Good Morning News โดยกองทุนบัวหลวง, มิตรแท้ตลอดเส้นทางลงทุน
13 กันยายน 2559
.............................
สุทธิรัตน์ รักจิตร์, Fund Management
Guru Quotes
“ในท้ายที่สุดแล้วบริษัทที่ดีกว่าจะประสบความสำเร็จ บริษัทที่ด้อยกว่าจะพ่ายแพ้ และนักลงทุนจะได้ผลตอบแทนตามผลประกอบการของบริษัทนั้นๆ”
Peter Lynch
General News
• นายพอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) ไม่ได้รับเสียงสนับสนุนมากพอที่จะผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาได้ในปีนี้ พร้อมกับเสริมว่า หากต้องการให้รัฐสภาเห็นชอบ ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโอบามาจำเป็นต้องปรับแก้ข้อตกลงฉบับนี้
• ธนาคารเวลส์ ฟาร์โก หนึ่งในธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐฯ ต้องจ่ายค่าปรับ 185 ล้านดอลลาร์ หลังมีหลักฐานยืนยันว่า พนักงานของธนาคารได้เปิดบัญชีให้ลูกค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมกว่า 2 ล้านบัญชี เพียงเพื่อสร้างยอดขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินของธนาคาร
• ภาคเอกชนของญี่ปุ่นสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานในเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 4.9% คิดเป็น 8.919 แสนล้านเยน (8.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) มูลค่าสั่งซื้อซึ่งสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ก็เพราะได้แรงหนุนของยอดสั่งซื้อจากอุตสาหกรรมนอกภาคการผลิตที่กำลังเพิ่ม ขึ้น
• เจ้าหน้าที่ประจำฐานทัพสหรัฐฯในเกาหลีใต้เปิดเผยว่า สหรัฐฯจะส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดบินเหนือดินแดนเกาหลีใต้ในวันพรุ่งนี้ เพื่อแสดงแสนยานุภาพให้เกาหลีเหนือเห็น หลังจากดำเนินการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 5 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
• ยอดส่งออกสินค้า ICT ของเกาหลีใต้ในเดือน ส.ค. หดตัว 2.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี หรือลดลงเหลือ 1.413 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงต่อเนื่องในเดือนที่ 11 ด้วยเหตุจากยอดส่งออกโทรศัพท์มือถือซึ่งเป็นสินค้าส่งออกสำคัญลดต่ำลง
• หัวหน้าเศรษฐกรประจำธนาคารกลางจีนระบุว่า จีนควรจะดำเนินมาตรการควบคุมเงินทุนที่ไหลเข้าสู่ตลาดอสังหาริมทรัพย์และรัฐ วิสาหกิจของประเทศ เพื่อช่วยชะลอมิให้สัดส่วนหนี้สินในระบบเศรษฐกิจพุ่งสูงจะเกินไป ความเห็นดังกล่าวสอดคล้องกับทางกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ที่ได้ประกาศเตือนมาก่อนว่า หนี้สินในภาคเอกชนของจีนมีขนาดถึง 145% ของจีดีพี ซึ่งอาจส่งผลกระเทือนต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนได้
• สำนักข่าวรอยเตอร์สำรวจความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์ 25 คน มีถึง 24 คนคาดหมายว่า ในบ่ายวันนี้ (13 ก.ย. 59) คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะคงอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรหนึ่งวันไว้ที่ 1.5% เนื่องจากมองว่า การใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาลและภาคการท่องเที่ยวยังคงเกื้อหนุนเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันความวิตกต่อเงินบาทที่แข็งค่าเริ่มบรรเทาเบาบางลง
• กระทรวงการคลังเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาขยายระยะเวลาการ ลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เหลือที่ 7% ต่อไปอีก 1 ปี จากเดิมที่จะสิ้นสุดใน 30 ก.ย.นี้ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยในภาพรวมยังอยู่ในระยะฟื้นตัว อีกทั้งการส่งออกและราคาสินค้าเกษตรยังอยู่ในระดับต่ำ หากปรับขึ้น VAT ในช่วงนี้อาจจะเป็นการเพิ่มภาระให้ประชาชนมากขึ้น
Equity Market
• SET Index (12 ก.ย.) ปิดที่ 1,411.85 จุด ลดลง 33.43 จุด หรือ -2.31% มูลค่าซื้อขายรวม 53,983 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยยังคงปรับตัวลดลงต่อไป แต่กระนั้นในวันนี้เป็นการปรับลงที่สอดคล้องกับทิศทางของตลาดหุ้นอื่นๆ ทั่วโลก อันเนื่องจากความวิตกกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด ซึ่งจะส่งผลต่อเม็ดเงินที่ไหลเข้าสู่ตลาดการลงทุนให้เกิดความไม่แน่นอนขึ้น
สรุปยอดสุทธิการซื้อขายของแต่ละกลุ่ม
นักลงทุนสถาบัน -3,290.54 ล้านบาท
บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ -2,062.73 ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติ +3,424.32 ล้านบาท
นักลงทุนทั่วไป +1,928.96 ล้านบาท
Fixed Income Market
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงในช่วง -0.01% ถึง +0.03% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 49,288 ล้านบาท ในวันนี้มีการประมูลตั๋วเงินคลังอายุ 1 เดือน 3 เดือน และ 6 เดือน มูลค่า 85,000 ล้านบาท