ในการประชุมที่โอซากา ประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 29 มิถุนายนปี พ.ศ 2562 นั้น ทรัมป์ได้ชะลอการปรับขึ้นภาษีสินค้านําเข้าจากจีนจํานวนที่เหลืออีก 300,000 ล้าน USD ออกไปด้วยการที่สีตกลงกับทรัมป์ใน 2 ข้อคือ :
1) " จะซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐอเมริกา "
2) " ระงับการส่ง Fentanyl ไปฆ่าชาวอเมริกันปีละ 100,000 คน "
แต่ข้อตกลงดังกล่าวข้างต้น จีนไม่ทําซักกะอย่าง! ทรัมป์จึงจําเป็นต้องขึ้นภาษีนําเข้าจากจีนเพิ่มเติมตามที่กล่าวถึงไปแล้วในโพสต์ก่อนหน้านี้
หมายเหตุ : 1) ทรัมป์ได้ประกาศปรับขึ้นภาษีสินค้านําเข้าจากจีนจํานวนที่เหลืออีก 300,000 ล้าน USD จาก 0% เป็น 10% ผ่าน @realDonaldTrump เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ปี พ.ศ 2562 และให้มีผลในวันที่ 1 กันยายน ปี พ.ศ 2562 และปรับเพิ่มเติมอีกผ่าน @realDonaldTrump เมื่อวานนี้ วันที่ 23 สิงหาคม ปี พ.ศ 2562
2) สรุปเรื่องการกีดกันการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน เป็นดังนี้ คือ :
2.1) ในปี พ.ศ 2561
2.1.1) สหรัฐอเมริกานําเข้าสินค้าจากจีนจํานวน 539,500 ล้าน USD
2.1.2) จีนนําเข้าเข้าสินค้าจากสหรัฐอเมริกาจํานวน 120,300 ล้าน USD
2.1.3) สหรัฐอเมริกาขาดดุลการค้าต่อจีนจํานวน 419,200 ล้าน USD
2.2) การกีดกันสินค้านําเข้าโดยการขึ้นภาษี :
2.2.1) สหรัฐอเมริกาขึ้นภาษีนําเข้าจากจีนแล้วจํานวนทั้งสิ้น 250,000 ล้าน USD ที่อัตราภาษี 25% และมีผลตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม ปี พ.ศ 2562 เป็นต้นมา
2.2.2) สหรัฐอเมริกาจะขึ้นภาษีนําเข้าจากจีนจํานวนที่เหลืออีก 300,000 ล้าน USD ที่อัตรา 10% และจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน ปี พ.ศ 2562 เป็นต้นไป
เพราะฉะนั้น สหรัฐอเมริกากีดกันภาษีจีนเกินไป 550,000 - 539,500 = -10,500 ล้าน USD
2.2.3) จีนขึ้นภาษีนําเข้าจากสหรัฐอเมริกาแล้วจํานวนทั้งสิ้น 110,000 ล้าน USD ที่อัตราภาษี 25% และมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ปี พ.ศ 2562 เป็นต้นมา
เพราะฉะนั้น จีนยังสามารถกีดกันภาษีนําเข้าจากสหรัฐอเมริกาได้เพิ่มอีก 120,300 - 110,000 = +10,300 ล้าน USD
3) โปรดติดตามการ Long และ Short Set 50 Derivatives ในระยะยาวได้ใน longtunbysak.blogspot.com และ Group Facebook
ที่ https://www.facebook.com/groups/2088093934817836/