ตอนนี้ ตลาดหุ้นทั่วโลก รอดูผลการประชุม Fed ในสัปดาห์นี้อยู่ว่า จะมีการขึ้นดอกเบี้ยต่อในเดือน ก.ย. หรือไม่ ซึ่งสิ่งที่จะเกิดขึ้น น่าจะมีความเป็นไปได้ 3 ทาง ดังนี้
ทางที่ 1 : Fed ขึ้นดอกเบี้ย อีก 0.25% ทันที
Case นี้ น่าจะทำให้เกิด Negative Shock แก่นักลงทุน จนมีการเทขายหุ้นออกมา เพราะก่อนหน้านี้ ไม่มีใครมองว่า Fed จะเคลื่อนไหวในเดือนนี้
การปรับขึ้นดอกเบี้ย จะยิ่งทำให้มุมมองนักลงทุนเปลี่ยนไป คือ จะทำให้เกิดความกังวลว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยครั้งต่อๆไป เร็วขึ้นหรือไม่ นโยบายการเงินสหรัฐจะเข้มงวดขึ้นเรื่อยๆหรือไม่
และจะทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ราคาสินทรัพย์เสี่ยงจะลดลง เช่น น้ำมัน และตลาดหุ้น หากย้อนหลังกลับไป ธ.ค. ปีที่แล้ว ที่ Fed ขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรก ปรากฏว่าดัชนี Dow Jones ร่วงลงมากว่า 12% (แต่มีปัจจัยอื่นมาผสมด้วย ทั้งจีนและน้ำมัน)
ราคาหุ้นเองก็อยู่สูงอยู่แล้ว หากเกิดการเทขาย ก็มีสิทธิ์ปรับลงได้เยอะ
ทางที่ 2 : Fed ยังไม่ขึ้นดอกเบี้ย แต่มีการสื่อว่าอาจขึ้นเดือน ธ.ค.
เป็นกรณีที่ทุกคนมองว่าจะเกิดมากที่สุด คือ Fed ยังไม่รีบร้อนขึ้นดอกเบี้ย เพื่อไม่ให้ตลาดการเงินตกใจ แต่ยังเปิดช่องกว้างๆไว้สำหรับการขยับในปีนี้ ซึ่งตลาดน่าจะไม่เปลี่ยนแปลงอะไรมาก เพราะเป็นสิ่งที่คาดกันอยู่แล้ว
แต่สิ่งที่ตลาดจะหันมาสนใจคือ ถ้อยแถลงของ Janet Yellen ว่ามองสภาวะเศรษฐกิจอย่างไร จะมีคำพูดใดที่สื่อว่า จะรีบขึ้นหรือไม่รีบขึ้นดอกเบี้ย
ทางที่ 3 : Fed ยังไม่ขึ้นดอกเบี้ย และบอกว่าจะไม่รีบขึ้นในปีนี้
หากออกเป็นรูปแบบนี้ แปลว่า Fed มองว่าตัวเลขเศรษฐกิจ ยังไม่แข็งแรงพอ โดยเฉพาะระดับเงินเฟ้อ ซึ่งน่าจะทำให้ ตลาดหุ้น Rally ขึ้นในทันที เพราะ Fed จะตรึงดอกเบี้ยต่อไปอีกระยะ หรือแม้แต่มีคำพูดอะไรเล็กน้อยที่สื่อว่าจะไม่รีบขึ้นดอกเบี้ย ก็น่าจะให้ผลเช่นเดียวกัน