โบรกฯ จับตาแบงก์แห่ขึ้นดบ.เงินกู้

โบรกฯ จับตาแบงก์แห่ขึ้นดบ.เงินกู้ คาดหนุนอัพไซด์กำไรกลุ่มปีหน้า 2-3%

.

*** SCB-KTB-BAY ขึ้นดอกเบี้ยกู้ 0.4% ส่วน TISCO ขึ้น 0.25%

นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB เปิดเผยว่า ธนาคารได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MLR MOR และ MRR ในอัตรา 0.40% ต่อปี มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 เป็นต้นไป

.

ด้านนายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) หรือ KTB เปิดเผยว่า ธนาคารได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MLR MOR และ MRR ในอัตรา 0.40% ต่อปี ตามที่ได้ปรับลดลงไป 0.40% ในช่วงก่อนหน้า มีผลตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2566 เป็นต้นไป เพื่อให้สอดคล้องกับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

.

นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกลยุทธ์และวางแผนธุรกิจองค์กร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY เปิดเผยว่า ธนาคารได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตรา 0.40% ต่อปี มีผลตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค. 66 เป็นต้นไป เพื่อให้สอดคล้องทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น

.

นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิสโก้ไฟแนนซ์เชียลกรุ๊ป จำกัด(มหาชน) หรือ TISCO เปิดเผยกับ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" ว่า ธนาคารประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตรา 0.25% ต่อปี จากก่อนหน้านี้ธนาคารปรับลดลงมา 0.275% ซึ่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อเป็นไปตามตลาด

.

โดยทิศทางดอกเบี้ยในปีหน้า นายศักดิ์ชัย กล่าวว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยจะมีอยู่ 2 ปัจจัย ปัจจัยแรก คือ ทิศทางดอกเบี้ยนโยบายจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) และ ปัจจัยที่สอง คือ สภาพคล่องในตลาด หรือ การแข่ขันระดมเงินฝาก เพื่อรองรับการขยายสินเชื่อของแต่ละธนาคาร

.

*** KBANK-TTB จ่อปรับขึ้นดอกเบี้ยกู้ตาม

นายจงรัก รัตนเพียร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส และ สมุห์บัญชีใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน) หรือ KBANK เปิดเผยกับ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" ว่า ธนาคารอยู่ระหว่างการพิจารณา โดยคาดว่า จะปรับขึ้นเช่นกันภายในวันนี้ ซึ่งเป็นไปตามภาวะตลาด หลังจากที่ FIDF จะถูกปรับขึ้นไปที่ 0.46% จากเดิมที่ 0.23% ในวันที่ 1 ม.ค. 66

.

“เป็นการปรับขึ้นเพื่อสอดคล้องไปกับ FIDF ที่จะกลับมาจ่ายเรทเดิมที่ 0.46% ในวันที่ 1 ม.ค. 66 โดยดอกเบี้ยของธนาคารในปีหน้าจะยังอยู่ในช่วงขาขึ้น ซึ่งก็เป็นไปตามทิศทางดอกเบี้ย และ เงินเฟ้อของทั่วโลก ในขณะที่ไทยก็ต้องสอดคล้องไปกับดอกเบี้ยนโยบาย แต่อย่างไรก็ตาม ธนาคารก็จะดูแลลูกค้าให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด”นางจงรัก กล่าว

.

นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด(มหาชน) หรือ TTB เปิดเผยกับ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" ว่า จากการที่ธนาคารพาณิชย์บางแห่งประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้ง MLR , MOR และ MRR ไปแล้วนั้น ในส่วนของธนาคารอยู่ระหว่างการพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเช่นกัน เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางของตลาด

.

*** โบรกฯ คาดแบงก์ขึ้นดอกเบี้ยกู้ กระทบสำรอง – NIM

บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DAOL ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวกเล็กน้อยต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ (M-rate) เลยทันที หลังจากที่ FIDF จะถูกปรับขึ้นไปที่ 0.46% จากเดิมที่ 0.23% ในวันที่ 1 ม.ค. 66 โดย SCB เป็นธนาคารแรกที่ประกาศขึ้นก่อน รองลงมาเป็น KTB ที่ประกาศตาม ขณะที่คาดว่า ธนาคารอื่น ๆ จะทำตามเช่นกัน

.

อย่างไรก็ตาม การขึ้น M-rate ทีเดียว 0.4% อาจกดดันให้ต้องสำรองฯเพิ่มขึ้นในกลุ่มลูกหนี้ที่เปราะบางได้ สำหรับ SCB ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” และ ราคาเป้าหมายที่ 130 บาท และ KTB แนะนำ “ซื้อ” และ ราคาเป้าหมายปี 66 ที่ 20บาท

.

ทั้งนี้ จากประมาณการคาดว่า M-rate จะค่อย ๆ ทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่กลับออกมาเป็นขึ้นทันที และ หากทุกธนาคารมีการปรับ M-rate ขึ้นทันทีเหมือน SCB และ KTB คาดว่าจะเป็น upside ต่อประมาณกำไรสุทธิของกลุ่มเฉลี่ยราว 2-3% โดย BBL จะได้ประโยชน์มากที่สุดจากความเสี่ยงในการตั้งสำรองฯ เพิ่มขึ้นอีกน้อยกว่ากลุ่ม เนื่องจากมี Coverage ratio ที่สูงถึง 240% รองลงมาเป็น KTB ขณะที่กลุ่มธนาคารยังเลือก KTB (ซื้อ/เป้า 20 บาท) , BBL (ซื้อ/เป้า 170 บาท) เป็น Top pick

.

บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คาดธนาคารพาณิชย์อื่น ๆ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ตามมา ซึ่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวคาดว่า จะทำให้ NIM ของธนาคารในไตรมาส 1/66 ทรงตัว หรือ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเทียบ QoQ เมื่อนำเรื่องการนำส่งเงินเข้า FIDF เข้ามาคำนวณ ยังคงชอบกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และ ให้น้ำหนักลงทุน Overweight ในครึ่งปีแรกปี 66

.

เนื่องจากสินเชื่อขยายตัวต่อในปีหน้า , บางธนาคารตั้งสำรอง ECL ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ , รายได้ Fee ขยายตัวตามสินเชื่อและธุรกรรมที่มากขึ้น , Valuationจูงใจ โดยราคาหุ้นธนาคารส่วนใหญ่ต่ำกว่า BVS (P/BV ต่ำกว่า 1 เท่า) ซึ่งหุ้นเด่นเป็น BBL , KBANK ส่วน Wild card คือ SCB, TTB สำหรับ KKP, TISCO แนะนำถือรับปันผลสูงในกรณีที่มีหุ้นต้นทุนต่ำ และ ซื้อจังหวะราคาอ่อนตัว

.

**********************************