ห้องเม่าปีกเหล็ก

แบรนด์ไม่จำเป็นต้องลดราคา แต่ทำอย่างไรถึงกลายเป็น Top of Mind ได้

โดย theMENU
เผยแพร่ :
46 views

ในวันที่ตลาดร้านปิ้งย่างและชาบูร้อนระอุ แข่งขันกันด้วยโปรโมชั่นและสงครามราคา แต่ “บาร์บีคิวพลาซ่า” เลือกเดินเกมสวนกระแส ธุรกิจร้านอาหารที่อยู่กับคนไทยมายาวนานถึง 38 ปี แบรนด์ไม่จำเป็นต้องลดราคา แต่ทำอย่างไรถึงกลายเป็น Top of Mind ได้

.

ถ้าพูดถึงบาร์บีคิวพลาซ่า หลายคนอาจนึกถึงเตาปิ้งย่างสีทองบนโต๊ะกลมๆ กะหล่ำปลีที่เติมได้ไม่อั้น น้ำจิ้มสูตรเด็ด หรือมาสคอตพี่ GON ที่อบอุ่นเหมือนเพื่อนของใครหลายๆ คนไปแล้ว

.

รายการ TOMORROW ได้พูดคุยกับ รัฐ ตระกูลไทย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด เพื่อเจาะลึกเบื้องหลังธุรกิจปิ้งย่าง “บาร์บีคิวพลาซ่า” ที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนาน

 

.

[Top of Mind ไม่ใช่แค่ถูกจำได้ แต่ “ถูกเลือก”]

.

หากจัด Category ปิ้งย่างในห้าง บาร์บีคิวพลาซ่าถือว่าเป็นหนึ่งใน Top of Mind ของผู้บริโภคคนไทย โดยเน้นมื้ออาหารที่สร้างประสบการณ์ตามคอนเซ็ปต์ "มื้อสนุกของคนสนิท" เพราะมื้ออาหารไม่ได้จบแค่คำว่า "อร่อย" แต่คือช่วงเวลาที่คนร่วมโต๊ะได้มาเจอกัน เม้าท์มอยไปด้วย และแชร์อาหารบนโต๊ะร่วมกัน เป็นหนึ่งวัฒนธรรมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีของคนไทย

.

บาร์บีคิวพลาซ่า ถือเป็นแบรนด์ที่เน้นสร้างประสบการณ์ร่วมกับผู้บริโภคผ่านมื้ออาหาร แต่ในโลกที่ “ร้านปิ้งย่าง” มีให้เลือกล้นตลาดทั้งรายเล็กและรายใหญ่ การรักษาตำแหน่งในใจผู้บริโภคจึงเป็น โจทย์ใหญ่ที่ต้องรักษาไว้ให้ได้

.

รัฐ ตระกูลไทย บอกว่า สิ่งสำคัญอย่างแรก บาร์บีคิวพลาซ่าใส่ใจในเรื่องของคุณภาพอาหาร เป็นสิ่งที่ยึดถือและคงมาตรฐานเดียวกันทุกสาขา โดยวัตถุดิบจะต้องดี สด สะอาด และมีคุณภาพ ซึ่งเป็น “หัวใจหลัก” ของการดำเนินธุรกิจอาหาร

.

ต่อมาคือ การใส่ใจเรื่องบริการ ปัจจุบัน บาร์บีคิวพลาซ่า มีพนักงานร้านเกือบ 4,000 คนทั่วประเทศ ซึ่งเป็น “ด่านหน้า” ที่ทำให้แบรนด์มีชีวิตในสายตาลูกค้า ไม่ใช่แค่บริการให้ครบขั้นตอน แต่คือ “บริการจากใจ” ที่เข้าใจว่าลูกค้ามีความคาดหวัง และต้องไม่ทำให้ผิดหวัง

.

อย่างการนั่งกินไปด้วย นั่งเม้าท์มอยไปด้วย มีคนคอยเติมกะหล่ำปลี เติมน้ำจิ้มซิกเนเจอร์ให้ มีกิจกรรมเล็กๆ ที่ใส่ใจ ทำให้หนึ่งมื้อของลูกค้า เปลี่ยนมื้อธรรมดาให้เป็นมื้อพิเศษ เรียกแนวคิดนี้ว่า “Extraordinary Ordinary” เป็นการมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า เพื่อทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า “เราคิดถึงเขาเสมอ”

.

อีกสิ่งที่เป็นซิกเนเจอร์ของบาร์บีคิวพลาซ่า เมื่อพูดถึงชื่อนี้คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงมาสคอต "บาร์บีก้อน" หรือ "พี่ GON" ที่เปรียบเสมืือนพนักงานคนหนึ่งของแบรนด์ มีภาพจำที่เป็นเอกลักษณ์ โดยพี่ GON ถูกสร้างมาเพื่อ “เป็นตัวแทน” ใช้สื่อสารระหว่างแบรนด์กับลูกค้า และสร้างลักษณ์ให้ร้านบาร์บีคิวพลาซ่าให้ดูเฟรนลี่ เข้าถึงง่าย

.

หลายๆ ครั้ง ลูกค้าไม่ได้พูดกับแบรนด์ตรงๆ แต่พวกเขาฟีดแบคผ่านตัวแทนอย่างพี่ GON เป็นช่องทางหนึ่งที่ทำให้ลูกค้ากล้าที่จะพูด ส่วนทางบริษัทก็สามารถรับฟีดแบคจากลูกค้าได้ง่าย หรือเวลาที่อยากบอกอะไรกับลูกค้า ก็บอกผ่านพี่ GON ได้เช่นเดียวกัน

.

[สร้างคุณค่าไม่ได้อยู่ที่ราคาเสมอไป แต่อยู่ที่ประสบการณ์]

.

รัฐ ตระกูลไทย บอกว่า สิ่งที่ยึดถือในการทำตลาดของแบรนด์คือการให้ “คุณค่า” หรือ Value ซึ่งไม่ได้แปลว่าต้องราคาถูกเสมอไป แต่คือการเข้าใจลูกค้าว่า แต่ละช่วงเวลา เขาต้องการอะไรแล้วส่งมอบสิ่งนั้นให้ตรงกับใจเขาที่สุด

.

บาร์บีคิวพลาซ่า จึงมักมีแคญเปญออกมาอย่างต่อเนื่องเสมอ เพื่อให้สิ่งนี้สร้างประสบการณ์ ตอบโจทย์ลูกค้าให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น ความต้องการอยากได้ความคุ้มค่า ก็ออกแคมเปญบุฟเฟต์สุดคุ้ม ให้กินเต็มอิ่มในราคาที่แฟร์ ถ้าอยากได้ความสนุก มีกิจกรรมคีบกุ้งจ่ายเพียง 50 บาท ช่วยสร้าง Engagement เล่นแล้วจำได้ หรืออยากได้อะไรใหม่ๆ ก็ปล่อย New Product หรือกิจกรรมออกมาอย่างต่อเนื่อง ให้ลูกค้ารู้สึกว่ามากี่ครั้งก็ไม่เบื่อ

.

นอกจากเข้าใจลูกค้าแล้ว สิ่งที่แบรนด์ทำเสมอ คือ “ฟัง” เสียงที่สะท้อนกลับมา เมื่อฟังแล้ว สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในแบบที่เขาพอใจได้ คุณค่าก็จะเกิดขึ้นต่อทันที

.

บาร์บีคิวพลาซ่า ผ่านยุคสมัยมาหลายระลอก ยอมรับว่า “ฟังจริง” และ “ปรับจริง” โดยเฉพาะจากเสียงลูกค้าที่แสดงออกผ่านคอมเมนต์ รีวิว หรือแม้แต่คำชมเล็กๆ เหมือนเป็นการทำให้แบรนด์และลูกค้าขยับเข้าหากึ่งกลางความพึงพอใจที่พอดี

.

ลูกค้าหนึ่งคน สองคน หรือแม้แต่หลายกลุ่มรวมกัน ล้วนเป็น "พลัง" สำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ ฐานลูกค้าที่มั่นคงไม่เพียงช่วยให้แบรนด์เข้าใจผู้บริโภคมากขึ้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นว่า ตลอด 38 ปีได้สร้าง “Brand Love” ให้เกิดขึ้นสำเร็จแล้ว ทำให้บาร์บีคิวพลาซ่ามีฐานที่แข็งแรงในวันที่ธุรกิจมีการแข่งขันสูง

.

[อาหารไม่ควรเป็นแฟชั่น แต่ควรยั่งยืน]

.

รัฐ ตระกูลไทย ทิ้งท้ายว่า ถ้าอยากให้แบรนด์อยู่ในใจลูกค้าไปนานๆ ต้องเข้าใจก่อนว่า ไม่ควรทำอาหารให้เป็นแฟชั่น ที่มาเร็วไปเร็ว แบบนั้นสำเร็จชั่วข้ามคืนก็จริงแต่ไม่ยั่งยืน แต่ร้านอาหารที่สามารถทำธุรกิจไปได้ยาวนานจริงๆ ลูกค้าจะเลือกทานเสมอไม่ว่าช่วงเวลาไหนก็ตาม จะต้องสร้าง “ประสบการณ์” ที่ผูกกับความรู้สึกของเขาในแต่ละโมเมนต์ของชีวิตได้

.

พูดง่ายๆ ก็คือต้องอยู่ในจังหวะของลูกค้าให้ได้เสมอ ไม่ตกเทรนด์ เพราะฉะนั้นแบรนด์ต้องไม่ใช่แค่ดัง อร่อย หรือราคาถูกเท่านั้น แต่ต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความคุ้มค่าและประทับใจ พอมาใช้บริการแล้วก็อยากจะกลับมาอีก ถึงจะสร้าง Brand Love ให้เกิดขึ้นได้จริง

.

ดังนั้นการเป็น Top of Mind จึงเปรียบเหมือน "ตั๋วเบิกทาง" ในการตัดสินใจซื้อ เพราะเมื่อแบรนด์กลายเป็นชื่อแรกที่ถูกนึกถึง โอกาสในการเติบโตทางธุรกิจย่อมสูงขึ้น ทำให้แบรนด์กลายเป็นหัวแถวในสนามแข่งขันได้อย่างอัตโนมัติ

.

ที่มา #TODAYBizview


theMENU