ห้องเม่าปีกเหล็ก

ทำไม กลุ่มเซ็นทรัล ต้องโฟกัส ตลาดเวียดนาม เป็นพิเศษ

โดย ในหุบเขา
เผยแพร่ :
296 views

ทำไม กลุ่มเซ็นทรัล ต้องโฟกัส ตลาดเวียดนาม เป็นพิเศษ | BrandCase

 

50,000 ล้านบาท คืองบลงทุน 5 ปี ที่เซ็นทรัล รีเทล ตั้งเป้าไว้ สำหรับการเข้าไปลงทุนในเวียดนาม

พร้อมเป้าหมายที่จะสร้างรายได้จากตลาดเวียดนาม กว่า 150,000 ล้านบาท ภายในปี 2570

ทำไมเวียดนาม ถึงเป็นตลาดสำคัญ ที่กลุ่มเซ็นทรัลต้องโฟกัสเป็นพิเศษ

BrandCase จะสรุปให้อ่านกัน แบบเข้าใจง่าย ๆ

ต้องบอกว่า จุดเริ่มต้นของกลุ่มเซ็นทรัล ที่เริ่มก้าวเข้าไปลงทุนในเวียดนามเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2555

โดยเริ่มจากการเป็นผู้จัดจำหน่ายแบรนด์สินค้าแฟชั่น แล้วเริ่มทำรายได้ประมาณ 300 ล้านบาท ภายใน 2 ปี

ตัดกลับมาที่ปัจจุบัน ในปี 2565

รายได้จากเวียดนาม คิดเป็นสัดส่วน 24% ของรายได้เซ็นทรัล รีเทล ซึ่งคิดเป็นเงินไทย ก็ประมาณ 57,000 ล้านบาท

โดยอีก 4 ปีนับจากนี้ ทาง เซ็นทรัล รีเทล ตั้งเป้าจะสร้างรายได้จากตลาดเวียดนาม 150,000 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นเกือบ 3 เท่า เทียบกับรายได้จากเวียดนามของปีที่แล้ว

ปัจจุบัน ธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ในเวียดนาม ประกอบไปด้วยร้านค้าต่าง ๆ มากกว่า 340 แห่ง

กระจายอยู่ใน 42 จังหวัดของเวียดนาม

และ เซ็นทรัล รีเทล ก็ถือเป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกชั้นนำในเวียดนามไปแล้ว โดยเป็นผู้เล่น

- อันดับ 1 ในธุรกิจร้านค้าปลีกขนาดใหญ่

- อันดับ 2 ในธุรกิจศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์

โดยแบรนด์ร้านค้าปลีกและศูนย์การค้าที่เซ็นทรัล รีเทล ใช้ในเวียดนาม ก็อย่างเช่น GO!, Tops market

ซึ่งการที่เซ็นทรัล รีเทล ตั้งเป้าที่จะไปลงทุนในเวียดนามอย่างต่อเนื่อง เหตุผลเพราะว่า

ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศเวียดนามยังมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และขยายตัวมากที่สุด เมื่อเทียบกับหลายประเทศต่าง ๆ ในเอเชีย

โดยได้รับแรงหนุนจากภาคอุตสาหกรรม และการฟื้นตัวของภาคบริการของประเทศ

โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF คาดว่า

GDP ของเวียดนามในปี 2023 จะเติบโต 6.2% จากปีที่แล้ว

นอกจากปัจจัย เรื่องการเติบโตของ GDP ก็ยังมีปัจจัยสำคัญอื่น ๆ เช่น

- มูลค่าตลาดของ การค้าปลีกสมัยใหม่ ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก

ปัจจุบัน มูลค่าตลาดค้าปลีกของเวียดนามอยู่ที่ 4.8 ล้านล้านบาท โดยมูลค่าดังกล่าวคาดว่าจะเติบโตไปที่ 11.9 ล้านล้านบาท ภายในปี 2568

โดยในมูลค่านี้ Traditional Trade หรือค้าปลีกแบบดั้งเดิม ยังมีสัดส่วนสูงถึง 89%

ขณะที่ Modern Trade หรือค้าปลีกสมัยใหม่ มีสัดส่วนอยู่เพียง 11%

หมายความว่า โอกาสในธุรกิจโมเดิร์นเทรด ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก ทำให้เป็นโอกาสของ CRC ที่จะเติบโตในตลาดแห่งนี้มากตามไปด้วย

- วิถีชีวิตของคนเวียดนาม กำลังเปลี่ยนสู่ความเป็นคนเมืองมากขึ้น

การเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจและสังคม จึงทำให้วิถีชีวิตของชาวเวียดนามเปลี่ยนแปลงไปด้วย

โดยในปี 2562 จำนวนประชากรชาวเวียดนามที่อาศัยแบบสังคมเมือง มีประมาณ 33 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 34% ของจำนวนประชากรทั้งหมด

โดยตัวเลขนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 52 ล้านคน หรือกว่า 50% ของจำนวนประชากรชาวเวียดนาม

ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนธุรกิจโมเดิร์นเทรดของ เซ็นทรัล รีเทล ตามไปด้วย

- จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่จะไหลเข้ามายังเวียดนาม

การเข้ามาของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่งผลดีต่อหลายธุรกิจ รวมไปถึงธุรกิจโมเดิร์นเทรด เนื่องจากช่วยเสริมกำลังซื้อขึ้น นอกเหนือจากกำลังซื้อของประชากรท้องถิ่น

โดยมีการคาดการณ์กันว่า ในปี 2567 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าสู่เวียดนาม จะมี 19 ล้านคน ซึ่งจะกลับมาสูงกว่าในปี 2019 ที่เคยทำไว้ราว ๆ 18 ล้านคน

อ่านมาถึงตรงนี้ เราน่าจะพอเข้าใจแล้วว่า

ทำไมเซ็นทรัล รีเทล ถึงให้ความสำคัญด้วยการทุ่มงบลงทุนสูงถึง 50,000 ล้านบาท ไปยังเวียดนาม

ก็เพราะว่าถ้าดูข้อมูลตัวเลขในหลาย ๆ ด้าน และการเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรมของประชากร

เวียดนาม ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตลาด

ที่ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ อย่างเซ็นทรัล รีเทล จะมีศักยภาพเติบโตได้อีกไม่น้อย ในอนาคต..

References

-https://www.centralretail.com/.../central-retail-invests...

-https://www.centralretail.com/.../document/presentations

-https://www.prachachat.net/d-life/news-1212950

-https://www.set.or.th/.../financial.../company-highlights

-https://www.imf.org/en/Countries/VNM

-https://www.asiapropertyawards.com/.../vietnams-retail.../

 

 


ในหุบเขา