ขาดทุนเร็ว กำไรช้า
ในการเทรด ตัวแปรที่สำคัญที่สุดที่ตัดสินว่าไม้นี้จะเข้าหรือไม่เข้าดี คือ อัตราผลตอบแทนเทียบกับความเสี่ยง เรียก RR หรือ R-multiple
ตัวอย่าง..ง่ายๆ ถ้าเข้าไม้นี้แล้ว ผิดทางจะโดน 1 บาท ถูกทางจะได้ 3 บาท แบบนี้เรียกเป็น RR ที่ 3:1 เท่า หลักๆ คือใช้ดูว่ามันคุ้มที่จะเข้าซื้อไปเสี่ยงหรือไม่.. ค่ายิ่งสูงยิ่งดี ฯลฯ แต่ RR ไม่ได้มีแค่นี้นะสิ...
มันมีมุมกลับที่ไม่ค่อยถูกพูดถึง และทำเทรดเดอร์เป๋มานักต่อนักแล้ว ก็คือเวลาที่ต้องรอก่อนที่ราคาจะลงไปโดนสต๊อปหรือขึ้นไปชนเป้า
ตัวอย่าง..หุ้นสักตัว มีจังหวะเข้าที่ RR 3:1 เท่า ในภาวะตลาดปกติ การที่ราคาจะลง 1 บาท มีแนวโน้มที่จะใช้เวลาน้อยกว่าตอนราคาขึ้น 3 บาท นะ
ผลคือ ในการเทรดเราจะขาดทุนเร็วกว่าตอนกำไร แต่ตอนกำไรก็จะได้คำใหญ่กว่า นี่ไม่ใช่เรื่องที่ต้องแก้แต่เป็นเรื่องที่ต้องรู้.."รู้ และ อยู่กับมันให้ได้"..จะได้ไม่ต้องคิดเยอะว่าทำอะไรผิดป่าวทำไมสต๊อปเร็วจัง..
เรื่องของ นิยามของความเป็น "มืออาชีพ"
เรื่องนี้น่าสนใจ..จริงๆมันเป็นนามธรรมนะ เวลาเราเอ่ยถึงความเป็นมืออาชีพเนี่ย ความหมายคืออะไร ?
คือ..เก่งกว่ามือสมัครเล่นใช่หรือไม่ กุ๊กมืออาชีพทำกับข้าวอร่อยกว่าใช่มั้ย ช่างภาพมืออาชีพถ่ายรูปออกมาสวยกว่าใช่มั้ย. แม้กระทั่งเทรดเดอร์มืออาชีพเข้าไปแม่นกว่าใช่มั้ย. ผิวเผินเหมือนน่าจะใช่ แต่อาจจะไม่เสมอไปนะ และคิดแบบนั้นอาจจะได้ภาพที่บิดเบือนด้วยซ้ำ.
สำหรับผมมืออาชีพคือทำสิ่งนั้นเลี้ยงชีพได้ กุ๊กมืออาชีพอาจปรุงอาหารรสชาติไม่ได้มิชิลลิน 3 ดาว แต่มือนิ่ง กิน 5 รอบรสชาติสม่ำเสมอ มารอบหน้าคาดหวังได้ว่ารสไม่หนีไปจากนี้ ส่วนเทรดเดอร์มืออาชีพก็ไม่ได้หมายความทำกำไรได้มากกว่าคนอื่น.
แต่..มือนิ่ง เทรดได้ผลลัพท์สม่ำเสมอ คาดหวังผลตอบแทนไตรมาสหน้า ปีหน้าได้ว่าไม่หนีไปจากนี้ ตลาดดีเห็นกำไร ตลาดแย่ประคองตัวเองได้ มืออาชีพไม่ได้ดูที่ฝีมือแต่ดูกันที่ความสม่ำเสมอ จะให้รู้ว่าใครเป็นมืออาชีพต้องดูกันไปยาวๆ ครับ..
======================
สอบถาม โทร. 090 980 2196
Line@ : @stock2morrow