ฟันด์โฟลว์ชะลอกด SET แกว่ง 1,690 จุด แนะลงทุนหุ้นกำไรไตรมาส 4/65 เติบโต
บริษัท หลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ประเมิน SET แกว่งตัว 1,675 - 1,690 จุด เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่ ประกอบกับแนวโน้ม Fund flow ต่างชาติชะลอตัวเพื่อติดตามดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐ ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อในวันพรุ่งนี้ ดังนั้นภาวะตลาดจะเป็นลักษณะเลือกเล่นหุ้นรายตัว เช่น กลุ่มงบไตรมาส 4/65 เติบโต และควรเข้าลงทุนแบบเก็งกำไรเป็นรอบ (ลงซื้อ/ขึ้นขาย)
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน Selective Buy หุ้นที่คาดงบไตรมาส 4/65 เติบโต BGRIM GPSC AOT CENTEL ERW AAV BA CPALL CRC CBG PLANB SIRI ORI SNNP SPA AU SISB HUMAN BE8 และหุ้นรับอานิสงส์เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 CENTEL ERW MINT AWC SHR
ส่วนหุ้นแนะนำวันนี้ CRC (ปิด 43.75 ซื้อ/เป้า BB Consensus 48) ได้ประโยชน์โดยตรงจากมาตรการช้อปดีมีคืน และ จากข่าวกรุ๊ปทัวร์จีนจะเดินทางเข้าไทยตั้งแต่ 9 ก.พ. เป็นต้นไป
และ MAKRO (ปิด 42.75 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 45 บาท) ผลประกอบการทยอยฟื้นตัวและมี Sentiment บวกจากข่าวที่คาดว่าจะได้เข้าคำนวณในดัชนี MSCI รอบใหม่ ประกาศ 9 ก.พ. 2023
ขณะที่ประเด็นสำคัญวันนี้ ได้แก่ กนง. มีมติเป็นเอกฉันฑ์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด: คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเป็นเอกฉันฑ์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% จาก 1.25% เป็น 1.5% เพื่อคุมเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง ส่วนแนวโน้มการประชุมครั้งถัดไป 29 มี.ค.2023 คาดปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% เป็น 1.75% เป็นบวกต่อกลุ่มแบงก์แต่เป็นลบกับไฟแนนซ์
SCC เหนื่อยงบไตรมาส 4/65 กำไรสุทธิหดตัวแรงทั้งจากช่วงเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า โดย SCC มีกำไรสุทธิ ไตรมาส 4/65 เพียง 157 ล้านบาทลดลง 94% ไตรมาสก่อนหน้า และ 98% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ต่ำกว่าที่ Consensus คาดไว้ที่ 1 – 1.4 พันล้านบาท ส่งผลให้ทั้งปีมีกำไรสุทธิรวมเพียง 21,382 ล้านบาทลดลง 55%yoy กดดันให้บริษัทจ่ายปันผลสำหรับครึ่งหลังของปีนี้เพียง 2 บาทต่อหุ้นให้ Dividend yield แค่ 0.6% เท่านั้น
และติดตาม GDP ไตรมาส 4/65 ของสหรัฐ และ ดัชนี PCE เพื่อจับสัญญาณเงินเฟ้อของสหรัฐ โดยเบื้องต้น Consensus คาด GDP ไตรมาส 4/65 ของสหรัฐจะขยายตัว 2.6-2.7% ชะลอตัวลงจากไตรมาส 3/65 ที่ขยายตัว 3.2% ส่วนพรุ่งนี้ติดตามดัชนี PCE Price Index ของสหรัฐซึ่งเป็นตัวแทนเงินเฟ้อของเฟด คาด Core PCE ที่ 4.4% ลดลงจาก 4.7% ในเดือน พ.ย. ถือเป็นสัญญาณบวก