ห้องเม่าปีกเหล็ก

KS Monthly Strategy เน้น! ปลอดภัยไว้ก่อน

โดย ใจอยู่ที่กระบี่
เผยแพร่ :
80 views

KS Monthly Strategy เน้น! ปลอดภัยไว้ก่อน

 

เรามีมุมมองระมัดระวังต่อตลาดหุ้นไทยในปี 2567 คาดตลาดหุ้นไทยจะฟื้นตัวขึ้นหากเริ่มเห็นการปรับเพิ่ม market EPS หรือเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง

 

คาดตลาดจะฟื้นตัวขึ้นหากเป็นการปรับเพิ่ม EPS ของตลาดหรือเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง SET Index ให้ผลตอบแทนน้อยกว่า MSCI ACWI ที่ 4% YTD และ 35% ในปี 2566 จาก EPS ที่เติบโตน้อยลงและมูลค่าหุ้นที่ไม่ถูกเมื่อเทียบกับตลาดในภูมิภาคอื่น ๆ ประมาณการ market EPS ของไทยในปี 2567 ถูกปรับลดลง 14.5% ในปี 2566 และ 0.7% YTD มาอยู่ที่ 97.32 แม้อัตราตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย ระยะเวลา 10 ปี ลดลง 75bps จากระดับสูงสุดปี 2566 ที่ 3.40% ในเดือนต.ค.2566 มาอยู่ที่ 2.65% การเทขายของตลาด (-3% YTD และ -15.5% ในปี 2566) คาดจะเกิดขึ้นต่อเนื่องในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติต่างเทขายหุ้นไทยจากแนวโน้มการเติบโตที่อ่อนแอ เศรษฐกิจไทยคาดว่าจะเติบโตขึ้นเพียง 1.8% เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งน้อยกว่าเดิมที่ตลาดคาดไว้ที่ 2.5% อิงจากการรายงานของกระทรวงการคลัง

 

ดังนั้น เราจึงคาดว่าจะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ/ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในช่วงครึ่งหลังปี 2567 หาก GDP ปี 2566 ออกมาแย่ พัฒนาการทั้งหมดดังกล่าวและโมเมนตัมของจำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าในเชิงบวก (+40% YoY ในเดือนม.ค.2567) กอปรกับกระแส FDI ที่มากขึ้นจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงการลดดอกเบี้ยของเฟด คาดจะจำกัด downside ต่อตลาดและขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดในปี 2567 เป้าหมาย SET Index ในปี 2567 ของเราที่ 1,470 จุด คำนวณจาก Earnings Yield Gap model (EYG) อิงด้วย EPS ปี 2567 ที่ 97 บาท, อัตราตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย ระยะเวลา 10 ปี ที่ 2.70% และ EYG ที่ 3.90% (-0.5SD) ราคาเป้าหมายของเราบ่งชี้ถึง PER ล่วงหน้าปี 2567 ที่ 14 เท่า (+0.25SD มากกว่าระดับเฉลี่ย)

 

ปัจจัยเสี่ยงสำคัญในปี 2567 นักลงทุนควรจับตามองปัจจัยเสี่ยง ดังนี้

 

การปรับตัวขึ้นของอัตราตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ จากนโยบายที่ยังเข้มงวดของ Fed, profit-taking จากสภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งหรืออัตราเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาดในอนาคตหรืออุปทานพันธบัตรที่สูงขึ้น

 

Downside ต่อกำไรสุทธิปี 2567 จากการบริโภคที่อ่อนแอ, สภาวะเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลงและความล้มเหลวของรัฐบาลในการออกนโยบายหลัก

 

ความเสี่ยงในการ roll over หุ้นกู้ ประเภท High Yield มูลค่ารวม 1 แสนลบ. ในปี 2567

 

การเทขายหุ้นไทยอย่างต่อเนื่องจากนักลงทุนต่างชาติและ 5) การโจมตีเรือในทะเลแดงที่อาจเพิ่มต้นทุนการขนส่งและระยะเวลาในการขนส่ง

 

KS Top picks : ธีมการลงทุนทั้ง 5 ของเรา ได้แก่

 

หุ้นปันผล (TTB) : คาด TTB จะให้อัตราตอบแทนจากเงินปันผลที่น่าสนใจที่ 7%

 

หุ้น defensive (PR9 และ ADVANC) : คาดหุ้น defensive จะทำผลงานได้ดีในช่วงที่เศรษฐกิจอ่อนตัวลง

 

หุ้นพลิกฟื้นตัว (TU และ BTG) : คาดกำไรของ TU และ BTG จะพลิกฟื้นในปี 2567 ซึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินงานที่ดีขึ้นและต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ

 

หุ้นมูลค่า (TOP) : จากการประเมินมูลค่าที่ถูกและ ROE ที่อาจปรับตัวดีขึ้น จาก GRM ที่ขยายตัว ภาคปิโตรเคมีที่แข็งแกร่ง และโครงการ CFP เสร็จสมบูรณ์

 

หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว (ERW และ AAV) : ERW และ AAV น่าจะเป็นผู้ได้ประโยชน์หลักจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นในประเทศไทยในปี 2567

 


ใจอยู่ที่กระบี่