HOT NEWS

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวกเล็กน้อย, S&P500-Nasdaq ปิดลบจากแรงขายหุ้นเทคโนฯ

—สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเพียงเล็กน้อยในวันพุธ (20 ส.ค.) ส่วนดัชนี Nasdaq และ S&P500 ยังคงปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหันไปลงทุนในหุ้นกลุ่มที่มูลค่าน้อยกว่า ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล สัปดาห์นี้

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,938.31 จุด เพิ่มขึ้น 16.04 จุด หรือ +0.04%,

 ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,395.78 จุด ลดลง 15.59 จุด หรือ -0.24%

 และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 21,172.86 จุด ลดลง 142.10 จุด หรือ -0.67%

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งเคยเป็นแรงขับเคลื่อนการฟื้นตัวของตลาดในช่วงเดือนเม.ย. เริ่มถูกเทขายในขณะนี้ โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในดัชนี S&P500 ปรับตัวลง 0.77% ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ปรับตัวขึ้น 0.86% และ 0.8% ตามลำดับ

นักวิเคราะห์อาวุโสจากบริษัท Allspring กล่าวว่า หากมองภาพรวมของตลาดจะเห็นว่าเป็นการหมุนเวียนการลงทุน (rotation) มากกว่าจะเป็นการเทขายครั้งใหญ่ เหตุผลอย่างแรกคือนักลงทุนมองว่ามูลค่าของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสูงเกินไปเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นในปัจจุบัน และเหตุผลที่สองคือ ยังมีหุ้นอีกหลายกลุ่มที่น่าสนใจมากเมื่อมองในแง่ของมูลค่า แต่หุ้นเหล่านี้กลับถูกมองข้าม

นักวิเคราะห์ยังกล่าวถึงปัจจัยลบอื่น ๆ ที่ส่งผลให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีถูกเทขาย ซึ่งรวมถึงคำพูดของแซม อัลต์แมน ซีอีโอของบริษัทโอเพนเอไอ (OpenAI) ที่กล่าวว่าหุ้นปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังอยู่ในภาวะฟองสบู่ ตลอดจนผลการศึกษาจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) ที่ชี้ให้เห็นว่าบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งกำลังประสบกับความยากลำบากในการเปลี่ยน AI ให้เป็นกำไรที่แท้จริง

นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับการที่รัฐบาลเข้ามาแทรกแซงบริษัทเทคโนโลยี โดยล่าสุดรัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณาที่จะเข้าถือหุ้นในบริษัทผลิตชิปซึ่งรวมถึงอินเทล (Intel) เพื่อแลกกับการที่บริษัทเหล่านี้ได้รับเงินอุดหนุนตามกฎหมาย CHIPS Act ซึ่งข่าวดังกล่าวมีขึ้นไม่นานหลังจากอินวิเดีย (Nvidia) และเอเอ็มดี (AMD) ทำข้อตกลงแบ่งรายได้จากการขายชิปในจีนให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ ในสัดส่วน 15% ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ทั้งนี้ นักลงทุนรอดูผลประกอบการของบริษัทอินวิเดียในวันที่ 27 ส.ค.นี้ เพื่อประเมินแนวโน้มความต้องการ AI

นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของเจอโรม พาวเวล ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง วันศุกร์นี้ เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับเวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย ท่ามกลางความหวังว่าพาวเวลอาจจะส่งสัญญาณถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ย

นอกจากนี้ นักลงทุนยังติดตามข่าวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรียกร้องให้ลิซา คุก สมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการเฟด ลาออกจากตำแหน่ง หลังจากบิล พูลที ผู้อำนวยการสำนักงานการเงินเพื่อการเคหะของรัฐบาลสหรัฐฯ (FHFA) ออกมาเปิดโปงว่า ลิซา คุก ได้กู้เงินจาก FHFA เพื่อซื้อบ้านในรัฐมิชิแกน โดยระบุว่าเป็นที่อยู่อาศัยหลัก แต่ต่อมาเธอได้กู้เงินอีกครั้งหนึ่งเพื่อซื้อคอนโดมิเนียมในแอตแลนตา และแจ้งว่าเป็นที่อยู่อาศัยหลักเช่นกัน ซึ่งการให้ข้อมูลเท็จดังกล่าวเป็นการแสวงหาประโยชน์จากสิทธิพิเศษจากอัตราดอกเบี้ยที่ FHFA มอบให้สำหรับที่อยู่อาศัยหลักเพียงแห่งเดียวเท่านั้น