ห้องเม่าปีกเหล็ก

เปิดลิสต์ 38 หุ้นเด่น

โดย โจ๊กเกอร์
เผยแพร่ :
308 views

เปิดลิสต์ 38 หุ้นเด่น แนวโน้มกำไร Q4/65 แจ่ม

ASPS ประเมิน 38 หุ้นเด่น จาก 14 กลุ่มอุตสาหกรรม แนวโน้มกำไรไตรมาส 4/65 สดใส พร้อมราคาเป้าหมายปี 66

 

.

ในช่วงเดือน ก.พ. บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด (ASPS) มองว่า ตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสผันผวน เนื่องจากเป็นช่วงเฝ้ารอดูผลประกอบการไตรมาส 4/65 รายหุ้น ทั้งนี้ ยังได้คาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 4/65 รายอุตสาหกรรม

.

ซึ่งทาง ASPS ได้ประเมินแนวโน้มหุ้นรายกลุ่ม ที่มีผลประกอบการจะออกมาดี ซึ่งบางกลุ่มอาจจะดีในแง่ไตรมาสเทียบไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) หรือ ดีในแง่ไตรมาสเดียวกันเทียบกับปีก่อน (YoY) หรือบางกลุ่มอาจจะออกมาดีทั้ง QoQ และ YoY ดังนี้

.

***กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง

มองว่า ผลการดำเนินงานปกติของบริษัทส่วนใหญ่เชื่อว่าจะปรับตัวดีขึ้นทั้ง QoQ และ YoY จากการรับรู้รายได้ก่อสร้างที่ทำได้มากขึ้นหลังหมดปัญหาเรื่องแรงงานขาดแคลน แต่ยังมีปัจจัยที่ต้องระวังเรื่องการทบทวนต้นทุนก่อสร้างที่บริษัทก่อสร้างมักทำในช่วงไตรมาส 4 ของปี สำหรับบริษัทที่คาดว่าจะเห็นกำไรอยู่ในเกณฑ์ดี เช่น STEC,STPI,PYLON บริษัทที่มีกำไรแต่ไม่เด่นมาก เช่น CK,SYNTEC,BJCHI,TTCL ส่วนบริษัทที่มีความเสี่ยงขาดทุน ได้แก่ ITD,NWR,SEAFCO

.

***กลุ่มวัสดุก่อสร้าง

ภาพรวมผลประกอบการถูกกดดันจากต้นทุนพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น และกำลังซื้อที่ได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อสูง ทำให้ผลประกอบการของบริษัทในกลุ่มไม่สดใส เห็นได้จาก SCC ที่ประกาศงบออกมาเป็นบริษัทแรก โดยมีกำไรทรุดหนักที่สุดในรอบ 13 ปี และเชื่อว่า ผู้ผลิตปูนซีเมนต์รายอื่นอย่าง SCCC,TPIPL น่าจะเห็นกำไรลดลง ทั้ง QoQ และ YOY ส่วนบริษัทที่คาดว่าจะเห็นกำไรเติบโต QoQ แต่น่าจะลดลง YoY จากผลกระทบเรื่องต้นทุน คือ DCC,VNG ส่วนบริษัทที่คาดว่าจะทำกำไรเติบโตทั้ง QoQ และ YoY คือ DRT และ TASCO

.

***กลุ่มสื่อโฆษณา

คาดกำไรสุทธิงวดไตรมาส 4/65 ดีขึ้นทั้งช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสก่อนหน้าหลังเงินเฟ้อเป็นขาลง หนุนเม็ดเงินโฆษณาและความมั่นใจของเอเจนซี่ในการกลับมาใส่งบโฆษณาอีกครั้ง โดยชอบ PLANB เลือกเป็น Top Pick กลุ่ม จากแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/65 ฟื้นตัวโดดเด่นที่สุดในกลุ่มแต่ Upside เริ่มจำกัด แนะนำหาจังหวะทยอยสะสม และยังชอบ BEC ที่กำไรเติบโต หลังผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 3/65

.

***กลุ่มเกษตร-อาหาร

มองกำไรปกติงวดไตรมาส 4/65 จะลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่ฟื้นตัวชัดเจนจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากแนวโน้มราคาหมูและไก่เฉลี่ยงวดไตรมาส 4/65 ปรับลดลง และเป็นช่วง Low season ของการส่งออกไก่และการเลี้ยงกุ้ง แนะนำซื้อ NER

.

***กลุ่มชิ้นส่วนฯ

มองกำไรสุทธิไตรมาส 4/65 จะอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสก่อน แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากเป็นช่วง low season ของธุรกิจ แนะนำซื้อลงทุนระยะกลางถึงยาว

.

***กลุ่มเช่าซื้อ

คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/65 จะปรับลดลง QoQ และทรงตัว YoY จากแนวโน้ม Credit cost สูงขึ้น ผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อ กดดันให้แนวโน้ม NPL/สินเชื่อ ปรับสูงขึ้น ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่าแนวโน้มสินเชื่อที่จะเติบโตต่อเนื่องไปได้ทั้งหมด

.

***กลุ่มประกัน

ประเมินกำไรสุทธิงวด ไตรมาส 4/65 ของกลุ่มประกันจะเติบโตทั้งช่วงเดียวกันของปีก่อน และเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า จากแนวโน้มเบี้ยรับประกันภัยรับเติบโต นอกจากนี้ยังได้ผลบวกจากทิศทาง Bond yield ที่ปรับสูงขึ้นด้วย

.

***กลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัย

มองทิศทางกำไรปกติของกลุ่ม คาดทำจุดสูงสุดของรอบปี โดยเพิ่มขึ้นทั้งช่วงเดียวกันของปีก่อน และเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าด้วย ตามยอดโอน ที่มีปัจจัยหนุนจาก Backlog ที่รอส่งมอบของกลุ่มแนวราบ การเปิดโครงการใหม่จำนวนมาก โดยเฉพาะสินค้าแนวราบที่มีรอบธุรกิจสั้น ทำให้บางส่วนสามารถขายและโอนได้ทันในไตรมาสสุดท้ายของปี นอกจากนี้ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายส่งท้ายปี โครงสุดท้ายของมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอน และจดจำนองเหลืออย่างละ 0.01% รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่สิ้นสุดลงของปี 5 ล้วนเป็นแรงขับเคลื่อนต่อการดำเนินงาน

.

***กลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี

สำหรับทิศทางราคาน้ำมันยังคงมุมมองเดิมที่ให้ภาพใหญ่ยังถูกกดดันจากเศรษฐกิจโดยรวมของโลกที่อยู่ในภาวะถดถอย ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลง กดดันการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันภายใต้สมมติฐานราคาน้ำมันดิบอ้างอิงดูไบเฉลี่ยทั้งปี 66 ที่ 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลงจากปี 65 และตั้งแต่ปี 67 กำหนดไว้ที่ 75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

.

อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันในปัจจุบันยังมีความผันผวนสูง เนื่องจากมีการปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงเดือน ธ.ค. 65 ไปทำระดับต่ำสุดของปีที่ 73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทำให้มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นอีกระลอก คือ การที่จีนกลับมาเปิดประเทศ ทำให้มีความหวังว่าความต้องการใช้น้ำมันจะปรับตัวขึ้น แต่โดยรวมคาดราคาน้ำมันจะแกว่งตัวภายใต้ Upside และ Dowside ที่จำกัด

.

ด้านปิโตรเคมี ยังอยู่ในลักษณะรอการฟื้นตัว โดยปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากจีนกลับมาเปิดประเทศ ซึ่งถือเป็น Sentiment เชิงบวกต่ออุตสาหกรรมปิโตรเคมี เพราะจีนถือเป็นผู้บริโภคปิโตรเคมีหลักในภูมิภาค ซึ่งหากจีนทยอยกลับมาเปิดประเทศ คาดความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีจะเพิ่มขึ้น

.

โดย บล.เอเซีย พลัส ยังคงแนะนำ TOP เช่นในงวดก่อนหน้าที่ได้รับผลบวกจากทั้งค่าการกลั่นที่อยู่ในระดับสูง และปิโตรเคมีที่คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวจากจุดต่ำสุด เช่นเดียวกับ PTTGC และ IRPC ถือเป็นอีกตัวเลือกที่พร้อมจะปรับตัวขึ้นจากจุดต่ำสุด

.

***กลุ่มโรงไฟฟ้า

มองทิศทางกำไรไตรมาส 4/65 ของโรงไฟฟ้า SPP จะได้รับประโยชน์จาก Ft ที่ปรับเพิ่มขึ้น แต่ในแง่ของกำไรอาจขึ้นอยู่กับปัจจัยเฉพาะตัว โดยแนวโน้มราคา spot ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหินเริ่มเห็นสัญญาปรับตัวลดลง แต่ต้นทุนของแต่ละบริษัทอาจมี lag time ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาการบริหารจัดการ โดยคาด BGRIM,GULF จะเติบโต QoQ ขณะที่ GPSC,BPP คาดกำไรจะลดลง โดยยังได้รับผลกระทบจากราคาถ่านหิน และปัจจัยเฉพาะตัว

.

ด้านกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน คาดจะออกสู่ฤดูกาลน้ำ และเข้าสู่ช่วง High season ของลม คาดตัวที่ได้ประโยชน์ เช่น SSP , GUNKUL , EA ส่วนตัวที่ผลประกอบการลดลง คือ BCPG,CKP

.

***กลุ่ม ICT

มองกำไรงวดไตรมาส 4/65 จะดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า จากผลของฤดูกาล ที่หนุนให้มีการใช้บริการและการซื้อเครื่องมือถือใหม่แต่จะลดลง YoY บ้าง เนื่องจากถูกฉุดโดย TRUE ที่คาดจะขาดทุนในจำนวนที่สูงขึ้น จากระดับ 1.2 พันล้านบาท ในไตรมาส 4/64 เนื่องจาก TRUE เริ่มขาดทุนในระดับมากกว่า 2 พันล้านบาท ตั้งแต่ไตรมาส 2/65

.

***กลุ่มค้าปลีก

เชื่อไตรมาส 4/65 จะดีขึ้น QoQ ตามการจับจ่ายในช่วงปลายปีที่สูงกว่าไตรมาสอื่นๆและนักท่องเที่ยวที่เข้ามามากขึ้น แต่คาดจะชะลอลง YoY เมื่อเทียบกับฐานสูงในไตรมาส 4/64 โดยเฉพาะ MAKRO และ CPALL ที่มีกำไรพิเศษจากการปรับโครงสร้างการถือหุ้นในกลุ่ม

.

***กลุ่มยานยนต์

ภาพรวมยอดผลิตรถยนต์ไตรมาส 4/65 ที่ 5.2 แสนคัน และมีแนวโน้มต่อเนื่องเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า จาก High season ของการผลิตรถยนต์ไทย คาดทำให้ยอดขายบริษัทในกลุ่มเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน แต่ต้นทุนเหล็กและค่าไฟ น่าจะยังกดดันกำไร SAT ในเชิง QoQ ก่อนคาดดีขึ้นในไตรมาส 1/66 ตามยอดผลิตรถยนต์และการทยอยส่งผ่านราคาไปยังคู่ค้า ส่วน AH หากไม่รวมผลจากอัตราแลกเปลี่ยน ประเมินกำไรปกติเติบโตทั้ง QoQ และ YoY

.

***กลุ่ม Reopening

แนวโน้มการดำเนินงานดีขึ้นทั้ง QoQ และ YoY ต่อเนื่องถึงไตรมาสแรกของปีนี้ ตามการเดินทางเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขณะที่การออกเดินทางของชาวจีน ยังต้องติดตามว่าจะมีน้ำหนักให้ไตรมาส 2/66 ที่ปกติเป็นช่วง low season ของนักท่องเที่ยวไทย สามารถขยายตัวได้หรือไม่

***********************************

 


โจ๊กเกอร์