จับตา SCB ทุนหนา พร้อมซื้อฐานลูกค้า “ซิตี้แบงก์”
ช่วงที่ผ่านมามีข่าวที่สร้างความฮือฮาในธุรกิจการเงิน เมื่อ Citigroup หนึ่งในธนาคารยักษ์ใหญ่ของโลกประกาศว่ามีแผนจะยกเลิกให้บริการธุรกิจรายย่อยของธนาคารใน 13 ประเทศ ในพื้นที่เอเชีย ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ซึ่งแผนดังกล่าวจากการตัดสินใจของซีอีโอคนใหม่อย่าง “Jane Frase” โดยแถลงว่า Citigroup วางแผนจะยกเลิกให้บริการธุรกิจรายย่อยและหันไปเน้นธุรกิจสถาบันมากขึ้น ซึ่งประเทศที่จะถูกตัดขายกิจการรายย่อยออกไปได้แก่ ออสเตรเลีย บาห์เรน เกาหลีใต้ จีน ไต้หวัน อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย เวียดนาม โปแลนด์ และรัสเซีย ส่วนธุรกิจสถาบันยังให้บริการตามปกติผ่านศูนย์กลาง 4 แห่ง ได้แก่ สิงคโปร์, ฮ่องกง, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และลอนดอน
SCB มีความพร้อมเข้าซื้อมากที่สุด
โดยในไทยหลังข่าวดังกล่าวออกทำให้เกิดการจับตาว่าธนาคารหรือกลุ่มการเงินใดจะเป็นผู้ครอบครอบฐานลูกค้ารายย่อยของธนาคารซิตี้แบงก์ ซึ่งสามารถต่อยอดไปยังบริการหรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ ที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มได้ในอนาคต นักวิเคราะห์จากบล.เคทีบีเอสที ประเมินว่า การที่ Citigroup จะออกจากธุรกิจสินเชื่อรายย่อย เช่น บัตรเครดิต และบัตรกดเงินสด ผ่านการขายสินเชื่อให้ผู้ประกอบการรายอื่นที่สนใจ เช่น กลุ่มธนาคาร ซึ่งฝ่ายวิจัยคาดว่าธนาคารที่จะมี potential ในการเข้าซื้อครั้งนี้จะเป็นธนาคารขนาดใหญ่มากกว่าธนาคารขนาดเล็ก เพราะกลุ่มลูกค้าดังกล่าวสามารถต่อยอดไปยังลูกค้า wealth ได้ โดยคาดว่าธนาคารที่จะมี potential มากที่สุด คือ SCB หรือ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เพราะมีเงินสดเหลืออยู่เยอะหลังจากที่ขาย SCBLife ออกไปได้กว่าแสนล้านบาท
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยได้มีการประเมินผลกระทบต่อกำไรสุทธิใน 3 ธนาคาร (ยังไม่รวมต้นทุนทางการเงินในการเข้าซื้อสินเชื่อดังกล่าว) พบว่า SCB จะมี upside ต่อกำไรสุทธิมากที่สุดที่ +9% รองลงมาเป็น KBANK จะมี upside ต่อกำไรสุทธิมากที่สุดที่ +8% และ BBL จะมี upside ต่อกำไรสุทธิมากที่สุดที่ +6% โดยคิดจากสินเชื่อรายย่อยที่ 7.7 หมื่นล้านบาท อ้างอิงอัตราดอกเบี้ยที่ 18% และอิง cost to income ของแต่ละธนาคาร และคิด credit cost ตามงบการเงินซิตี้แบงก์งวดปี 2019 ที่ 6%
ฝ่ายวิจัยคาดว่าราคาหุ้นของกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่จะได้รับ sentiment เชิงบวกต่อประเด็นดังกล่าว โดยคาดว่า SCB (ถือ/เป้ า 92.00 บาท) จะเป็นธนาคารที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเยอะที่สุดจากข่าวนี้ ซึ่งหากได้จริงจะมีการปรับประมาณการเพิ่มขึ้น แนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย 92.00 บาท รองลงมาเป็น KBANK แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 160.00 บาท และ BBL แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 150.00 บาท
ลุ้น KTC และ AEONTS ฐานลูกค้าเพิ่ม
นอกจากนี้ฝ่ายวิจัยประเมินว่ามีโอกาสที่ลูกค้าในธุรกิจข้างต้นบางส่วนจะทยอยย้ายออกจาก Citi ไปยังผู้ประกอบการบัตรเครดิต และบัตรกดเงินสด รายอื่นในช่วงแรก ซึ่งเป็นบวกต่อ KTC และ AEONTS ที่จะมีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น และหนุนผลการดำเนินงานในปี 2554 อย่างไรก็ตาม คาดว่าสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น ทุกๆ 10% ของสินเชื่อรายย่อยจาก Citi หรือประมาณ 7.7 พันล้านบาท จะหนุนให้กำไรสุทธิของ KTC และ AEONTS ในปี 2554 และ 2565 เพิ่มขึ้น 4% และ +3% ตามลำดับ โดยคงคำแนะนำ ซื้อ KTC ราคาเป้าหมาย 90.00 บาท และ แนะนำ ซื้อ AEONTS ราคาเป้าหมาย 275.00 บาท
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก