มี 3 ตัวคือ บริษัทอินทัช โฮล ดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (บมจ.)(INTUCH),   บมจ.ราช กรุ๊ป (RATCH),   บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC)  ส่วนหุ้นที่ถูกปลดออก มี 1 ตัว คือบมจ.เดลต้าอีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) (DELTA)    

ขณะที่หุ้น MSCI Small Cap Index   6 ตัวที่เข้ามาใหม่รอบนี้ ได้แก่ บมจ.อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) (AEONTS), บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น ( AAV ), บมจ. กรุงเทพประกันชีวิต (BLA ), บมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรนํ้า ภาคตะวันออก (EASTW), บมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง (PSH) และบมจ.ทิปโก้แอสฟัลท์ (TASCO)

ส่วนหุ้นปลดออกใน MSCI Small Cap Index มี 6 ตัวคือบมจ.แม็คกรุ๊ป (MC), บมจ.พริ้นซิเพิล แคปิตอล (PRINC) , บมจ.ไทยคม (THCOM), บมจ. ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป(TFG ), บมจ. วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย (VGI)  และ บมจ. โรงพยาบาลวิภาวดี (VIBHA)

ฝ่ายวิจัยบล. เอเซียพลัสฯ ระบุว่าจากการศึกษาสถิติย้อนหลัง 10 ปี พบว่าหุ้นที่เข้าคำนวณในดัชนี MSCI Global Standard   โดยเฉพาะหุ้นที่ถูกคัดเลือกเข้าคำนวณดัชนี MSCI Global Standard จะให้อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง 6.5% และมีความน่าจะเป็นที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกราว 84% แต่ราคาจะค่อยๆ ลดลงหลังเข้าคำนวณดัชนีแล้ว ส่วนหุ้นที่ถูกคัดเลือกเข้าคำนวณดัชนี MSCI Global Small Cap มักให้ผลตอบแทนเฉลี่ยน้อยกว่าที่ 1.9% โอกาสให้ผลตอบแทนเป็นบวก 57% ขณะที่หุ้นถูกคัดออกแนะเลี่ยงการลงทุนออกไปก่อน

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก