ห้องเม่าปีกเหล็ก

รวม 2 แบงก์ปิดดีล ก.ย.

โดย dave
เผยแพร่ :
62 views

คลังชี้รวม 2 แบงก์ปิดดีล ก.ย. จองเก้าอี้ประธานบอร์ด TMB

 

ปลัดคลังรับ “สโกเทีย” ทิ้ง “ธนชาต” ดัน “ING” ถือหุ้นใหญ่สุดหลังเพิ่มทุน ลั่นควบรวมกิจการ “TMB-TBANK” จบใน ก.ย.ปีนี้ ชู 2 แนวทางหาเงินเพิ่มทุนรักษาสัดส่วนถือครองหุ้น ใช้เงินปันผลวายุภักษ์/ขายหุ้นคลังถือ ระบุหากเลือกวิธีขายหุ้นต้องขอ ครม.อนุมัติ ยันคลังยึดโควตาประธานบอร์ดใหญ่-ไอเอ็นจีคุมบอร์ดบริหารเหมือนเดิม

นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการธนาคารทหารไทย (TMB) เปิดเผยว่า ขณะนี้การควบรวมกิจการระหว่าง TMB กับธนาคารธนชาต ยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบสถานะการเงิน (due diligence) ระหว่างกัน โดยจะพยายามเร่งดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในเดือน ก.ย.นี้

“หลังการเพิ่มทุน กระทรวงการคลังก็จะยังรักษาระดับสัดส่วนการถือหุ้นในแบงก์ใหม่ เท่ากับที่ถืออยู่ในแบงก์ TMB ซึ่งคลังถือหุ้น TMB เป็นอันดับ 2 รองจากกลุ่มไอเอ็นจี ทั้งนี้ อันดับ 2 กับอันดับ 3 คือ คลังกับธนชาต (TBANK) จะมีสัดส่วนถือครองหุ้นใกล้เคียงกัน ส่วนทางสโกเทียคงจะขายหุ้นออกไป ไม่ถือต่อ” นายประสงค์กล่าว

 

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หากผลการทำดิวดิลิเจนซ์ออกมาเป็นที่พอใจ ภายในเดือน ก.ย. 2562 นี้ ควรเดินไปถึงขั้นการใส่เงินเพิ่มทุนเรียบร้อยแล้ว โดยกระทรวงการคลังจะต้องใส่เงินเพิ่มทุนราว 1 หมื่นล้านบาท เพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้นไว้เท่าเดิม ขณะที่ไอเอ็นจีจะถือหุ้นมากขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งส่วนหนึ่งจะเป็นหุ้นตามสิทธิของไอเอ็นจี และอีกส่วนจะเป็นหุ้นของกลุ่มสโกเทียที่จะขายออกไป

“การเพิ่มทุนครั้งนี้ เริ่มต้นมาจากการที่ทางกลุ่มสโกเทียต้องการขายหุ้นออกไปจากกลุ่มธนชาต (TCAP) ดังนั้นทาง TMB จึงเข้าไปแทน โดยหลังการควบรวมแล้ว จะไม่มีผลกระทบต่อโครงสร้างคณะกรรมการทั้งชุดใหญ่ และคณะกรรมการบริหาร เพียงแต่จะมีกรรมการจากธนชาตเพิ่มเข้ามาเท่านั้น ทั้งนี้ กระทรวงการคลังยังได้โควตาประธานบอร์ดชุดใหญ่อยู่ ส่วนประธานบอร์ดบริหารก็เป็นไอเอ็นจี ไม่มีผลกับเรื่องการโหวต” แหล่งข่าวกล่าว

แหล่งข่าวกล่าวว่า สำหรับเงินที่กระทรวงการคลังจะใช้เพิ่มทุน มี 2 แนวทางที่พิจารณากันอยู่ วิธีแรก จะมาจากเงินปันผลของกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ซึ่งจะมีเข้ามาราว ๆ 1 หมื่นล้านบาท ใกล้เคียงกับเงินที่จะต้องใช้เพิ่มทุน TMB ดังกล่าว ซึ่งหากใช้แนวทางนี้ก็ไม่จำเป็นต้องขอคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติ แต่หากใช้วิธีการขายหุ้น เพื่อนำเงินมาเพิ่มทุน จะต้องมีการขอให้ ครม.มีมติอนุมัติ

“ส่วนการแลกหุ้นกัน ขณะนี้ยังมีหลายสูตรมาก ยังฟันธงไม่ได้ ต้องรอผลดิวดิลิเจนซ์ออกมาก่อน” แหล่งข่าวกล่าว

ก่อนหน้านี้ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวว่า หลังการทำดิวดิลิเจนซ์แล้ว จะต้องมาพิจารณาเรื่องอัตราส่วนหุ้นที่จะแลกกัน ว่าจะเป็นไปตามที่มีการเจรจาไว้ในเบื้องต้นหรือไม่ ขณะเดียวกันยอมรับว่า ในอนาคตกระทรวงการคลังมีโอกาสที่จะขายหุ้นที่ถือในแบงก์ (ใหม่) ในอนาคตออกไปได้ง่ายขึ้น เนื่องจากต้นทุนของกระทรวงการคลังจะลดลงเหลือราว 3 บาทต่อหุ้น จากเดิมที่แบกต้นทุนหุ้น TMB อยู่ที่ 3.80 บาทต่อหุ้น

ทั้งนี้ ในการเซ็นข้อตกลงในเบื้องต้น (MOU) แบบไม่ผูกพันทางกฎหมาย มีแนวทางว่า ธนาคารทหารไทยจะเป็นฝ่ายจัดหาเงินทุน 1.3-1.4 แสนล้านบาทมาใช้ในการเพิ่มทุน โดยสัดส่วน 70% ของเงินทุน จะมาจากการออกหุ้นเพิ่มทุนราว 5-5.5 หมื่นล้านบาท และที่เหลือมาจากการออกตราสารหนี้

 

 

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก


dave