เบื้องหลังเกมชิป AI ยุทธศาสตร์สหรัฐฯ พลิกเกม Nvidia ในจีน
- การที่รัฐบาลสหรัฐฯ ผ่อนปรนให้ Nvidia กลับมาขายชิป H20 ในจีนได้อีกครั้ง เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ที่ซับซ้อนเพื่อรักษาความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยี ไม่ใช่การยอมถอย
- เป้าหมายของสหรัฐฯ คือการทำให้จีนยังคงพึ่งพาระบบนิเวศ CUDA ของ Nvidia, ใช้รายได้จากจีนมาลงทุนวิจัยและพัฒนาเพื่อทิ้งห่างจีน และชะลอการพัฒนาชิปของจีนเอง
- แม้จะได้รับอนุญาต Nvidia กลับเผชิญความท้าทายด้านอุปทานชิป H20 ที่มีจำกัดอย่างยิ่ง เนื่องจากได้ยกเลิกสายการผลิตกับ TSMC ไปก่อนหน้า
- เพื่อแก้ปัญหาและรักษาฐานลูกค้าในจีน Nvidia วางแผนเปิดตัวชิป B30 รุ่นใหม่ที่มีราคาถูกกว่า แม้ประสิทธิภาพจะด้อยกว่า H20 เล็กน้อย
- นโยบาย "AI Action Plan" ของสหรัฐฯ ยิ่งเอื้อประโยชน์ต่อ Nvidia โดยตรง ผ่านการส่งเสริมนวัตกรรม, การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน (Data Center) และการผลักดันเทคโนโลยี AI ของสหรัฐฯ ในเวทีโลก
- สถานการณ์นี้เป็นเหมือนดาบสองคมที่ Nvidia ได้รับประโยชน์จากนโยบายรัฐบาล แต่ก็ต้องเผชิญกับปัญหาการผลิตและความพยายามของจีนในการสร้างเทคโนโลยีขึ้นมาทดแทน

บลจ.ทิสโก้ ระบุว่า สงครามเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนได้ทวีความเข้มข้นขึ้น โดยมี "อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์" เป็นสมรภูมิหลักล่าสุด การตัดสินใจของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่จะผ่อนปรนมาตรการให้ Nvidia สามารถกลับมาส่งออกชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) รุ่น H20 ไปยังประเทศจีนได้อีกครั้ง หลังจากการระงับไปเมื่อเดือนเมษายน สะท้อนให้เห็นถึงการปรับกลยุทธ์ที่ซับซ้อนและไม่ได้เป็นเพียงการยอมถอย แต่เป็นการเดินเกมระยะยาวเพื่อรักษาความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ท่ามกลางความท้าทายรอบด้านของ Nvidia เอง
การผ่อนปรนเพื่อควบคุม: เบื้องหลังการตัดสินใจของสหรัฐฯ
การกลับมาของชิป H20 ไม่ใช่การส่งสัญญาณสันติภาพ แต่เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ที่ใหญ่กว่าของสหรัฐฯ ในการคานอำนาจเทคโนโลยีของจีน โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ประการ
รักษาอำนาจในระบบนิเวศ AI (Ecosystem Dominance) : การที่บริษัทเทคโนโลยีของจีนยังคงพึ่งพาฮาร์ดแวร์ของ Nvidia หมายความว่าพวกเขาจะยังคงอยู่ในระบบนิเวศซอฟต์แวร์ CUDA (Compute Unified Device Architecture) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการประมวลผลแบบขนานและโมเดลการเขียนโปรแกรมที่สร้างโดย Nvidia สิ่งนี้เปรียบเสมือน "คูเมือง" ที่ป้องกันคู่แข่ง และทำให้สหรัฐฯ ยังคงกุมอำนาจเหนือมาตรฐานการพัฒนา AI ของโลกไว้ได้
ขับเคลื่อนการวิจัยและพัฒนาของสหรัฐฯ (Fueling R&D) : จีนคือตลาดขนาดมหึมาของ Nvidia การอนุญาตให้ขายชิปได้อีกครั้งจะสร้างรายได้มหาศาล ซึ่งจะถูกนำกลับไปลงทุนในการวิจัยและพัฒนา (R&D) เพื่อสร้างชิปเจเนอเรชันถัดไปที่ทรงพลังยิ่งขึ้น เป็นการใช้เงินทุนจากจีนเพื่อทิ้งห่างจีนในด้านเทคโนโลยีนั่นเอง
ชะลอการพัฒนาชิปของจีน (Slowing China's Self-Reliance) : การมีชิปจาก Nvidia ที่ "ดีพอ" ให้เลือกซื้อ อาจลดแรงจูงใจและเม็ดเงินลงทุนมหาศาลที่บริษัทจีน (เช่น Huawei) ต้องทุ่มเทเพื่อพัฒนาชิปของตนเองให้ทัดเทียม ถือเป็นการซื้อเวลาและชะลอการพึ่งพาตนเองด้านเทคโนโลยีของจีนอย่างมีนัยสำคัญ
ความท้าทายของ Nvidia: อุปทานที่จำกัดและคู่แข่งที่ไล่ตาม
แม้จะได้รับไฟเขียวให้กลับสู่ตลาดจีน แต่หนทางของ Nvidia ก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ บริษัทได้แจ้งเตือนลูกค้าในจีนแล้วว่าปริมาณชิป H20 ที่จะจำหน่ายได้นั้นมี "จำกัดอย่างยิ่ง" สาเหตุหลักมาจากปัญหาด้านสายการผลิต Nvidia ได้ยกเลิกคำสั่งผลิตชิป H20 กับ TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Company) ไปแล้วหลังถูกสั่งห้ามส่งออกในเดือนเมษายน การจะกลับมาเปิดสายการผลิตใหม่ในทันทีเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้ เนื่องจาก TSMC มีคิวการผลิตที่แน่นขนัดจากลูกค้ารายอื่นทั่วโลก
ดังนั้น ชิป H20 ที่มีขายในปัจจุบันจึงอาจเป็นเพียงสินค้าที่เหลืออยู่ในคลังเท่านั้น เพื่อแก้ปัญหานี้และตอบสนองตลาดจีนในระยะยาว Nvidia ได้วางแผนเปิดตัวชิปรุ่นใหม่ B30 ซึ่งคาดว่าจะพร้อมจำหน่ายในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ โดยชิป B30 จะมีประสิทธิภาพต่ำกว่า H20 ประมาณ 10-20% แต่มีราคาถูกกว่าถึง 30-40% ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดในการเจาะตลาดระดับรองลงมา และรักษาฐานลูกค้าในจีนไว้ในขณะที่ชิประดับสูงยังมีข้อจำกัด
บริบทเชิงนโยบาย: AI Action Plan ของ Trump
ทั้งนี้ข่าวของ Nvidia เกิดขึ้นพร้อมกับการที่รัฐบาลของประธานาธิบดี Trump ได้ประกาศแผนปฏิบัติการ "AI Action Plan" ซึ่งเป็นพิมพ์เขียวที่ชัดเจนในการผลักดันสหรัฐฯ สู่ตำแหน่งผู้นำ AI ของโลก โดยมี 3 เสาหลักที่เอื้อต่อ Nvidia โดยตรง:
นวัตกรรม (Innovation) : ลดข้อจำกัดทางกฎหมาย ส่งเสริมโมเดล AI แบบโอเพนซอร์สเพื่อป้องกันการผูกขาด และเร่งการนำไปใช้งานจริง ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาและแข่งขันในตลาดที่ Nvidia เป็นผู้ครองเทคโนโลยีพื้นฐาน
โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) : เร่งรัดการอนุญาตก่อสร้างศูนย์ข้อมูล (Data Center) และโรงงานผลิตชิป พร้อมทั้งลงทุนในโครงข่ายพลังงานเพื่อรองรับการเติบโตของ AI นโยบายนี้จะสร้างอุปสงค์มหาศาลต่อ GPU ของ Nvidia ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของศูนย์ข้อมูล
อิทธิพลระดับโลก (Global Influence) : ผลักดันการส่งออกเทคโนโลยี AI ของสหรัฐฯ ในรูปแบบ "Full-stack AI Package" ไปยังชาติพันธมิตร เพื่อสร้างแนวร่วมและมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก ซึ่งจะช่วยลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากจีนและตอกย้ำความเป็นผู้นำของ Nvidia ในตลาดโลก
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ปัจจุบันเป็นเหมือนดาบสองคมสำหรับ Nvidia บริษัทได้รับประโยชน์มหาศาลจากนโยบายของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ทั้งส่งเสริมอุตสาหกรรมในประเทศและเปิดทางให้กลับไปสร้างรายได้ในตลาดจีน อย่างไรก็ตาม Nvidia ต้องเผชิญกับความท้าทายด้านการผลิตที่รุนแรงและความพยายามของจีนในการพัฒนาเทคโนโลยีของตนเองขึ้นมาทดแทน การเดินเกมของ Nvidia ในจีนนับจากนี้ จะไม่ได้เป็นเพียงตัวชี้วัดความสำเร็จของบริษัท แต่ยังเป็นมาตรวัดสำคัญของพลวัตแห่งสงครามเทคโนโลยีระหว่างสองมหาอำนาจของโลกอีกด้วย
ที่มา.. https://www.bangkokbiznews.com/finance/stock/1191414