วัดฝีมือ MGC

วัดฝีมือ MGC |ออฟเรคคอร์ด

ช่วงหลังๆ จะลงทุนใน หุ้นไอพีโอ ป้ายแดงจะลงทุนเป็นกล่องสุ่มเหมือนอดีตคงจะไม่ได้ เพราะที่ผ่านมาพิสูจณ์ให้เห็นแล้วว่า หุ้นใหม่ไม่สดใส และยังทำเอาขาดทุนยับก็มีมาให้เห็นกัน

๐๐๐ วัดฝีมือ MGC

      ช่วงหลังๆ  จะลงทุนใน หุ้นไอพีโอ  ป้ายแดงจะลงทุนเป็นกล่องสุ่มเหมือนอดีตคงจะไม่ได้เพราะที่ผ่านมา   พิสูจณ์ให้เห็นแล้วว่า หุ้นใหม่ไม่สดใส และยังทำเอาขาดทุนยับก็มีมาให้เห็นกัน

 ปัจจัยหุ้นจะขึ้นหรือจะลงวันแรกของการซื้อขายจะอาศัยแค่ “พื้นฐานธุรกิจ” อย่างเดียวคงจะไม่ได้เพราะรู้ๆ กันอยู่แล้วว่าต้องผสมกับ Money Game เข้าไปด้วย 

      ดังนั้นฝีไม้ลายมือและผลงานพอจะการันตรีได้จากอดีต น่าจะทำให้พอรู้ว่ามี ฝีมือของจริง  “เอาใจเจ้าของ” หรือ “ทิ้งรายย่อย ”  

     MGC  เตรียมเข้าตลาดหุ้นวันแรก(26 เม.ย.)  ด้วยหุ้นไอพีโอ 280 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 7.95 บาท P/E ratio เท่ากับ 14.72 เท่า และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 8,904 ล้านบาท

       ด้านธุรกิจถือว่ากระแสดี “ธุรกิจขายรถหรู” แบบครบวงจรมาร์จิ้นสูงตามความต้องการไปด้วย โดยมี ฟินันซ่า เป็น FA และยังมี บล.บัวหลวง underwriter 

      ด้านราคาหุ้นจะ ซิ่งแรง หรือ ทิ้งดิ่ง วัดดูที่หน้ากระดานหุ้น แต่ดูจาก “ฝีมือหุ้น” ในอดีต PQS  ที่ราคาร่วงแรงปิดตลาดวันแรกและยังไม่พ้นราคาจองซะด้วย  

๐๐๐

ตลาดหุ้นไทยดิ่งแรงกว่า 10 จุดตามภูมิภาค ท่ามกลางความวิตกกังวลประเด็นข้อพิพาทระหว่างจีนและสหรัฐเกี่ยวกับข้อจำกัดในการส่งออกชิปให้กับจีน ขณะที่ปัจจัยในประเทศล่าสุด คลังหั่นเป้าจีดีพีปีนี้เหลือโต 3.6% จากเดิมคาดไว้ที่ 3.8% หลังประเมินว่าส่งออกปีนี้จะติดลบ -0.5%

โดยดัชนีฯ ปิดการซื้อขายที่ 1,540.20 จุด ลดลง 17.67 จุด หรือ 1.13% ระหว่างวันแตะระดับสูงสุดที่ 1,559.86 จุด และระดับต่ำสุดที่ 1,538.31 จุด มูลค่าการซื้อขาย 46,215.92 ล้านบาท

นักลงทุนต่างชาติขาย 1,715.71 ล้านบาท พอร์ตโบรกเกอร์ขาย 56.32 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อ 546.43 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยซื้อ 1,225.60 ล้านบาท

๐๐๐

ราคาน้ำมันโลกเริ่มขยับอีกครั้ง หลังยอดการนำเข้าน้ำมันของจีนโตแรง ทำจุดสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี สะท้อนถึงดีมานด์ที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง เลยดันราคาหุ้น บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ปิด 156 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 0.32%

๐๐๐

อีกหนึ่งประเด็นร้อนช่วงนี้คงหนีไม่พ้น “ค่าไฟแพง” ซึ่งล่าสุดรัฐก็ยอมถอย ปรับลดค่าไฟเดือนพ.ค.-ส.ค. เหลือหน่วยละ 4.70 บาท จากมติเดิมที่จะให้ขึ้นค่าไฟเป็น 4.77 บาท/หน่วย

แม้ค่าไฟจะลดลงไม่เยอะเพียงแค่ 0.02 บาท จากอัตราปัจจุบันที่ครัวเรือนต้องจ่ายค่าไฟหน่วยละ 4.72 บาท แต่ก็กลายเป็นจิตวิทยาเชิงลบต่อ “กลุ่มโรงไฟฟ้า” ราคาดิ่งถ้วนหน้า

โดยบมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ปิด 50.50 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 0.98%, บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) ปิด 62.50 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 1.19%, บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) ) ปิด 37.50 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 1.32%, บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) ปิด 3.92 บาท ลดลง 0.06 บาท หรือ 1.51%

แต่จะเห็นว่าแต่ละหุ้นลงไม่เยอะ เพราะแทบไม่กระทบต่อพื้นฐาน แถมช่วงนี้ยังได้รับอานิสงส์จากต้นทุนการผลิตที่ลดลง และการเดินหน้าประมูลโรงฟ้าใหม่

๐๐๐

ด้านบมจ.ซิก้า อินโนเวชั่น (ZIGA) ดิ่งหนักร่วงติดฟลอร์ 2.06 บาท หลังเผชิญมรสุมรุมเร้า ทั้งโดนฟ้องกรณีที่กรรมการยักยอกทรัพย์จากการขายโทเคนดิจิทัลหลักร้อยล้าน แถมบริษัทรับจ้างขุดบิทคอยน์ทำผิดสัญญา

๐๐๐

ปิดท้ายด้วย บมจ.เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) (KEX) สยายปีกเปิดจุดให้บริการส่งพัสดุด่วนใน 7- ELEVEN ทั่วประเทศ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจ เพราะสามารถขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้น เปิดให้บริการได้ 24 ชั่วโมง แถมเพิ่มทางเลือกในการเก็บเงินปลายทาง