โบรกฯเปิด 18 หุ้นพื้นฐาน ราคายัง Laggard มีโอกาสฟื้นตัวตาม SET

โบรกฯ คัด 18 หุ้นพื้นฐาน ราคา Laggard มีโอกาสฟื้นแรง ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงทั้งการใช้นโยบายการเงินเข้มข้นเฟด และความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน ที่ยังยืดเยื้อ
.
ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์เอเซียพลัส (ASPS) เผยผ่านบทวิเคราะห์ว่า วานนี้ (17 พ.ค.65) ตลาดหุ้นไทยมีการรีบาวน์กลับมาแรง +30.11 จุด หรือ +1.9% มาอยู่ที่ 1614.49 จุด หลังจากผันผวนและปรับฐานมาตลอด 1 เดือนเศษๆ ส่วนหนึ่งเกิดจากตัวเลขGDP1Q65 เติบโต 2.2%yoy (มากกว่าตลาดคาด) รวมถึงกำไรบริษัทจดทะเบียนงวด1Q65 ออกมาอยู่ในระดับที่ดีล่าสุดอยู่ที่ 2.7 แสนล้านบาท (ประกาศมาแล้ว 93% ของ Market Cap)
.
แม้ SET Index จะรีบาวน์กลับมาบ้าง แต่ยังมีหุ้นพื้นฐานอีกหลายบริษัทที่ปรับตัวลงไปลึกกว่าและยังน่าสะสมอยู่ ดังนั้นฝ่ายวิจัยฯจึงทำการค้นหา “หุ้นพื้นฐาน ราคา Laggard ตลาด แรงกดดันจากสัญญาฟิวเจอร์สลดลง แต่มีโอกาสฟื้นแรง” โดยผ่านเงื่อนไขต่างๆ ดังนี้
.
1. หุ้นปรับฐานลงมาลึกกว่าตลาด ในช่วงตลาดลงแรง (ผลตอบแทนของหุ้น น้อยกว่าผลตอบแทนของ SET ในช่วงเวลา 5 เม.ย. – 17 พ.ค.)
.
2. ระดับการชอร์ตสัญญาฟิวเจอร์ลดลง (ระดับ OI ลดลง ในช่วงเวลา 5 เม.ย. –17 พ.ค.)
3. มีโอกาสฟื้นเร็วกว่าตลาด (Beta >1)
4. พื้นฐานดี (ฝ่ายวิจัยฯ แนะนำ “ซื้อ” และ มี Upside)
.
ด้าน บล.ซีจีเอส ซีไอเอ็มบี แนะนำ ซื้อเก็งกำไร หุ้นที่ยังปรับตัวขึ้นช้ากว่าตลาด (laggard) ในช่วง 2 สัปดาห์ (-2w) ที่ผ่านมาที่ตลาด (SET) ปรับตัวลดลง -3.2% แต่เริ่มมีการฟื้นตัวขึ้น +1.9% เมื่อวานนี้ (17 พ.ค.65) โดยหุ้นใน SET100 ที่ปรับตัวลดลงมากกว่าตลาดจนกลับมามี upside น่าสนใจและราคาหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวตามตลาดที่เราแนะนำได้แก่
.
ORI (-12.6% ใน -2w) มี upside 43% จากราคาเป้าหมายของBloomberg consensus (TP) ที่ 13.83 บาท
AMATA (-11.5%) มี upside 17% จาก TP ที่ 22.50บาท
COM7 (-10.7%) มี upside 29% จาก TP ที่ 48.27 บาท
.
TISCO (-10.3%) มี upside 23%จาก TP ที่ 109.35 บาท
CRC (-9.4%) มี upside 20% จาก TP ที่ 43.30 บาท
AP (-8.4%) มีupside 16% จาก TP ที่ 12.63 บาท
MINT (-8.3%) มี upside 19% จาก TP ที่ 39.38 บาท
.
LH (-7.4%) มี upside 19% จาก TP ที่ 10.43 บาท
GPSC (-7.1%) มี upside 33% จาก TP ที่ 82.19บาท
KBANK (-5.9%) มี upside 23% จาก TP ที่ 177 บาท
