ตลาดหุ้นไทยปี 2560 เริ่มต้นอย่างสวยงาม และจากการประเมินไปในอนาคตส่วนใหญ่มองว่าจะสดใสกว่าปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะเศรษฐกิจของประเทศกลับมาเติบโตอย่างชัดเจน การค้าขาย หรือการจับจ่ายใช้สอยมีความคล่องตัวขึ้น เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงมีคำถามว่าปีนี้อะไรจะเป็นพระเอกของตลาดหุ้นไทยคำตอบคือการเติบโต

ธนาคารโลก คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโต 3.1% ในปี 2559 และ 3.2% ในปีนี้ ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจไทยยังคงเป็นการบริโภคภาคเอกชน และการลงทุนภาครัฐ อาทิ โครงการรถไฟรางคู่ และโครงการการยกระดับระบบราง รวมทั้งการเติบโตของภาคท่องเที่ยวที่เป็นไปอย่างเข้มแข็ง
อูลริค ซาเกา ผู้อำนวยการ ธนาคารโลกประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยอยู่บนเส้นทางการฟื้นตัว การสร้างความเข้มแข็งให้แก่ภาคบริการจะช่วยสร้างงานใหม่ที่ดีขึ้น รวมทั้งรายได้สูงขึ้นและมีโอกาสที่มากขึ้นสำหรับคนไทย
“การเปิดเสรีภาคบริการและการทำให้ประชาชนไทย สามารถเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพอันจะช่วยให้มีทักษะที่สอดคล้องกับตำแหน่งงานในเศรษฐกิจสมัยใหม่นั้น จะเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มผลิตภาพของภาคบริการ และช่วยเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยอย่างต่อเนื่อง”
ดร.เกียรติพงศ์ อริยปรัชญา
นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของธนาคารโลก ประจำประเทศไทย กล่าวเสริมว่าการผสมผสานระหว่างการริเริ่มจากภาคเอกชนและการสนับสนุนจากภาครัฐบาลได้นำไปสู่ความสำเร็จของภาคบริการแล้วในอาเซียน
“ความมุ่งมั่นของไทยในการปฏิรูปโครงสร้างอย่างต่อเนื่องจะช่วยปลดปล่อยศักยภาพของภาคบริการได้เต็มที่ และยกระดับเศรษฐกิจให้เติบโตสูงกว่า 4% อย่างต่อเนื่องในระยะยาว”
ภาพรวมสดใส ภาคธุรกิจย่อมเติบโต โดยสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการสายงานวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) คาดการณ์ว่าปีที่ผ่านมากำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนจะทำได้รวมกันประมาณ 719 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 33% จากปีก่อนหน้าที่ทำได้ 540 พันล้านบาท และปีนี้กำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนน่าจะทำได้ประมาณ 808 พันล้านบาท
“ภาพรวมเศรษฐกิจที่แท้จริงดีขึ้น จากการเติบโตในทุกมิติ ทั้งการบริโภค การลงทุน การท่องเที่ยว และการส่งออก จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์เพิ่มขึ้น และหากเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเติบโตได้ดีขึ้นจริง” สุกิจบอก “หากเป็นไปตามนี้ หุ้นไทยปีนี้ไม่ควรปรับลดลง หรือถ้าลดลงก็ลงได้นิดหน่อย”
เมื่อทุกอย่างกำลังเติบโต สุกิจแนะนำนักลงทุนให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นเติบโต (Growth Stock) เขาแนะนำหุ้นที่คาดว่าปีนี้อัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS Growth) อยู่ในระดับสูง (30% ขึ้นไป)
สะท้อนถึงบริษัทมีความสามารถทำกำไรได้ดี มีผลการดำเนินงานดีและโตต่อเนื่อง ขณะที่ P/E Ratio อยู่ที่ระดับค่าเฉลี่ยของตลาดหุ้นไทย ประมาณ 15 เท่า
“พูดง่ายๆ การเติบโตของการดำเนินงานสูง แต่ราคาหุ้นยังไม่แพง” สุกิจ บอก โดยหุ้นที่เข้าเงื่อนไขดังกล่าว ได้แก่ TRC UTP ILINK KBANK
-
ที่มา : oneychannel