หากเพื่อนๆ มีโอกาสเฝ้าหน้าจอเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา อาจจะได้เห็นการดำดิ่งของหุ้น AOT ตอนช่วงเปิดตลาดรอบบ่าย จากที่ราคาเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแถวๆ 350 บาท อยู่ดีๆ ก็ตกฮวบลงไปถึง 300 บาท ก่อนที่จะเด้งกลับมาเคลื่อนไหวในกรอบราคาเดิม
แน่นอนว่า สำหรับหุ้นที่ถือว่ามีมูลค่าการซื้อขายที่ค่อนข้างหนาแน่นอย่าง AOT ปรากฏกาณ์แบบนี้ไม่มีให้เห็นบ่อย ๆ
สำหรับคนที่ตั้งซื้อไว้เล่นๆ แถว 300 บาท ก็ถือว่าโชคดีมหาศาล ทำกำไรเกือบๆ 20% ในหลักเสี้ยววินาที
แต่สำหรับคนที่มีหุ้นอยู่แล้ว แล้วเกิดตั้ง stop ไว้แถวๆ นั้น ก็ถือว่าเสียหายหลายแสนเลยทีเดียว
ถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับ AOT ณ ช่วงเสี้ยววินาทีนั้น… Think Algo จะพาไปหาคำตอบในระดับ “เสี้ยววินาที” เลยครับ
เกิดอะไรขึ้นในเสี้ยววินาทีนั้น
มาลองพิจารณา Bid-Offer กันก่อนครับ พบว่าตลอดทั้งวัน ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงช่วงเปิดตลาดภาคบ่าย มีการตั้ง Bid-Offer ที่สัมพันธ์กัน ไม่มีผิดปกติแต่อย่างใด กระทั่งเวลา 14.31 น. 10 วินาที ก็ยังปกติดี
แต่แล้ว…..เสี้ยววินาทีต่อจากนั้น
ใช่ครับ เสี้ยววินาทีจริงๆ เพราะเวลายังคงเป็น 14.31 น. 10 วินาทีอยู่เลย ยังไม่ถึงวินาทีที่ 11 ด้วยซ้ำ แต่อยู่ๆ ฝั่ง Bid ราคาหายเกลี้ยง จาก 352 มาเหลือเพียง 300 ได้อย่างไร????
แล้วมาดูกันว่า 2 วินาทีหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น….
ใช่ครับ 2 วินาทีหลังจากนั้น Bid-Offer มาเคลื่อนไหวในกรอบแถวๆ 350 บาทเหมือนเดิม ยังกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น!!!!
เราเอากราฟแสดง Bid (สีเขียว) และ Offer (สีเหลือง) ณ ช่วงเวลา 2 วินาทีหฤโหดมาให้ดู ซึ่งแน่นอนว่า ณ เสี้ยววินาทีนั้น สามารถสร้างผลตอบแทนเป็นกอบเป็นกำ หรือขาดทุนมหาศาลได้เลยครับ
ว่าแต่ว่า Bid เหล่านั้นมันหายไปไหนครับ? เพียงแค่ทุกคนพร้อมใจกันถอด Bid ออก? หรือว่าโดนกระหน่ำขายในทุกราคา ณ เสี้ยววินาทีดังกล่าว?
คำตอบคือ…
เมื่อเราไปพิจารณาการซื้อขาย ณ ช่วงเวลา 14:31:10 น. ดังกล่าว (ดังแสดงในรูปด้านล่าง) สิ่งที่เราพบคือ มีการซื้อขายจริงครับ เป็นแรงขายในรูปแบบที่ว่า ราคาไหนชั้นก็จะขาย โดยใน 1 วินาทีนั้น มีการยิงคำสั่งขายออกมาถึง 105 ครั้ง!!! เป็นการขายทั้งหมด รวบยาวตั้งแต่ 350 มาจนถึง 300 บาท
เราคงไม่รู้หรอกครับว่าการเทกระหน่ำดังกล่าวเกิดด้วยเหตุผลอะไร
- อาจจะวิตกกังวลสุดๆ
- อาจจะคีย์ราคาผิด (ที่เรียกว่า Fat fingers)
- อาจเป็นการต้ัง Algo Trade ไว้ให้ทุบ เพราะคาดการณ์ว่าไม่น่าจะมีใครตั้ง Bid รองล่างๆไว้
- หรือ อาจเป็นการดักทางให้คนหรือกองทุนไหนที่ตั้ง Stop Loss ไว้ ขายออกมาโดยอัตโนมัติตามระบบที่ตั้งไว้และไม่ได้คอยดูแล
แต่ ณ เสี้ยววินาทีนั้น มีคนได้ผลตอบแทนอย่างเป็นกอบเป็นกำในเวลาที่รวดเร็ว และน่าจะมีคนที่ขาดทุนไม่น้อย
คนที่ได้กำไร คือคนตั้งราคารอซื้อไว้เล่นๆ ล่วงหน้า (ตั้งแต่ 300-350 บาท) หรือโรบอทที่เห็นถึงแรงขายที่ไม่ปกติดังกล่าว แล้วช่วงชิงด้วยความเร็วเข้าซื้อ ณ เสี้ยววินาทีนั้น ส่วนฝ่ายที่ขาดทุน ก็น่าจะเป็นกลุ่มที่มีการตั้ง stop loss เอาไว้ ว่าถ้าราคาตกลงมามากเกินจะจะต้องทำการขายออกมาทันที
เราเองไม่ทราบเหมือนกันครับว่าใครเป็นคนทำ (และไม่ได้ต้องการสืบสวน) แต่ต้องการชี้ให้เห็นว่า Flash Crash ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งทั่วโลกนั้น ระบบ Algo ที่ดีจะต้องได้รับการออกแบบมาล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสียหายของกองทุน และ/หรือ สามารถพลิกเหตุการณ์ Flash Crash ให้เป็นประโยชน์แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนของกอง Algo นั้นได้
สรุป
มนุษย์มีจุดแข็งของมนุษย์ โรบอทก็มีจุดแข็งของโรบอท การนำจุดแข็งของทั้งสองมาเสริมซึ่งกันและกันน่าจะเป็นอนาคตของกองทุนในยุคใหม่ครับ