โดย giadaexp
เผยแพร่ : 
69 viewsการดูแลตนเองให้ดีนั้นเป็นสิ่งจำเป็น เดี๋ยวนี้คนประเทศไทยหันมาพอใจเรื่องความสวยสดงดงามเยอะขึ้น ต้นเหตุที่มีส่วนทำให้สิ่งที่จำเป็นสำหรับในการซื้อมีมากยิ่งกว่าเมื่อก่อน นั้นอาจมาจากความเป็นเมืองที่เริ่มไปสู่สังคมไทยอย่างล้นหลาม จะยังคงอยู่ถัดไปโดยตลอด ยากที่จะซบเซาลงไป ลองมองกันว่า ธุรกิจอะไรบ้างที่มีคุณค่าแก่การลงทุนในยุคนี้
1. ธุรกิจศัลยกรรมความสวย
เวลานี้ การศัลยกรรมเสริมความงดงามมีการเปิดกว้าง เป็นที่ชื่นชอบแพร่หลายเยอะขึ้นโดยยิ่งไปกว่านั้น เมื่อมีเทคโนโลยีด้านการแพทย์เข้ามามีหน้าที่ ทำให้ผู้คนตกลงใจทำศัลยกรรมความสวยได้ง่ายมากยิ่งขึ้นกว่าคราวก่อน ไม่ใช่แค่ในประเทศไทยเพียงแค่นั้น แม้กระนั้นรวมถึงทุกประเทศทั้งโลก จากการสำรวจของ International Society of Aesthetic Plastic Surgery (ISAPS; สัมพันธ์ศัลยกรรมความงดงามนานาประเทศ) พบว่า ประเทศที่มีการทำศัลยกรรมความสวยสูงสุดเป็นอเมริกา ส่วนเมืองไทย อยู่ในชั้นที่ 20 ของโลก ธุรกิจเสริมความสวยสดงดงามของไทย มีมูลค่ามากถึง 14,000 ล้านบาท และก็มีอัตราการเจริญเติบโตเฉลี่ย จำนวนร้อยละ 10 ต่อปี สะท้อนให้มีความเห็นว่าวิธีการทำศัลยกรรมเสริมความงดงามในประเทศไทยเป็นที่นิยมเยอะขึ้นเมื่อผู้ทำศัลยกรรมความงดงามโดยมากคิดว่านี่คือเรื่องธรรดาปกติ จำนวนของกรุ๊ปคนซื้อด้านศัลยกรรมความสวยสดงดงามก็เลยมากขึ้นอยู่ตลอด ทำให้ธุรกิจศัลยกรรมความสวยงามนับว่าเป็นธุรกิจที่น่าลงทุนมากมายอย่างยิ่งจริงๆ
2. ธุรกิจ Botox หรือ Hifu
อย่าพึ่งสนเท่ห์ใจว่า Botox Hifu แตกต่างจากศัลยกรรมความสวยงามในข้อ 1 เช่นไร ขอบอกว่า ไม่ได้มีความแตกต่างกัน เพียงแต่ว่า ในขณะนี้นั้น มีกรุ๊ปลูกค้า ที่มิได้ย้ำทำศัลยกรรมเอาจริงเอาจังเกิดมากมาย เพศหญิงผู้คนจำนวนมากโดยเฉพาะอย่างยิ่ง วัยทำงานขึ้นไป บางทีอาจไม่ต้องการปรับปรุงแก้ไขบริเวณใบหน้าเยอะมากนัก แต่เพียงเพียงแค่ต้องการหน้าเรียว ชูกระชับผิวหน้าบางจุด ลดลางเลือนริ้วรอยบนบริเวณใบหน้า ให้มองอ่อนกว่าวัย ซึ่ง Botox แล้วก็ Hifu จัดว่าตอบปัญหาเป็นอย่างมาก ยิ่งในขณะนี้ ราคานั้นต่ำลงมาพอควร คนสามัญสามารถเข้าถึงได้ง่าย รวมทั้งอายุของ Botox และก็ Hifu นั้น มีระยะชั่วครั้งชั่วคราว ทำให้ลูกค้ามีการหมุนวนกลับมาทำอีกครั้งอยู่ตลอด ฉะนั้น ธุรกิจ Botox หรือ Hifu นี้ เป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าดึงดูดสำหรับการลงทุน
สนับสนุนบทความโดย บาคาร่า
3. เปิดร้านย้อมผม
ร้านค้าทำผม แต่งหน้าครบวงจรมีอยู่ทั่วๆไปทุกระดับ แต่ว่าขณะนี้ ร้านค้าทำผมที่กำลังเดินทางมาแรงเลยเป็นร้านค้าย้อมผมโดยยิ่งไปกว่านั้น เมื่อโลกแฟชั่นได้เข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวัน วัยรุ่นออกมาย้อมสีผมหลายสีสันกันมากเพิ่มขึ้น แล้วก็มักเสิร์ชหาเนื้อหาเกี่ยวกับร้านค้าที่ย้อมผมได้อย่างมือโปร แล้วก็มีคุณภาพ คุ้มกับเงินที่จำต้องเสีย การเปิดร้านย้อมสีผมโดยเฉพาะอย่างยิ่ง นอกเหนือจากที่จะมัธยัสถ์งบประมาณสำหรับการลงทุนเรื่องวัสดุอุปกรณ์แล้ว ยังไม่ต้องว่าจ้างช่างที่มีความรู้และมีความเข้าใจนานาประการให้จำเป็นต้องจ่ายราคาสูงอีกด้วย
4. ธุรกิจ บริการทำเล็บ
แม้เดี๋ยวนี้ดูไปทางไหน ก็จะมองเห็นร้านค้าทำเล็บเยอะไปหมด แต่ว่าเชื่อไหมว่า ยังไม่พอต่อสิ่งที่มีความต้องการของลูกค้า เนื่องด้วยกระบวนการทำเล็บจำต้องใช้เวลาพอควร ทำให้ร้านค้าทำเล็บ 1 ร้านค้า จำต้องรับลูกค้าปริมาณจำกัดต่อ 24 ชั่วโมง ถ้าหากเอ๋ยถึงความสวยสดงดงาม สตรีอยากความเป๊ะตั้งแต่หัวถึงเท้า ด้วยเหตุนั้น จะละเลยวิธีการทำเล็บไปมิได้เลย แล้วก็ตอนนี้ เครื่องมือทำเล็บราคาไม่สูงมากมาย รายได้ชอบมาจากค่าความสามารถ ถ้ามีช่างที่ทำเล็บได้งามชอบใจลูกค้า ค่าสำหรับบริการบางทีอาจปรับเพิ่มได้ตามประสิทธิภาพของลวดลาย แล้วก็คงทนถาวรของสีรวมทั้งวัสดุอุปกรณ์ติดเล็บ
5. ธุรกิจสรับประทานห่วงใย
หลายท่านบางทีอาจรู้สึกว่าแบรนด์สรับประทานสนใจล้นตลาด กระทั่งบางทีอาจเป็นได้ยากที่จะทำให้แบรนด์กำเนิด แต่ว่าอันที่จริง ความปรารถนาของลูกค้า ไม่สิ้นสุด เพราะว่ามีความต้องการที่นานาประการเยอะขึ้นเรื่อยๆ ยึดติดแบรนด์ลดลง ซึ่งการที่คนซื้อจะเลือกใช้สรับประทานสนใจนั้น บางทีอาจไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเป็นชื่อแบรนด์ที่ติดหูเสมอ แม้กระนั้นถ้าเกิดผลิตภัณฑ์คุณภาพดี แล้วก็ ได้รับการรีวิวมากพอควร แบรนด์นั้นจะสามารถทำเงินได้มากมายเป็นอันมากอย่างยิ่งจริงๆ
6. ธุรกิจเครื่องสำอางค์
เช่นเดียวกันกับสรับประทานห่วงใย ผู้ใช้ถูกใจทดลองของใหม่ๆอยู่ตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องสำอางค์ แม้กระทั่งมีลักษณะคล้ายกันกับแบรนด์ที่เคยมีอยู่แล้ว ลูกค้าก็อยากเทียบความแตกต่างอยู่เสมอเวลา เพื่อค้นหาสินค้าที่ดี รวมทั้งเหมาะสมกับตัวเองสูงที่สุด เชื่อไหมว่าเมืองไทยมีอัตราการส่งออกเครื่องสำอางค์ไปต่างประเทศแบบก้าวกระโจน ในตอน 5 ปีที่ล่วงเลยไป เฉลี่ย 18% ต่อปี โดยมีมูลค่าตลาดรวม 2.1 แสนล้านบาท แบ่งเป็น ตลาดในประเทศ 60% ราคา 1.2 แสนล้านบาท ตลาดส่งออกอีก 40% ค่ากว่า 9 หมื่นล้านบาท ซึ่งส่วนมากส่งออกให้กับประเทศเพื่อนบ้านใน AEC รวมทั้งช่วงนี้มีลักษณะท่าทางว่าจะเติบโตในตลาดจีนเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องสำอางค์จำพวกสมุนไพร ยอดนิยมจากชาวจีนเป็นจำนวนหลายชิ้น
