ห้องเม่าปีกเหล็ก

MGI เจ้าของ “มิสแกรนด์” เวทีนางงามร้อยล้าน กำลังจะเข้าตลาดหุ้น

โดย สุดสวย
เผยแพร่ :
256 views

MGI เจ้าของ “มิสแกรนด์”

เวทีนางงามร้อยล้าน กำลังจะเข้าตลาดหุ้น

 

.

ในแวดวงนางงามก่อนหน้านี้มีข่าวเซอร์ไพรส์อย่าง บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ได้ประกาศเข้าเป็นเจ้าของ Miss Universe อย่างเป็นทางก่อนไปแล้วเมื่อไม่นานมานี้ ล่าสุดกำลังจะมีอีกหนึ่งบริษัทที่ที่ดำเนินธุรกิจในแวดวงนางงาม เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยอย่าง MGI หรือ บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ซึ่ง MGI ดำเนินธุรกิจอะไรบ้าง มีความน่าสนใจแค่ไหน คอลัมน์ Next IPO ประจำวันอังคารจะพานักลงทุนมาหาคำตอบ

.

MGI ดำเนินธุรกิจจัดการประกวดนางงามมิสแกรนด์เพื่อเสริมสร้างชื่อเสียงให้บริษัทเป็นที่รู้จักทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้บริษัทต่อยอดในการดำเนินธุรกิจเชิงพาณิชย์ โดยบริษัทเริ่มต้นธุรกิจโดยนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล และ นายรัชพล จันทรทิม เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2556

.

ทั้งนี้บริษัทถือกำเนิดขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เมื่อเริ่มแรกเพื่อดำเนินการจัดการประกวดนางงามระดับนานาชาติที่เป็นเวทีของคนไทย เพื่อให้ได้รับความนิยมในระดับสากล สามารถแข่งขันกับเวทีการประกวดระดับนานาชาติกับเวทีอื่นในโลกที่มีอยู่ได้ เพื่อยกระดับและพัฒนา อุตสาหกรรมบันเทิงในรูปแบบของการประกวดนางงาม ที่ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว ความนิยมถดถอยลงทางบริษัทจึงเล็งเห็นโอกาสในทางธุรกิจที่จะทำให้เวทีการประกวดนางงาม สามารถพลิกฟื้นกลับมาและได้รับความนิยมได้

.

โดยในปี 2556 ซึ่งเป็นปีแรกที่จัดตั้ง บริษัทจึงได้ดำเนินการจัดกิจกรรม การประกวดทั้งระดับประเทศในชื่อ มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ (Miss Grand Thailand หรือ MGT) และ ระดับนานาชาติ ในชื่อ มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล (Miss Grand International หรือ MGI) บริษัทเน้นกลยุทธ์การทำให้ “มิสแกรนด์” เป็นที่รู้จักในวงกว้างเพื่อสร้างชื่อเสียง สร้างภาพลักษณ์ให้เป็นที่รู้จักทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ

.

นอกจากนี้บริษัทได้เริ่มต้นขายลิขสิทธิ์การประกวดระดับนานาชาติ โดยประเทศไทยเป็นประเทศเจ้าภาพเวทีระดับชาติ คือ MGI ในปีแรก ซึ่งในปีดังกล่าวผู้ชนะเลิศในการประกวด MGT และ MGI ได้แก่ นางสาว ญาดา เทพนม ตัวแทนจากจังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ และ Miss Janelee Chaparro จากประเทศเปอร์โตริโก (Puerto Rico) ตามลำดับ

.

ต่อมาในปี 2559 บริษัทได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการประกวด MGT เข้าสู่ระบบลิขสิทธิ์ตัวแทน 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย ขณะที่ปี 2560 บริษัทสามารถหาเจ้าภาพที่มีศักยภาพ มีเงินทุนในการจัดการประกวด MGI ที่ต่างประเทศได้เป็นครั้งแรก ที่เมืองฟูก๊วก ประเทศเวียดนาม

.

ถัดมาในปี 2561 บริษัทได้ต่อยอดการทำธุรกิจเข้าสู่ธุรกิจพาณิชย์ โดยเริ่มขายสินค้าอุปโภค ซึ่งผลิตภัณฑ์แรกของบริษัทคือ เซรั่มอันเดอร์อาร์ม ภายใต้เครื่องหมายการค้า Nangngam ขณะที่ปี 2563 บริษัทเล็งเห็นศักยภาพในธุรกิจพาณิชย์ที่บริษัทสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้มีการเพิ่มช่องทางการขายผ่านระบบ Call Center อีกด้วย

.

ดังนั้นธุรกิจของบริษัท สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจพาณิชย์ (Commerce) ธุรกิจประกวดนางงามมิสแกรนด์ (Pageant) ธุรกิจสื่อและบันเทิง (Media and X-Periences) และธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน (Artist) มีวิสัยทัศน์ “เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนางงามโลก โดยส่งมอบ ประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ให้กับทุกคนบนโลกผ่านความงาม ความบันเทิง และการค้า” ซึ่งสอดคล้องกับสโลแกนของบริษัท “นับจากนี้ทุกพื้นที่มีแต่แกรนด์ - We Are Grand The One and Only”

.

โดยตัวเลขกำไรสุทธิปี 2563 อยู่ที่ 44 ล้านบาท ปี 2564 อยู่ที่ 29 ล้านบาท ล่าสุดงวด 9 เดือนปี 65 อยู่ที่ 36 ล้านบาท โตกว่า 40% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายได้รวมปี 2563 ที่ 338 ล้านบาท ส่วนปี 2564 มีรายได้รวม 344 ล้านบาท ล่าสุดงวด 9 เดือนปี 65 มีรายได้รวม 221 ล้านบาท เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 270 ล้านบาท โดยระหว่างปี 2562 จนถึง 2564 บริษัทมีรายได้จากการดำเนินการหลักคือธุรกิจพาณิชย์ และเริ่มมีรายได้จากธุรกิจประกวดนางงามมิสแกรนด์ รายได้จากธุรกิจสื่อและบันเทิง รายได้จากธุรกิจบริหารจัดการศิลปินเพิ่มขึ้นมาเป็นสัดส่วนที่มีนัยสำคัญในงวด 9 เดือนแรกของปี 2565

.

โดยในงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 โครงสร้างรายได้บริษัทประกอบด้วย ธุรกิจพาณิชย์ 38.31% ธุรกิจประกวดนางงามมิสแกรนด์ 23.19% ธุรกิจสื่อและบันเทิง 18.84% ธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน 18.16% และ 5. รายได้อื่น 1.5%

.

สำหรับ MGI มีแผนเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 60 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 28.57% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังขาย IPO โดยมีบริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) มีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของบริษัท

 

 


สุดสวย