ฟองสบู่โลกแตกแล้ว หรือยัง?

ตลาดหลักปรับตัวลงอย่างถ้วนหน้า เมื่อวานนี้ วันที่ 22 พฤศจิกายน ปี พ.ศ 2561 ดังนี้ คือ :

1) Down Jones ปิดที 24,464 จุด หรือ ปรับตัวลดลงจากจุดสูงสุดตลอดกาล = ( 24,464 - 26,951 ) / 26,591 x 100 = -9.23%

2) Nasdaq ปิดที่ 6,972 จุด หรือ ปรับตัวลดลงจากจุดสูงสุดตลอดกาล = ( 6,972 - 8,133 ) / 8,133 x 100 = -14.27%

3) ราคานํ้ามัน Wti  ปิดที่  53.85 USD Per Barrel หรือ ปรับตัวลดลงจากจุกสูงสุดในรอบที่แล้ว = ( 53.85 - 76.90 ) / 76.90 x 100 = -29.97% 

4) ราคา Bitcoin ปิดที่  4,456 จุด หรือ ปรับตัวลดลงจากจุกสูงสุดตลอดกาล = ( 4,456 - 19,783 ) / 19,783 x 100 = -77.48%

5) Set Index ปิดที่  1,604 จุด หรือ ปรับตัวลดลงจากจุดสูงสุดตลอดกาล  = ( 1,604 - 1,852  ) / 1,852 x 100 = -13.39%

และ ที่สําคัญที่สุดนักลงทุนต่างชาติยังคงเดินหน้าทําสถิติขายสะสมปีหุ้นไทยในปีนี้คือปี พ.ศ 2561 สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ที่ -282,732.13 ล้าน บาท

 และตามที่ได้เคยแสดงความคิดเห็นไว้หลายครั้งหลายหน ผู้โพสต์เชื่อว่าฟองสบู่โลกแตกครั้งต่อไปจะมีสาเหตุมาจาก ปัญหาหนี้สินท่วมโลก เท่านั้น

ผู้โพสต์มีความเห็นว่า " ฟองสบู่โลกแตกแน่ๆ! ในอนาคต " ส่วนประเด็นที่ว่า " ปัจจุบันฟองสบู่โลกแตกแล้ว หรือยัง? " นั้น ผู้โพสต์ก็ไม่ทราบเหมือนกัน ผู้โพสต์ทราบแต่เพียงว่า " ถ้าฟองสบู่โลกแตกจริงแล้ว การปรับดอกเบี้ย Fed Fund Rate  ในปีหน้าอีก 3 ครั้ง และ การปรับดอกเบี้ยนโยบายของไทยในช่วงปลายปีนี้ หรือ ต้นปีหน้า 1 ครั้ง ก็จะไม่เกิดขึ้น แต่ทิศทางของ Fed Fund Rate และดอกเบี้ยนโยบายของไทยจะกลับทิศทางเป็นขาลงรอบใหญ่อีกครั้งหนึ่งแทน ตามตลาดหุ้นขาลงรอบใหญ่ไป "

และถ้าเกิดขึ้นจริง สิ่งที่นักลงทุนควรจะทําก็คือ :

1) ขายหุ้นขาชึ้นแบบล้างพอร์ตทิ้งให้หมดไปเลย แล้วรอให้ฟองสบู่โลกแตกแล้วที่ Set Index ประมาณ ( 1,852 x 0.11) =  203 จุด แล้วค่อยกลับเข้ามาซื้อหุ้นคืน ตามแบบฉบับของ  ​Warren Buffett 

หรือ 

2) เล่นทางลงหรือขายชอร์ต Set 50 Derivatives จากนี้ไปจน Set Index ปรับตัวลงไปถึงประมาณ  ( 1,852 x 0 .11 ) =  203 จุด ตามแบบฉบับของ George Soros และ Jim Rogers

อย่างไรก็ตาม ความคิดเห็นดังกล่าวข้างต้นเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้โพสต์เอง และไม่รับประกันความถูกต้องได้

หมายเหตุ : 1) ที่มาจาก ( www.bloomberg.com ) และ ( www.set.or.th )

                 2)  การวิเคราะห์ว่า " ฟองสบู่โลกแตกแล้วในปัจจุบันคือในปลายปี พ.ศ 2561 " เป็นการวิเคราะห์จาก Jim Rogers ซึ่งเป็นเจ้าของ Rogers Holdings และ Beeland Interests และ เป็นผู้ก่อตั้ง Quantum Fund ร่วมกับ George Soros ในอดีต  อนึ่ง  Jim Rogers เป็นผู้ก่อตั้ง Rogers Internatinal Commodity Index หรือ RICI ด้วย ส่วนการวิเคราะห์ว่า " ฟองสบู่จะแตกในปี พ.ศ 2564  " เป็นการวิเคราะห์จาก Ray Dalio ซึ่งเป็นเจ้าของ Bridgewater Associates ที่เป็นกองทุน Hedge Fund กองที่ใหญ่ที่สุดในโลก 

                 3) โปรดติดตามรายละเอียดการลงทุนใน สภาวะตลาดกระทิง และ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขาขึ้นรอบใหญ่ หรือ/และ สภาวะตลาดหมี และ Set Index  เป็นขาลงรอบใหญ่ ได้ใน longtunbysak.blogspot.com