JKN เตรียมขอมติผู้ถือหุ้นกู้ชุด JKN239A
ขยายวันครบกำหนดไถ่ถอน-ไม่ถือเป็นเหตุผิดนัด
หากอนุมัติจะเพิ่มดอกเบี้ยให้เป็น 7 % ต่อปี

.
นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์ว่า ความคืบหน้าเกี่ยวกับการดําเนินการที่เกี่ยวข้องกับหุ้นกู้ของบริษัท จึงได้กําหนดวันจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้สําหรับหุ้นกู้รุ่น JKN239A ในวันที่ 27 กันยายน 2566 ด้วยวิธีการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยกําหนดวันปิดสมุดทะเบียน เพื่อกําหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นกู้ที่มีสิทธิเข้าประชุมผู้ถือหุ้นกู้ในวันที่ 13 กันยายน 2566 เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับเหตุผิดนัดภายใต้ข้อกําหนดสิทธิของหุ้นกู้รุ่น JKN239A และการดําเนินการแก้ไขเหตุผิดนัดดังกล่าว
.
สำหรับวาระการประชุมประกอบไปด้วย การพิจารณาอนุมัติ (ก) การขยายวันครบกําหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ โดยไม่ถือเป็นเหตุผิดนัด และการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อกําหนดสิทธิของหุ้นกู้และเอกสารอื่นใดที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไขเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
.
โดยบริษัทเสนอให้ผู้ถือหุ้นกู้พิจารณาอนุมัติการขยายวันครบกําหนดไถ่ถอนหุ้นกู้รุ่น JKN239A จากวันที่ 1 กันยายน 2566เป็นวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 และเสนอให้ผู้ถือหุ้นกู้พิจารณาอนุมัติการเปลี่ยนแปลงข้อกําหนดสิทธิของหุ้นกู้รุ่น JKN239A รวมถึงเอกสารอื่นใดที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สอดคล้องกับการขยายวันครบกําหนดไถ่ถอนหุ้นกู้รุ่น JKN239A ดังกล่าว
.
(ข) การชําระคืนเงินต้นหุ้นกู้บางส่วน และการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อกําหนดสิทธิของหุ้นกู้และเอกสารอื่นใดที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไขเปลี่ยนแปลงดังกล่าวในกรณีที่ผู้ถือหุ้นกู้มีมติอนุมัติการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อกําหนดสิทธิของหุ้นกู้รุ่น JKN239A เพื่อขยายวันครบกําหนดไถ่ถอนหุ้นกู้รุ่น JKN239A
.
โดยบริษัทมีแผนที่จะชําระคืนเงินต้นหุ้นกู้รุ่น KN239A บางส่วนพร้อมดอกเบี้ย (ในอัตราดอกเบี้ยใหม่) หากได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้รุ่น JKN239A) จํานวน 19.5 ล้านบาท ในวันที่ 15 ธันวาคม 2566 คงเหลือเงินต้นที่ต้องชําระจํานวน 432.45 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะชําระในวันครบกําหนดไถ่ถอนหุ้นกู้รุ่น JKN239A ใหม่ ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์2567 (หากได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้รุ่น JKN239A)
.
รวมทั้งเสนอให้ผู้ถือหุ้นกู้พิจารณาอนุมัติการแก้ไขข้อกําหนดสิทธิของหุ้นกู้รุ่น JKN239A รวมถึงเอกสารอื่นใดที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สอดคล้องกับการชําระคืนเงินต้นบางส่วนของหุ้นกู้รุ่น JKN239A ดังกล่าว ทั้งนี้ การแบ่งชําระคืนเงินต้นหุ้นกู้ตามรายละเอียดข้างต้นไม่ถือเป็นกรณีการไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนวันครบกําหนดไถ่ถอนตามข้อ 21 ของ
.
(ค) การเพิ่มอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้และการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อกําหนดสิทธิของหุ้นกู้และเอกสารอื่นใดที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไขเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ในกรณีที่ผู้ถือหุ้นกู้มีมติอนุมัติการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อกําหนดสิทธิของหุ้นกู้รุ่น JKN239A เพื่อขยายวันครบกําหนดไถ่ถอนหุ้นกู้รุ่น JKN239A
.
โดบบริษัทเสนอให้ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้รุ่น JKN239A ตามที่ระบุในข้อกําหนดสิทธิในอัตราร้อยละ 0.40 ต่อปี จากอัตราดอกเบี้ยเดิม 6.60% ต่อปี เป็นอัตราดอกเบี้ยใหม่ 7% ต่อปีโดยอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้ใหม่จะใช้บังคับนับตั้งแต่ (โดยรวมถึง) วันครบกําหนดไถ่ถอนหุ้นกู้เดิม (Maturity Date) ได้แก่วันที่ 1 กันยายน 2566 จนถึง (แต่ไม่นับรวม) วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งเป็นวันครบกําหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ใหม่ (หากได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้)
.
รวมทั้งเสนอให้ผู้ถือหุ้นกู้พิจารณาอนุมัติการแก้ไขข้อกําหนดสิทธิของหุ้นกู้รุ่น JKN239A รวมถึงเอกสารอื่นใดที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สอดคล้องกับการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้รุ่น JKN239A ดังกล่าวข้อกําหนดสิทธิเพิ่มเติมสําหรับหุ้นกู้ JKN239A
.
(ง) การขอผ่อนผันให้การผิดนัดชําระเงินต้นและดอกเบี้ยในวันครบกําหนดไถ่ถอนวันที่ 1 กันยายน 2566 ไม่ถือเป็นเหตุผิดนัดตามข้อกําหนดสิทธิและไม่เรียกชําระหนี้ตามหุ้นกู้โดยพลัน (Call Default) โดยบริษัทเสนอให้ผู้ถือหุ้นกู้พิจารณาอนุมัติการขอผ่อนผันให้การผิดนัดชําระเงินต้นและดอกเบี้ยในวันครบกําหนดไถ่ถอน วันที่ 1 กันยายน 2566 ไม่ถือเป็นเหตุผิดนัดตามข้อกําหนดสิทธิและไม่เรียกชําระหนี้ตามหุ้นกู้โดยพลัน (Call Default)
.
ขณะที่หุ้นกู้รุ่นอื่นๆ บริษัทได้หารือร่วมกับผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้เพื่อกําหนดวันประชุมผู้ถือหุ้นกู้ทุกรุ่นข้างต้น เพื่อพิจารณาการขอผ่อนผันให้เหตุผิดนัดตามข้อกําหนดสิทธิไม่ถือเป็นเหตุผิดนัดตามข้อกําหนดสิทธิของหุ้นกู้ และไม่เรียกชําระหนี้ตามหุ้นกู้โดยพลัน (Call Default) โดยบริษัทจะจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ในวันที่ 12 ตุลาคม 2566 และจะกําหนดวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อกําหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นกู้ที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นกู้แต่ละรุ่นดังกล่าว ในวันที่ 28 กันยายน 2566