World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้

World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้

—สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปรับตัวขึ้นในเช้าวันนี้ (11 พ.ย.) หลังจากตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดบวกจากกระแสความเชื่อมั่นต่อเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งเมื่อวานนี้ และความหวังที่เพิ่มขึ้นว่าภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ จะสิ้นสุดในเร็ว ๆ นี้

เมื่อวานนี้ หุ้นอินวิเดีย (Nvidia) พุ่งขึ้น 5.8% นำการปรับตัวขึ้นของดัชนี S&P500 ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีรายอื่น ๆ ก็ปรับตัวตาม เช่น หุ้นอัลฟาเบท (Alphabet) บริษัทแม่ของกูเกิล พุ่งขึ้น 4% และหุ้นไมโครซอฟท์ (Microsoft) บวก 1.9% สิ้นสุดการร่วงติดต่อกัน 8 วัน

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ แสดงการสนับสนุนข้อตกลงสองพรรคเพื่อยุติภาวะชัตดาวน์ ซึ่งเป็นพัฒนาการสำคัญที่ทำให้รัฐบาลมีแนวโน้มกลับมาเปิดทำการได้ภายในไม่กี่วันข้างหน้า

ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันจันทร์ (10 พ.ย.) ว่า สหรัฐฯ ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกพรรคเดโมแครตเพียงพอแล้ว และรัฐบาลจะเปิดประเทศอีกครั้งโดยเร็วที่สุด พร้อมระบุว่า "น่าเสียดายที่ต้องปิดไป แต่เรากำลังจะเปิดประเทศของเราอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้"

ด้านผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา จอห์น ธูน กล่าวว่าคาดว่าทรัมป์จะลงนามให้ร่างกฎหมายนี้มีผลบังคับใช้ทันทีที่สภาคองเกรสผ่านร่างดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม วุฒิสภายังต้องดำเนินกระบวนการตามขั้นตอนที่อาจใช้เวลานาน และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต้องเดินทางกลับกรุงวอชิงตันเพื่อร่วมลงคะแนนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย. โดยคาดว่าการลงมติรอบสุดท้ายของวุฒิสภาเพื่อผ่านร่างงบประมาณจะมีขึ้นในช่วงค่ำวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐฯ ก่อนส่งต่อให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาอนุมัติในวันพุธนี้

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ โพสต์ข้อความบน Truth Social เมื่อวานนี้ ระบุว่า ชาวสหรัฐฯ ที่มีรายได้น้อยจะได้รับเงิน 2,000 ดอลลาร์ หรือราว 64,620 บาท จากรายได้ของรัฐบาลที่มาจากการจัดเก็บภาษีศุลกากร และเงินส่วนที่เหลือจะถูกนำไปใช้ในการชำระหนี้สาธารณะของประเทศ

อย่างไรก็ดี การแจกเงินดังกล่าวแก่ชาวสหรัฐฯ ยังเป็นเพียงข้อเสนอของปธน.ทรัมป์ โดยยังไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรส และยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับการกำหนดเกณฑ์ผู้มีรายได้ต่ำ หรือกำหนดการและวิธีการจ่ายเงินดังกล่าว

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เตรียมดำเนินการทางกฎหมายต่อสำนักข่าว BBC โดยกล่าวหาว่า BBC ได้เผยแพร่ข้อมูลเท็จ ใส่ร้าย เสียดสี และยั่วยุให้เกิดความเข้าใจผิดต่อปธน.ทรัมป์ พร้อมให้เส้นตายถึงวันศุกร์นี้เพื่อให้ BBC ทำการแก้ไข มิฉะนั้นจะฟ้องเรียกค่าเสียหาย 1 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 32,321 ล้านบาท

ทั้งนี้ BBC กำลังเผชิญกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากสารคดี BBC Panorama เกี่ยวกับสุนทรพจน์ของปธน.ทรัมป์เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2564 ก่อนเกิดเหตุจลาจลที่อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ โดยผู้วิจารณ์ระบุว่าสารคดีดังกล่าวได้บิดเบือนอย่างรุนแรง เนื่องจากมีการตัดส่วนที่ปธน.ทรัมป์พูดให้ผู้สนับสนุน "ทำการประท้วงอย่างสงบ"

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ โพสต์ข้อความบน Truth Social เมื่อวานนี้ แสดงความไม่พอใจต่อเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศที่ได้หยุดงานในช่วงที่สหรัฐฯ เผชิญกับการปิดหน่วยงานรัฐบาล หรือชัตดาวน์ โดยคนเหล่านี้จะต้องรีบกลับไปทำงานโดยทันที มิฉะนั้นจะถูกหักเงินเดือน ส่วนผู้ที่ไม่ได้หยุดงานในช่วงชัตดาวน์ จะได้รับเงินโบนัสจำนวน 10,000 ดอลลาร์ หรือราว 323,400 บาท

"เจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศทุกคนจะต้องกลับไปทำงานโดยทันที!!! ใครก็ตามที่ไม่ปฏิบัติตามจะถูกหักเงินเดือนจำนวนมาก"

-- ดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงเมื่อวานนี้ บ่งชี้ว่านักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับการปิดหน่วยงานรัฐบาล หรือชัตดาวน์

ณ เวลา 21.42 น. ตามเวลาไทย ดัชนี VIX ร่วงลง 5.87% สู่ระดับ 17.96 หลังจากพุ่งทะลุระดับ 20 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับชัตดาวน์ และภาวะฟองสบู่ของหุ้นในธุรกิจปัญญาประดิษฐ์ (AI)

-- ข้อมูลและเหตุการณ์เศรษฐกิจสำคัญเมื่อวานนี้ (11 พ.ย.) มีดังนี้:-

จีนเปิดเผยยอดปล่อยกู้ใหม่สกุลเงินหยวนเดือนต.ค.

ออสเตรเลียเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.จากเวสต์แพค และดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนต.ค.จากเนชันแนล ออสเตรเลีย แบงก์ (NAB)

อังกฤษเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนก.ย.

อียูเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนพ.ย.จาก ZEW

เยอรมนีเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนพ.ย.จาก ZEW

สหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนต.ค.จากสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐฯ (NFIB) และ ADP รายงานตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนรายสัปดาห์