บรรดาคนที่มองโลกสวย ทั้งกูรูวงการเงินและกูรูตลาดหุ้น ออกมาประเมินถึงวิกฤตค่าเงินลีราของตุรกี ระบุว่าจะไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยเท่าใดนัก แต่ปรากฎการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นคือ ตลาดหุ้นทั่วโลกปันป่วน ค่าเงินในประเทศเกิดใหม่ผันผวน และเศรษฐกิจทั่วโลกระส่ำระสาย
ตลาดหุ้นไทยดิ่งลงหนักมาสองวันติด ๆ แล้ว เพราะวิกฤตค่าเงินลีราของตุรกี ดัชนีราคาหุ้น ตลาดหลักทรัพย์ หลุดจากระดับ 1,700 จุด และมีแนวโน้มที่จะทรุดลงต่อ
นักลงทุนต่างชาติที่เพิ่งกลับมาซื้อ พากันเทขายหุ้นออกอีกครั้ง
ก่อนหน้านั้น ตลาดหุ้นเริ่มกลับสู่ขาขึ้น ดัชนี ฯ ขยับเข้าไปใกล้แตะ1,750 จุด จนฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์โบรกเกอร์บางแห่ง ออกมาโหนสถานการณ์ ทำนายว่า ดัชนี ฯ ปลายปีนี้จะพุ่งขึ้นไปแตะที่ระดับ 1,900 จุด แต่อาจต้องหน้าแตกไปตาม ๆ กัน
เพราะตลาดหุ้นกลับสู่ความพลิกผัน จนไม่อาจประเมินได้ว่า มรสุมลูกใหม่จากตุรกี ที่กำลังกระหน่ำ จะฉุดให้ดัชนี ฯ รอบนี้ลงไปต่ำสุดที่ระดับใด การปรับฐานจะยืดเยื้อขนาดไหน และจะฟื้นตัวขึ้นได้เมื่อไหร่ ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมาถึงระดับนี้ แม้ว่ามีความน่าสนใจ และนักลงทุนมองเป็นโอกาสในการช้อนซื้อของถูก แต่อาจเป็นกับดักนักลงทุนประเภทเสือปืนไว ใจร้อนผลีผลามเก็บหุ้นก็ได้
เพราะวิกฤตตุรกี อาจเป็นเพียงระยะเริ่มต้น และมีแนวโน้มที่จะลุกลามบานปลาย สร้างความสั่นสะเทือนต่อเศรษฐกิจและระบบการเงินของกลุ่มประเทศยุโรป กลุ่มประเทศเกิดใหม่ รวมทั้งกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง
เชื้อแห่งความปั่นป่วนค่าเงินของตุรกี อาจแพร่กระจายติดเข้าไปในยุโรป กลุ่มประเทศอาหรับ และยกระดับเป็นวิกฤตใหญ่ของโลก
เศรษฐกิจไทยแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรับมือผลกระทบจากตุรกีได้หรือ ตลาดหุ้นไทยจะยืนโต้กระแสความตกต่ำของตลาดหุ้นทั่วโลกได้ขนาดไหน
อย่าทำเป็นเล่นกับวิกฤตของตุรกี อย่ามองโลกสวยเกินไป แต่ต้องให้ความสำคัญกับความเสี่ยง เกาะติดสถานการณ์ อย่างใกล้ชิด ประเมินผลกระทบตลอดเวลา และเพิ่มความระมัดระวังการลงทุน
ไม่ว่าลงทุนหุ้น ทองคำ น้ำมัน หรือเก็งกำไรค่าเงินก็ตาม
ทุกวิกฤตมักแฝงไว้ซึ่งโอกาส เพียงแต่โอกาสในวิกฤตตุรกีอาจยังมาไม่ถึงเท่านั้น เพราะความผันผวนปะทุอยู่ทั่วโลก สถานการณ์ยังไม่นิ่ง และไม่ควรอย่างยิ่งที่จะพายเรือทวนกระแสน้ำที่กำลังเชี่ยวกราก
บนความไม่แน่นอนของวิกฤตตุรกี วิธีป้องกันตัวดีที่สุดคือ ถอยห่างจากตลาดหุ้นชั่วคราว เพื่อเฝ้าดูเหตุการณ์ และรอคอยโอกาสเหมาะ ๆ เพื่อกลับมาเลือกเก็บหุ้นราคาต่ำ ๆ เมื่อเวลามาถึง ไม่ต้องกลัวจะเสียโอกาส ไม่ต้องกลัวว่า หุ้นจะดีดตัวกลับเสียก่อน เพราะผลกระทบจากวิกฤตตุรกี คงแผลงฤทธิ์อีกสักพัก โดยไม่รู้ว่า จะลุกลามสู่ประเทศไหนเป็นเหยื่อรายต่อไป
ตลาดหุ้นเพิ่งเผชิญผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีน - สหรัฐ จนดัชนี ฯ หลุดลงไปต่ำกว่าระดับ 1,600 จุด และเริ่มโงหัวขึ้นได้ไม่นาน แต่กลับต้องมาเจอมรสุมลูกใหม่ ที่มีความรุนแรงไม่ยิ่งหยอนกว่ากันซ้ำเติมอีก โดยคาดหมายไม่ได้ว่า หุ้นจะลงลึกถึงระดับไหน
ปีนี้ไม่น่าจะเป็นปีที่ดีของตลาดหุ้น เพราะปัจจัยลบเต็มไปหมด ทั้งปัจจัยลบจากภายนอก และปัจจัยลบจากภายใน โดยเฉพาะสถานการณ์การเมือง เพราะการเลือกตั้งที่รัฐบาลรับประกันว่า ต้นปีหน้ามีแน่ ถึงขณะนี้ชักไม่แน่เสียแล้ว
และถ้าการเลือกตั้งมีอันต้องเลื่อนออกไป ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม จะเป็นข่าวร้ายที่กระทบความเชื่อมั่นนักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติ
4 เดือนเศษข้างหน้าก่อนปิดฉากปี 2561 โอกาสการทำเงินจากตลาดหุ้นกลายเป็นเรื่องยากจริง ๆ เพราะปัจจัยเสี่ยงมากมายไปหมด
หมายเหตุ : 1) ที่มาจาก คอลัมน์ " ชุมชนคนหุ้น " โดย สุนันท์ ศรีจันทรา ใน MGR Online เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ปี พ.ศ 2561
2) โปรดติดตามรายละเอียดการลงทุนใน สภาวะตลาดกระทิง และ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขาขึ้นรอบใหญ่ได้ใน longtunbysak.blogspot.com