พวกหลักการดี ทฤษฎีจ๋า ส่วนใหญ่เล่นหุ้นเจ้งเพราะ?
ส่วนใหญ่ตลาดหุ้นถูกขับเคลื่อนไปเพราะความโลภและความกลัวของมนุษย์ ซึ่งเป็นหลักจิตวิทยาเสียเป็นส่วนใหญ่ ข้อพิสูจน์ความคิดเห็นดังกล่าวข้างต้นเป็นดังนี้ คือ :
พวกหลักการดี ทฤษฎีจ๋า :
พวกหลักการดี ทฤษฎีจ๋ากรณีที่ 1 :
เปรียบได้กับผลตอบแทนของ Set Index และหุ้นไทยที่ใหญ่ที่สุด 10 อันดับแรก ตั้งแต่ทําจุดสูงสุดในช่วงครึ่งแรกของปี พ.ศ 2561 จนถึงวันที่ 30 กันยายน ปี พ.ศ 2562 ดังนี้ คือ :
1) Set Index = -11.61%
2) PTT = -22.27%
3) AOT = -3.86%
4) CPALL = -9.72%
5) ADVANC = +2.33% ( เป็นหุ้นตัวเดียวที่เป็นบวก แต่ก็เป็นบวกที่น้อยมากอยู่ดี )
6) SCC = -22.73%
7) PTTEP = -20.13%
8) KBANK = -34.29%
9) SCB = -27.38%
10) BBL = -20.05%
11) PTTGC = -48.81%
12) ค่าเฉลี่ย = -19.87%
พวกหลักการดี ทฤษฎีจ๋ากรณีที่ 2 :
เปรียบได้กับผลตอบแทนของ Set Index ตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม ปี พ.ศ 2556 ที่ Set Index 1,649 จุด จนกระทั่งถึงวันที่ 30 กันยายน ปี พ.ศ 2562 ที่ Set Index 1,637 จุด = ( 1,637 - 1,649 ) / 1,649 x 100 = -0.72% ในระยะเวลา 6 ปีกว่า
พวกหลักการไม่ดี ทฤษฎีไม่จ๋า :
ส่วนผู้โพสต์เป็นพวกหลักการไม่ดี ทฤษฎีไม่จ๋า แต่ได้ผลตอบแทนมาแล้ว = +175.22% ทั้งนี้ ตั้งแต่ครึ่งแรกของปี พ.ศ 2561 จนถึงวันที่ 30 กันยายน ปี พ.ศ 2562
หมายเหตุ : 1) ที่มาจาก ( www.settrade.com )
2) โปรดติดตามการ Long และ Short Set 50 Derivatives ในระยะยาวได้ใน longtunbysak.blogspot.com และ Group Facebook