ลุ้น ‘ทองคำ’ ออลไทม์ไฮใหม่

ลุ้น ‘ทองคำ’ ออลไทม์ไฮใหม่สิ้นปี ดอลลาร์อ่อน - ดอกเบี้ยขาลงหนุน

แม่ทองสุกชี้ ราคา “ทองคำ” ยังเดินหน้าในทิศทาง “ขาขึ้น” ลุ้นทำออลไทม์ไฮต่อสิ้นปีนี้ หลังทองคำกลายเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หรือ Safe Haven

ราคา “ทองคำ” ยังเดินหน้าในทิศทาง “ขาขึ้น” อย่างต่อเนื่อง โดยหากนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ราคาทองบวกขึ้นมาแล้ว 30% ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกที่มากขึ้น เป็นแรงขับเคลื่อนต่อ “ราคาทองคำ” ให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หรือ Safe Haven

นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท MTS Gold แม่ทองสุก กล่าวใน เวที “Thailand Investment Forum 2025 : พลิกเกมฝ่าวิกฤติ Great Depression” ที่ผ่านมาว่า ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นในของการเป็น Safe Haven แห่งการลงทุน สะท้อนการเป็นหลุมหลบภัยชั้นดี 

หากดูการเคลื่อนไหวของราคาทองคำที่ผ่านมา พบว่าการเพิ่มขึ้นของราคาทองคำ ถือว่าโดดเด่นอย่างมากหากเทียบกับสินทรัพย์อื่นในตลาดโลก และท่ามกลางความผันผวนที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจาก “ทรัมป์” ส่งผลให้เริ่มเห็นความต้องการ “ทองคำ” มากขึ้น

โดยเฉพาะปัจจุบันที่เริ่มเห็นการเข้ามาลงทุนของสถาบัน และธนาคารกลาง กองทุนเฮดจ์ฟันด์ในทองคำอย่างต่อเนื่อง

การเข้าซื้อของธนาคารกลางไม่ใช่การไล่ราคา แต่เป็นการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน จากการเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ แสดงให้เห็นว่านักลงทุนระดับสถาบันเริ่มลดการถือครองพันธบัตร และหันมาถือครองทองคำมากขึ้น

ดังนั้นหากดูแนวโน้มราคาทองคำในระยะข้างหน้า มองว่ายังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาว และมีโอกาสทำ All-Time High ใหม่ โดยนักวิเคราะห์ทั้งใน และต่างประเทศเชื่อว่าทองคำยังมีโอกาสทำสถิติสูงสุดใหม่ได้อีกในปีนี้ อาจเห็นราคาที่ 3,800 หรือ 4,000 ดอลลาร์สหรัฐในครึ่งปีหลังปีนี้

“ทองคำกำลังเปลี่ยนบทบาทจากเพียงแค่สินทรัพย์ทั่วไป มาเป็น Core Asset และสินทรัพย์ Safe Haven ที่สำคัญ รวมถึงเป็นสกุลเงินสำรอง การเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติพื้นฐานนี้ทำให้โอกาสที่ทองคำจะปรับตัวขึ้นต่อไปยังคงมีอยู่สูง”

“ธีรรัฐ จุฑาวรากุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด กล่าวว่า ในยุคปัจจุบันการลงทุนในทองคำ

ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจสำหรับหลายคน กำลังเผชิญกับความท้าทายใหม่ โดยเฉพาะเมื่อการลงทุนหันมาใช้แพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น

แต่เหล่านี้ก็อาจเป็น “ช่องโหว่” ที่มิจฉาชีพใช้เป็นช่องทางในการหลอกลวงได้ ดังนั้นจำเป็นต้องระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น 

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนทองคำ เขามองว่า “เงินเย็น” และ “ใจเย็น” คือ หัวใจสำคัญในการลงทุนทองคำ หากนักลงทุนมีเงินเย็น และใจเย็น โดยไม่ใช้การ leverage จะสามารถชนะในทุกกรณี

การออมทอง หลักการที่สำคัญคือ การซื้อสินทรัพย์อย่างสม่ำเสมอในระยะเวลาที่กำหนด เช่น ทุกเดือน ทุกสัปดาห์ โดยไม่สนใจราคา ณ เวลานั้น แม้ผลตอบแทนอาจไม่หวือหวาเท่าการเก็งกำไรระยะสั้น แต่ช่วยป้องกันปัญหาการ  “ตกรถ” และ “ติดดอย” ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ที่มา.. https://www.bangkokbiznews.com/finance/1183900