เปิดคาดการณ์เงินปันผล
10 บริษัทยักษ์ใหญ่ในตลาดหุ้นไทย

.
นักลงทุนที่ตั้งหน้าตั้งตารอเงินปันผล วันนี้ Wealthy Thai รวบรวมมาให้นักลงทุนแล้ว ซึ่งจะเป็นการคาดการณ์เงินปันผลงวดปี 2565 ของหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปสูงสุด 10 อันดับในตลาดหุ้นไทย โดยแต่ละตัวจะมีความน่าสนใจแค่ไหน และจะมีการจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนอยู่ในเกณฑ์ที่ดีหรือไม่ บทความนี้มีคำตอบแล้ว
.
เริ่มจากหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปสูงสุด 10 อันดับแรก (ไม่รวม AOT เพราะรอบงบไม่เหมือนกับหุ้นอื่น) เริ่มจากพี่ใหญ่ของตลาดหุ้นไทยอย่าง PTT โดยมุมมองของนักวิเคราะห์บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ให้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ที่ 42.75 บาท ทั้งนี้ ด้วยผลตอบแทนผู้ถือหุ้นรวม (TSR) ที่ 33% จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” PTT โดยคาดว่าราคาหุ้นปัจจุบันมี downside ที่จำกัด เนื่องจากหุ้นซื้อขายอิงตาม P/BV ที่ไม่แพง 0.81 เท่า และคาดว่าอาจเห็นการปรับเพิ่มตัวมูลค่าหุ้นในระยะยาวเมื่อธุรกิจ S-curve เริ่มสร้างส่วนแบ่งกำไรอย่างมีนัยสำคัญ โดยประเมินเงินปันผลปี 2565 ที่ 2 บาท
.
ถัดมา PTTEP โดยบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2565-2566 ที่ 7.2-7.3 หมื่นล้านบาท (All time high) ประเมินเงินปันผลปี 2565 ที่ 8.2 บาท ทั้งนี้ ทางพื้นฐานคงมุมมองเป็นกลาง และคำแนะนำ TRADING ราคาเหมาะสม 176 บาท เนื่องจากมองว่าโมเมนตัมกำไร และทิศทางราคาน้ำมันในปี 2566 จะเริ่มชะลอตัว หลังผ่านจุดที่ดีสุดในปีนี้ไปแล้ว
.
GULF โดยบล. หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า คงประมาณการกำไรปกติปี 2566 ที่ 18,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.2%จากปีก่อน คงราคาเป้าหมายที่ 66 บาท และคงแนะนำ ซื้อ โดยประเมินเงินปันผลปี 2565 ที่ 0.56 บาท นอกจากนี้คาดว่าในช่วงไตรมาส 4/65 มีประเด็นเก็งกำไรหลัก 3 ประเด็น 1. การยื่นข้อเสนอขายไฟให้กับ กกพ. ตามแผนรับซื้อของ กกพ. ที่ 5.2GW 2.การเปิดเผยแผนการลงทุน Data center และ 3.การเข้าลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในยุโรปเพิ่มเติม
.
CPALL โดยบล. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เปิดเผยว่า ไตรมาส 4265 มีแนวโน้มสดใส ทั้งจากคนไทยท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้นและนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มอย่างมีนัยยะสำคัญ คาดกำไรปกติปี 65 โต 53% และดีขึ้นต่อเนื่องในปี 66 อีก 20% ทั้งจากการปรับเพิ่มสินค้า ตามกระแส นิยม การใช้ 7-Delivery ช่วยเพิ่มยอดสั่งซื้อต่อบิล และ All online ขายสินค้าแพ็คใหญ่ ช่วยเพิ่มยอดขาย ให้ราคาเป้าหมายปี 66 อยู่ที่ 74 บาท แนะนำ ซื้อ โดยประเมินเงินปันผลปี 2565 ที่ 0.66 บาท
.
ADVANC โดยบล. กรุงศรี กล่าวว่า ยังคงคำแนะนำซื้อโดยประเมินราคาเป้าหมายที่ 238 บาท โดยธีมการลงทุนใน ADVANC ยังคงเป็นเรื่องการฟื้นตัวของผลประกอบการ ซึ่งมองว่ามีแนวโน้มดีขึ้นในไตรมาส 4/65 เนื่องจากการแข่งขันด้านราคาลดลง นอกจากนี้ มองว่าประมาณการกำไรยังมี upside อีกถ้าหาก ADVANC สามารถ up-sell และ cross-sell บริการต่างๆ ได้หลังจากที่เข้าไปซื้อ 3BB เรียบร้อยแล้ว โดยประเมินเงินปันผลปี 2565 ที่ 7.43 บาท
.
BDMS โดยบล. หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า แนะนำ “ซื้อ” คงมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการในปี 2565 -2566 ที่คาดเติบโตเด่นสุดในกลุ่มโรงพยาบาล เนื่องจากรับผลบวกโดยตรงจากการเปิดประเทศ คงมูลค่าพื้นฐานในปี 2566 ที่ 37.40 บาท โดยประเมินเงินปันผลปี 2565 ที่ 0.71 บาท
.
SCC โดยบล. หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า แนะนำ TRADING ราคาเหมาะสม 400 บาท โดยประเมินเงินปันผลปี 2565 ที่ 12 บาท ขณะที่มองว่าระยะยาว SCGJWD จะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจ Flagship ที่มีความสำคัญต่อ SCC โดยฐานะการเงินของ Merged-co ที่ดีขึ้นจะช่วยรองรับโอกาสการเติบโตจาก Mega Trend และการขยายตัวแบบ Inorganic growth
.
EA โดยบล. หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า คงคำแนะนำ “TRADING” ปรับราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 เป็น 105 บาท ประเมินเงินปันผลปี 2565 ที่ 0.30 บาท ทั้งนี้ EA กำลังอยู่ระหว่างการขยายกำลังผลิตแบตเตอรี่เป็น 2GWh ในปี 2566 และ 4GWh ภายในปี 2567 เพื่อรองรับความต้องการใช้งานแบตเตอรี่ภายในกลุ่มฯ รวมถึงอยู่ระหว่างการพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ให้มีต้นทุนที่ถูกลง
.
SCB โดยบล. หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ชอบ SCB จากทิศทางการพัฒนาธุรกิจที่เน้นการขยายธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนสูง ซึ่งแม้ในช่วงสั้นอาจทำให้ดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้นมาบ้าง แต่ในระยะยาวมองว่าบริษัทจะมีศักยภาพทำกำไรที่สูงขึ้นเรื่อยๆ และช่วยให้ ROE ของ SCB เร่งตัวขึ้นได้โดดเด่นกว่าธนาคารใหญ่รายอื่น ให้มูลค่าพื้นฐานปี 2566 ที่ 144 บาท คง แนะนำ “ซื้อ”ประเมินเงินปันผลปี 2565 ที่ 4.98 บาท
.
KBANK โดยบล. หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า มองผลการดำเนินงานของ KBANK ในช่วงสั้นยังถูกกดดันด้วยค่าใช้จ่ายตั้งสำรองที่ลดลงได้ยาก จากการปรับคุณภาพสินทรัพย์โดยรวมให้แข็งแรงขึ้นเพื่อรองรับความเสี่ยงในอนาคต ซึ่งจะเริ่มเห็นผลดีตั้งแต่ปี 2566 หลังแรงกดดันในการตั้งสำรองที่ลดต่ำลง ให้มูลค่าพื้นฐานใหม่ปี 2566 ที่ 187 บาท จึงคงคำ แนะนำ“ซื้อ” ประเมินเงินปันผลปี 2565 ที่ 4 บาท