31 พฤษภาคม 2562 -- Daily Trading Focus : บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส
“ต่างประเทศ Mix ราคาน้ำมันร่วงแรง”
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : BTS (จากถือเป็นซื้อ) / TASCO (จาก Fully Valued เป็นซื้อ)
ภาวะตลาดและปัจจัย : SET วานนี้ +2.21 จุด ปิดที่ 1621.57 จุด มูลค่าการซื้อขายอ่อนลงที่ 45 พันล้านบาท ตลาดฯกลับมา Sideways กังวลสงครามการค้า จีนมีโอกาสตอบโต้ด้วยแร่หายากในมือที่ต้องใช้ในสมาร์ทโฟนและรถยนต์ไฟฟ้า การเข้าซื้อพันธบัตรสินทรัพย์ปลอดภัย ยังผลให้อัตราผลตอบแทนต่ำลงลึก จึงมีความกังวลภาวะ Invert Yield Curve คือ เศรษฐกิจสหรัฐแย่ลง ผู้ขายสุทธิรายเดียวคือ สถาบัน 3.3 พันล้านบาท ผู้ซื้อสุทธิคือ ต่างชาติ 2.7 พันล้านบาท รายย่อย 0.5 พันล้านบาท และพอร์ตโบรกเกอร์ 0.1 พันล้านบาท ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันต่างชาติเป็นขายสุทธิลดลงเป็น 7.5 พันล้านบาท ด้านแนวโน้มตลาดและกลยุทธ์วันนี้คือ
# ระยะสั้นคาด SET ผันผวนสูง ปัจจัยต่างประเทศ Mix ด้านบวกคือ คลายกังวล Inverted Yield Curve หลังบอนด์ยิลด์อายุยาวปรับเพิ่มขึ้น แต่ด้านลบคือ จีนตอบโต้สหรัฐงดนำเข้าถั่วเหลือง ราคาน้ำมันร่วงแรง ลบต่อหุ้นพลังงาน สำหรับตัวเลขขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสหรัฐกลับเพิ่มขึ้น
# GDP 1Q62 สหรัฐดีกว่าคาด แต่ต่ำกว่าประกาศครั้งแรก ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านเช้านี้ Mix มีทั้งบวกและลบ ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลไทยยังไม่สำเร็จ ติดพรรคปชป. สำหรับดาวโจนส์ล่วงหน้าและน้ำมันตลาดล่วงหน้าปรับตัวลดลง เป็นปัจจัยลบ
# กลยุทธ์ คือ หากจะเก็งกำไรเน้นหุ้นทำธุรกิจในประเทศ (Domestic Play) มากกว่าส่งออก เลี่ยงสงครามการค้า เน้นหุ้นรับข่าวดีการเมือง คือ 1) รับเหมา คือ STEC 2) นิคมฯ คือ AMATA, WHA 3) พาณิชย์ คือ CPALL, HMPRO, BJC และ 4) สถาบันการเงิน BBL,MTC,KKP,TISCO แนวรับเป็น 1600,1580 จุด แนวต้านหากมีเก็งกำไรเป็น 1630-1640 จุด ต่ำกว่า 1620 เป็นจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) ภาพตลาดลบจากสงครามการค้าสร้างความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกและไทยยังคอยบั่นทอน SET จึงยังวางใจไม่ได้ในระยะกลาง-ยาว
# Stock Pick Today : RJH กำไรสุทธิ 1Q62 เท่ากับ 176 ล้านบาท (+168%YoY, +152%QoQ) หากไม่รวมกำไรพิเศษจากการขายที่ดิน 78 ล้านบาท พบว่า Core profit ไตรมาสนี้จะอยู่ที่ 97 ล้านบาท (+48%YoY, +39%QoQ) ซึ่งดีกว่าที่เราคาดไว้ถึง 21% เนื่องจากค่าใช้จ่ายขายบริหาร (SG&A) ต่อรายได้ลดลง กล่าวคือ มี Economy of scale มากขึ้น ล่าสุดปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรสุทธิปี 62 อีก 10% สะท้อนกำไร 1Q62 ที่ออกมาดีเกินคาด และแนวโน้มยังเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง ส่งผลให้กำไรสุทธิปี 62 จะขยายตัว +26%YoY ณ ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ P/E ปีนี้ 21.5 เท่า ต่ำกว่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 30 เท่า คงคำแนะนำซื้อ กำหนดราคาพื้นฐานเป็น 29 บาท (DCF) ราคาปิดมีส่วนเพิ่มถึง 23%
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators เหมือนจะ(ยัง)เป็นบวกเล็กๆ {“ปิดบวก”เหนือ“SMA10วัน”เล็กน้อย, แต่“ปิดค่อนมาทาง” (โดยยังถูกกดดันจาก“โครงสร้างขาลง – ระยะกลาง”)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้“แกว่ง”แบบให้น้ำหนักกับการลง แต่“ค่าบวก”(แรงหนุนของ“SMA10วัน”) จะช่วยให้มีรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน 1630 (หรือ 1640) จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า 1620” จุด (แนวรับย่อย1600 / 1590 – 1580”)}
สำหรับหุ้นที่คาดว่าจะทำ New High ที่เข้ามาใหม่คือ KKP,BGRIM,BEM,CHG,VGI หุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ TOP,DRT,AMATA,SEAFCO,BDMS หุ้นที่หลุด List TCAP หุ้นที่อยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take Profit คือ UNIQ,CKP
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Company Guide : BTS (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 13.00)
TASCO (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 23.00)
Flash Note : CPN (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 80.00)
Turnover List Watch : คาดไม่มีหลักทรัพย์ติด Cash Balance ใช้สัปดาห์หน้า